ศูนย์ข่าวภูเก็ต - โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ตคืบหน้า หลังซื้อโรงพยาบาลพญาไทมาปรับปรุง ขณะที่ “บ้านแพ้ว” เข้าช่วยเหลือด้านบุคลากร จัดการด้านการแพทย์ เชื่อเป็นที่ยอมรับของประชาชนแน่นอนค่ารักษาไม่แพงไม่มุ่งแสวงกำไร
นายแพทย์สุรพงษ์ บุญประเสิรฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร กล่าวภายหลังประชุร่วมกันระหว่าง คณะผู้บริการองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตกับ ผู้บริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว เพื่อหารือแนวทางการบริหารจัดการโรงพยาบาลท้องถิ่นของ อบจ.ภูเก็ต หลังจากที่ อบจ.ภูเก็ต ได้จัดซื้อโรงพยาบาลพญาไทภูเก็ต มาดำเนินการเพื่อให้เป็นโรงพยาบาลท้องถิ่นตอบสนองบริการด้านสาธารณสุขแก่คนภูเก็ตว่า
แนวทางความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลบ้านแพ้ว กับ อบจ.ภูเก็ต ในการบริหาร รพ.แห่งนี้นั้น ทางโรงพยาบาลบ้านแพ้ว จะเข้ามาช่วยเหลือในด้านบุคลากรทางการแพทย์ และการจัดการบริการด้านการแพทย์ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเพื่อจะทำให้โรงพยาบาลได้รับการยอมรับจากประชาชน
รพ.แห่งนี้ จะเป็นโรงพยาบาลทั่วไป โดยไม่มุ่งแสวงหากำไร ซึ่งให้ความมั่นใจว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ ค่ารักษาพยาบาลจะไม่แพง เท่าโรงพยาบาลเอกชน แต่ประสิทธิภาพทางการให้บริการแพทย์จะทัดเทียมกันทุกอย่าง
ขณะที่นางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า โรงพยาบาลแห่งนี้ จะเป็นโรงพยาบาลท้องถิ่นเพื่อคนภูเก็ต โดยที่ไม่มุ่งหวังกำไรแต่ต้องให้เลี้ยงตัวเองได้ และจะให้สิทธิพิเศษการดูแลแก่ผู้สูงอายุและคนพิการ ส่วนข้าราชการสามารถใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลได้
นายแพทย์วิทิต อรรถเวชกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว กล่าวว่า จากที่ได้เห็นการออกแบบของโรงพยาบาลภูเก็ต พบว่ามีความสวยงามและทันสมัยเทียบเท่าโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งจะทำให้ฝันของชาวภูเก็ตในการดูแลระบบสาธารณสุขเป็นความจริง การปรับปรุง รพ. มีการดำเนินงานตามแผนพันธกิจ 3 ระยะ คือ เฟสแรก การดูรายละเอียดการปรับปรุง ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ เฟสที่ 2 การปรับปรุงระบบต่างๆอาทิ ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ เมดิคอลแก็ส ไอที ระบบโทรศัพท์
ส่วนเฟสที่ 3 ทางบ้านแพ้วจะเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องของเตรียมระบบบริการ บุคลากร ซึ่งจะช่วยในกรอบการคิดที่เป็นไปได้และประหยัดมีประสิทธิภาพที่สุด ทั้งนี้ ระบบความร่วมมือระหว่าง อบจ.ภูเก็ต กับรพ.บ้านแพ้ว ในการจัดทำโรงพยาบาล จะให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานมากที่สุด แต่ถูกต้องตามระเบียบราชการ ซึ่งจังหวัดภูเก็ต มีจุดแข็งทางด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ระดับโลก เชื่อว่าจะมีแพทย์ทั้งในและต่างประเทศเข้ามาทำงาน และจะทำให้เป็น รพ.ที่เด่นทางด้านวิชาการ ส่วนในอนาคตอาจจะมีแพทย์จากศิริราชและรามา เข้ามาร่วม
ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว กล่าวอีกว่า อยากให้ชื่อโรงพยาบาลเป็นชื่อมงคลนาม หรือชื่อพระราชทาน ในส่วนของแนวทางการดำเนินงาน ระบบทางการแพทย์ นั้น ทางบ้านแพ้วจะเข้ามาดูแลให้ ขณะที่ในเรื่องการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือให้ทาง อบจ.ภูเก็ตรับผิดชอบ และเมื่อ อบจ.มีการจัดตั้งกองการแพทย์คาดว่าจะมีคนขอย้ายเข้ามามากขึ้น และเมื่อการวางระบบการทำงานและบุคลากรของ ร.พ. มีความเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ปี อบจ.ภูเก็ตก็จะดำเนินการได้เอง
ทั้งนี้ อบจ.ภูเก็ต ได้วางกรอบระยะเวลาการปรับปรุง โรงพยาบาล เพื่อให้เปิดบริการได้ทันในเดือนธันวาคม 2551 โดยเดือนมกราคม 51 เป็นช่วงของการออกแบบการปรับปรุง การดำเนินการจัดตั้งกองแพทย์ จากนั้นเดือนกุมภาพันธ์จะทำการประมูลเพื่อปรับปรุงโรงพยาบาล และลงนามความร่วมมือระหว่าง อบจ.ภูเก็ต กับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว และจัดตั้งสถานพยาบาล ในเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน เป็นช่วงจัดหาบุคลากรและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ส่วนในเดือนตุลาคมเริ่มจ้างพนักงาน และจะตรวจรับงานในเดือนพฤศจิกายน
นายแพทย์สุรพงษ์ บุญประเสิรฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร กล่าวภายหลังประชุร่วมกันระหว่าง คณะผู้บริการองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตกับ ผู้บริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว เพื่อหารือแนวทางการบริหารจัดการโรงพยาบาลท้องถิ่นของ อบจ.ภูเก็ต หลังจากที่ อบจ.ภูเก็ต ได้จัดซื้อโรงพยาบาลพญาไทภูเก็ต มาดำเนินการเพื่อให้เป็นโรงพยาบาลท้องถิ่นตอบสนองบริการด้านสาธารณสุขแก่คนภูเก็ตว่า
แนวทางความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลบ้านแพ้ว กับ อบจ.ภูเก็ต ในการบริหาร รพ.แห่งนี้นั้น ทางโรงพยาบาลบ้านแพ้ว จะเข้ามาช่วยเหลือในด้านบุคลากรทางการแพทย์ และการจัดการบริการด้านการแพทย์ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเพื่อจะทำให้โรงพยาบาลได้รับการยอมรับจากประชาชน
รพ.แห่งนี้ จะเป็นโรงพยาบาลทั่วไป โดยไม่มุ่งแสวงหากำไร ซึ่งให้ความมั่นใจว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ ค่ารักษาพยาบาลจะไม่แพง เท่าโรงพยาบาลเอกชน แต่ประสิทธิภาพทางการให้บริการแพทย์จะทัดเทียมกันทุกอย่าง
ขณะที่นางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า โรงพยาบาลแห่งนี้ จะเป็นโรงพยาบาลท้องถิ่นเพื่อคนภูเก็ต โดยที่ไม่มุ่งหวังกำไรแต่ต้องให้เลี้ยงตัวเองได้ และจะให้สิทธิพิเศษการดูแลแก่ผู้สูงอายุและคนพิการ ส่วนข้าราชการสามารถใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลได้
นายแพทย์วิทิต อรรถเวชกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว กล่าวว่า จากที่ได้เห็นการออกแบบของโรงพยาบาลภูเก็ต พบว่ามีความสวยงามและทันสมัยเทียบเท่าโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งจะทำให้ฝันของชาวภูเก็ตในการดูแลระบบสาธารณสุขเป็นความจริง การปรับปรุง รพ. มีการดำเนินงานตามแผนพันธกิจ 3 ระยะ คือ เฟสแรก การดูรายละเอียดการปรับปรุง ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ เฟสที่ 2 การปรับปรุงระบบต่างๆอาทิ ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ เมดิคอลแก็ส ไอที ระบบโทรศัพท์
ส่วนเฟสที่ 3 ทางบ้านแพ้วจะเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องของเตรียมระบบบริการ บุคลากร ซึ่งจะช่วยในกรอบการคิดที่เป็นไปได้และประหยัดมีประสิทธิภาพที่สุด ทั้งนี้ ระบบความร่วมมือระหว่าง อบจ.ภูเก็ต กับรพ.บ้านแพ้ว ในการจัดทำโรงพยาบาล จะให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานมากที่สุด แต่ถูกต้องตามระเบียบราชการ ซึ่งจังหวัดภูเก็ต มีจุดแข็งทางด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ระดับโลก เชื่อว่าจะมีแพทย์ทั้งในและต่างประเทศเข้ามาทำงาน และจะทำให้เป็น รพ.ที่เด่นทางด้านวิชาการ ส่วนในอนาคตอาจจะมีแพทย์จากศิริราชและรามา เข้ามาร่วม
ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว กล่าวอีกว่า อยากให้ชื่อโรงพยาบาลเป็นชื่อมงคลนาม หรือชื่อพระราชทาน ในส่วนของแนวทางการดำเนินงาน ระบบทางการแพทย์ นั้น ทางบ้านแพ้วจะเข้ามาดูแลให้ ขณะที่ในเรื่องการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือให้ทาง อบจ.ภูเก็ตรับผิดชอบ และเมื่อ อบจ.มีการจัดตั้งกองการแพทย์คาดว่าจะมีคนขอย้ายเข้ามามากขึ้น และเมื่อการวางระบบการทำงานและบุคลากรของ ร.พ. มีความเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ปี อบจ.ภูเก็ตก็จะดำเนินการได้เอง
ทั้งนี้ อบจ.ภูเก็ต ได้วางกรอบระยะเวลาการปรับปรุง โรงพยาบาล เพื่อให้เปิดบริการได้ทันในเดือนธันวาคม 2551 โดยเดือนมกราคม 51 เป็นช่วงของการออกแบบการปรับปรุง การดำเนินการจัดตั้งกองแพทย์ จากนั้นเดือนกุมภาพันธ์จะทำการประมูลเพื่อปรับปรุงโรงพยาบาล และลงนามความร่วมมือระหว่าง อบจ.ภูเก็ต กับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว และจัดตั้งสถานพยาบาล ในเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน เป็นช่วงจัดหาบุคลากรและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ส่วนในเดือนตุลาคมเริ่มจ้างพนักงาน และจะตรวจรับงานในเดือนพฤศจิกายน