ตรัง – พ่อเหยื่อแก๊งปาหินรถไฟ เตรียมร้องเรียน พนง.เดินรถ หลังไม่ยอมหยุดขบวนนำลูกชายส่ง รพ.เผยหลังเกิดเหตุไร้ จนท.ดูแล ต้องปฐมพยาบาลกันเอง ด้าน รก.ร.ฟ.ท.ตรัง เตรียมสอบหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
วันนี้ (8 ม.ค.) นายบุญธรรณ หาญทะเล อายุ 45 ปี เจ้าของเกาะไหงวิลล่า ผู้ประกอบธุรกิจรีสอร์ตชื่อดังของจังหวัดตรัง ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนถึงกรณีที่บุตรชาย คือ นายบุญธเนศ หาญทะเล อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ถูก 5 นักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ใช้ขวดเหล้า ก้อนหิน และก้อนดิน ขว้างปาใส่ขบวนรถไฟขบวนที่ 84 สายตรัง-กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 18.12 น.วันที่ 6 มกราคม 2551 ที่ผ่านมา
บริเวณพื้นที่หมู่ที่ 12 ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ระหว่างกำลังรับประทานอาหารอยู่ภายในตู้เสบียง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เย็บถึง 20 เข็ม และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมแก๊งปาหินทั้ง 5 คนได้แล้วนั้น
นายบุญธรรณ ยืนยันว่า จะเดินหน้าร้องเรียนพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ไม่ยอมหยุดรถไฟขบวนที่เกิดเหตุ เพื่อนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ทั้งๆ ที่เส้นทางเดินรถไฟช่วงที่เกิดเหตุนั้น ก็เป็นทางสายเดี่ยว ที่เชื่อมต่อระหว่างสถานีตรัง กับสถานีชุมทางทุ่งสง โดยมีขบวนรถไฟแล่นผ่านไปมาในแต่ละวันน้อยมาก
เหตุการณ์ดังกล่าวก็เกิดขึ้นก่อนจะถึงสถานีชุมทางทุ่งสงหลายกิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินรถนานประมาณ 1 ชั่วโมง จึงจะถึงที่หมาย แต่พนักงานกลับไม่ยอมหยุดขบวนรถไฟ และวิ่งต่อไปโดยไม่ฟังเสียงการร้องขอของผู้บาดเจ็บ ที่โชคดีมีอาการไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ขณะเดียวกัน เมื่อถึงสถานีชุมทางทุ่งสงแล้ว ก็ไม่มีการจัดเตรียมรถพยาบาล ต้องให้รถของมูลนิธินำผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลเอง
นอกจากนั้น บนขบวนรถไฟดังกล่าว ยังไม่มีชุดรักษาพยาบาลไว้ประจำ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ก็ไม่มีพนักงานคนใดสนใจมาช่วยเหลือ ญาติของผู้บาดเจ็บต้องหาเศษเสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่างๆ มาทำการปฐมพยาบาลกันเองเป็นการเบื้องต้น นับเป็นการบริการที่ทำให้ตนเองรู้สึกเศร้าใจและเสียใจอย่างมาก จึงขอเดินหน้าเรียกร้องเพื่อให้มีการบริการที่เป็นมาตรฐานและเป็นบรรทัดฐาน สำหรับผู้ใช้บริการของการรถไฟแห่งประเทศไทยในอนาคตข้างหน้า
ทั้งนี้ เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสียหาย ทั้งต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย และของจังหวัดตรัง เป็นอย่างมาก โดยเบื้องต้นตนจะร้องเรียนไปยังผู้รับผิดชอบทุกระดับชั้น เช่น นายสถานีรถไฟตรัง นายสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง และผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย
นายประพัฒน์ ไหมขาว รักษาการนายสถานีรถไฟตรัง กล่าวว่า ในส่วนของอำนาจนายสถานีรถไฟตรังนั้น สามารถช่วยเหลือได้แค่เรื่องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น ซึ่งจุดที่เกิดเหตุเกิดขึ้นในช่วงรอยต่อระหว่างสถานีรถไฟห้วยยอด ถึงสถานีรถไฟที่วัง ซึ่งอยู่ในเขตรับผิดชอบของนายสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง
สำหรับเรื่องที่ผู้เสียหายจะทำการร้องเรียน เพื่อเรียกร้องให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ทำการปรับปรุงเรื่องงานบริการนั้น หากมีการยื่นผ่านมายังตนเองเมื่อไหร่ ก็พร้อมจะนำเสนอต่อไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบแล้ว
รักษาการนายสถานีรถไฟตรัง ยอมรับว่า บนขบวนรถไฟโดยปกติ จะไม่มีเจ้าหน้าที่พยาบาลไว้คอยดูแล มีเพียงยาสามัญประจำบ้านที่ติดไว้บนขบวนไฟเท่านั้น รวมทั้งชุดห้ามเลือด ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายระบุว่า ในวันเกิดเหตุไม่มีแม้เจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์ห้ามเลือดมาช่วยเหลือ ทำให้ญาติของผู้บาดเจ็บต้องช่วยเหลือตัวเอง และเมื่อร้องขอให้หยุดขบวนรถไป ก็ไม่ได้รับความสนใจนั้น
ตนก็ไม่ทราบข้อเท็จจริง ต้องสอบถามไปยังท้องที่รับผิดชอบ คือ นายสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง สำหรับเรื่องของการติดตามดำเนินคดีกับนักเรียนวัยซนทั้ง 5 คนนั้น ได้มีฝ่ายกฎหมายของการรถไฟแห่งประเทศไทย ไปทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัษฎาแล้ว
วันนี้ (8 ม.ค.) นายบุญธรรณ หาญทะเล อายุ 45 ปี เจ้าของเกาะไหงวิลล่า ผู้ประกอบธุรกิจรีสอร์ตชื่อดังของจังหวัดตรัง ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนถึงกรณีที่บุตรชาย คือ นายบุญธเนศ หาญทะเล อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ถูก 5 นักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ใช้ขวดเหล้า ก้อนหิน และก้อนดิน ขว้างปาใส่ขบวนรถไฟขบวนที่ 84 สายตรัง-กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 18.12 น.วันที่ 6 มกราคม 2551 ที่ผ่านมา
บริเวณพื้นที่หมู่ที่ 12 ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ระหว่างกำลังรับประทานอาหารอยู่ภายในตู้เสบียง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เย็บถึง 20 เข็ม และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมแก๊งปาหินทั้ง 5 คนได้แล้วนั้น
นายบุญธรรณ ยืนยันว่า จะเดินหน้าร้องเรียนพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ไม่ยอมหยุดรถไฟขบวนที่เกิดเหตุ เพื่อนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ทั้งๆ ที่เส้นทางเดินรถไฟช่วงที่เกิดเหตุนั้น ก็เป็นทางสายเดี่ยว ที่เชื่อมต่อระหว่างสถานีตรัง กับสถานีชุมทางทุ่งสง โดยมีขบวนรถไฟแล่นผ่านไปมาในแต่ละวันน้อยมาก
เหตุการณ์ดังกล่าวก็เกิดขึ้นก่อนจะถึงสถานีชุมทางทุ่งสงหลายกิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินรถนานประมาณ 1 ชั่วโมง จึงจะถึงที่หมาย แต่พนักงานกลับไม่ยอมหยุดขบวนรถไฟ และวิ่งต่อไปโดยไม่ฟังเสียงการร้องขอของผู้บาดเจ็บ ที่โชคดีมีอาการไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ขณะเดียวกัน เมื่อถึงสถานีชุมทางทุ่งสงแล้ว ก็ไม่มีการจัดเตรียมรถพยาบาล ต้องให้รถของมูลนิธินำผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลเอง
นอกจากนั้น บนขบวนรถไฟดังกล่าว ยังไม่มีชุดรักษาพยาบาลไว้ประจำ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ก็ไม่มีพนักงานคนใดสนใจมาช่วยเหลือ ญาติของผู้บาดเจ็บต้องหาเศษเสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่างๆ มาทำการปฐมพยาบาลกันเองเป็นการเบื้องต้น นับเป็นการบริการที่ทำให้ตนเองรู้สึกเศร้าใจและเสียใจอย่างมาก จึงขอเดินหน้าเรียกร้องเพื่อให้มีการบริการที่เป็นมาตรฐานและเป็นบรรทัดฐาน สำหรับผู้ใช้บริการของการรถไฟแห่งประเทศไทยในอนาคตข้างหน้า
ทั้งนี้ เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสียหาย ทั้งต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย และของจังหวัดตรัง เป็นอย่างมาก โดยเบื้องต้นตนจะร้องเรียนไปยังผู้รับผิดชอบทุกระดับชั้น เช่น นายสถานีรถไฟตรัง นายสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง และผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย
นายประพัฒน์ ไหมขาว รักษาการนายสถานีรถไฟตรัง กล่าวว่า ในส่วนของอำนาจนายสถานีรถไฟตรังนั้น สามารถช่วยเหลือได้แค่เรื่องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น ซึ่งจุดที่เกิดเหตุเกิดขึ้นในช่วงรอยต่อระหว่างสถานีรถไฟห้วยยอด ถึงสถานีรถไฟที่วัง ซึ่งอยู่ในเขตรับผิดชอบของนายสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง
สำหรับเรื่องที่ผู้เสียหายจะทำการร้องเรียน เพื่อเรียกร้องให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ทำการปรับปรุงเรื่องงานบริการนั้น หากมีการยื่นผ่านมายังตนเองเมื่อไหร่ ก็พร้อมจะนำเสนอต่อไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบแล้ว
รักษาการนายสถานีรถไฟตรัง ยอมรับว่า บนขบวนรถไฟโดยปกติ จะไม่มีเจ้าหน้าที่พยาบาลไว้คอยดูแล มีเพียงยาสามัญประจำบ้านที่ติดไว้บนขบวนไฟเท่านั้น รวมทั้งชุดห้ามเลือด ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายระบุว่า ในวันเกิดเหตุไม่มีแม้เจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์ห้ามเลือดมาช่วยเหลือ ทำให้ญาติของผู้บาดเจ็บต้องช่วยเหลือตัวเอง และเมื่อร้องขอให้หยุดขบวนรถไป ก็ไม่ได้รับความสนใจนั้น
ตนก็ไม่ทราบข้อเท็จจริง ต้องสอบถามไปยังท้องที่รับผิดชอบ คือ นายสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง สำหรับเรื่องของการติดตามดำเนินคดีกับนักเรียนวัยซนทั้ง 5 คนนั้น ได้มีฝ่ายกฎหมายของการรถไฟแห่งประเทศไทย ไปทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัษฎาแล้ว
