สงขลา – ตร.สงขลาบุกค้นบ้าน 2 หลังใกล้อนามัย หลังเจ้าไม่ยอมให้ปากคำกรณีคนร้ายบุกทำร้ายหมอถึงบ้านพัก แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ จนท.มึนปมสังหาร ญาติให้การขัดแย้งกันเอง
ความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกทำร้ายนายสมพิศ คงประดิษฐ์ อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชุมชน 3 สถานีอนามัยบ้านบ่ออิฐ ม.8 ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา ภายในบ้านพักสถานีอนามัย เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะอุ้มไปฆ่าและพบร่างถูกนำไปทิ้งไว้ใต้สะพานคลองปลักจาก ม.11 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมาในสภาพที่ถูกตีด้วยของแข็งที่ท้ายทอยและลำคอมีร่องรอยรัดด้วยเชือก โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีบรอนด์ทอง ทะเบียน กธ-2524 สงขลา หลบหนีไปด้วย
ล่าสุด เช้าวันนี้ (6 ม.ค.) พ.ต.ท.สกุลเกียรติ นาขวัญ รอง ผกก.สส.สภ.สงขลา ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พ.ต.อ.พัชรพงศ์ พานิชประเสริฐ ผกก. ให้เป็นหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีนี้ ได้นำตำรวจชุดสืบสวนพร้อมหมายค้นเข้าค้นบ้านผู้ต้องสงสัยที่อาจจะมีส่วนรู้เห็นกับการอุ้มฆ่านายสมพิศ อย่างน้อย 2 หลัง ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่รอบๆ สถานีอนามัยบ่ออิฐ
เนื่องจากหลังเกิดเหตุทางตำรวจได้เชิญตัวเจ้าของบ้านมาสอบสวนเพื่อหาเบาะแสต่างๆ ของคนร้าย แต่ปรากฏว่าเจ้าของบ้านไม่มาและไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ จึงสงสัยว่าอาจจะมีพิรุธหรือรู้เห็นขณะที่คนร้ายบุกเข้าไปทำร้ายนายสมพิศในบ้านพัก
อย่างไรก็ตาม การเข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยในครั้งนี้ไม่พบหลักฐานใดๆ และเจ้าหน้าที่ไม่ได้ควบคุมตัวเจ้าของบ้านแต่อย่างใด
พ.ต.ท.สกุลเกียรติ กล่าวว่า จากการเข้าตรวจหาหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งภายในบ้านพักของสถานีอนามัยบ่ออิฐ ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายเข้าไปทำร้ายนายสมพิศ ไม่พบหลักฐานใดๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับคนร้าย
ในขณะที่จากการนำหมายค้นเข้าตรวจสอบภายในบ้านผู้ต้องสงสัยก็ไม่ได้เบาะแสอะไร เนื่องจากไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ที่สำคัญประเด็นการสังหารนั้นยังสับสนไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่ามาจากเรื่องใดกันแน่ เพราะจากการสอบสวนพยานแวดล้อมซึ่งเป็นญาติใกล้ชิดนั้นต่างให้การไปคนละทางและขัดแย้งกันเอง จึงยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ ซึ่งมีผลต่อการหาเบาะแสคนร้ายด้วย เพราะหากทราบรายละเอียดที่แน่ชัดว่ามีความขัดแย้งกับใคร ในเรื่องใดก็จะคลำเป้าหมายได้ง่ายขึ้น แต่เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีอย่างน้อย 1-2 คน
ส่วนเบาะแสของรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีบรอนด์ทอง ทะเบียน กธ-2524 สงขลา จนถึงขณะนี้ยังไม่พบรถคันดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ได้ประสานไปยัง สภ.ใกล้เคียง ให้ช่วยติดตามรถคันดังกล่าว เพราะเชื่อว่ารถยังไม่ถูกทำลายคนร้ายน่าจะขับไปซ่อนไว้ที่ใดที่หนึ่ง
ความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกทำร้ายนายสมพิศ คงประดิษฐ์ อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชุมชน 3 สถานีอนามัยบ้านบ่ออิฐ ม.8 ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา ภายในบ้านพักสถานีอนามัย เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะอุ้มไปฆ่าและพบร่างถูกนำไปทิ้งไว้ใต้สะพานคลองปลักจาก ม.11 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมาในสภาพที่ถูกตีด้วยของแข็งที่ท้ายทอยและลำคอมีร่องรอยรัดด้วยเชือก โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีบรอนด์ทอง ทะเบียน กธ-2524 สงขลา หลบหนีไปด้วย
ล่าสุด เช้าวันนี้ (6 ม.ค.) พ.ต.ท.สกุลเกียรติ นาขวัญ รอง ผกก.สส.สภ.สงขลา ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พ.ต.อ.พัชรพงศ์ พานิชประเสริฐ ผกก. ให้เป็นหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีนี้ ได้นำตำรวจชุดสืบสวนพร้อมหมายค้นเข้าค้นบ้านผู้ต้องสงสัยที่อาจจะมีส่วนรู้เห็นกับการอุ้มฆ่านายสมพิศ อย่างน้อย 2 หลัง ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่รอบๆ สถานีอนามัยบ่ออิฐ
เนื่องจากหลังเกิดเหตุทางตำรวจได้เชิญตัวเจ้าของบ้านมาสอบสวนเพื่อหาเบาะแสต่างๆ ของคนร้าย แต่ปรากฏว่าเจ้าของบ้านไม่มาและไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ จึงสงสัยว่าอาจจะมีพิรุธหรือรู้เห็นขณะที่คนร้ายบุกเข้าไปทำร้ายนายสมพิศในบ้านพัก
อย่างไรก็ตาม การเข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยในครั้งนี้ไม่พบหลักฐานใดๆ และเจ้าหน้าที่ไม่ได้ควบคุมตัวเจ้าของบ้านแต่อย่างใด
พ.ต.ท.สกุลเกียรติ กล่าวว่า จากการเข้าตรวจหาหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งภายในบ้านพักของสถานีอนามัยบ่ออิฐ ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายเข้าไปทำร้ายนายสมพิศ ไม่พบหลักฐานใดๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับคนร้าย
ในขณะที่จากการนำหมายค้นเข้าตรวจสอบภายในบ้านผู้ต้องสงสัยก็ไม่ได้เบาะแสอะไร เนื่องจากไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ที่สำคัญประเด็นการสังหารนั้นยังสับสนไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่ามาจากเรื่องใดกันแน่ เพราะจากการสอบสวนพยานแวดล้อมซึ่งเป็นญาติใกล้ชิดนั้นต่างให้การไปคนละทางและขัดแย้งกันเอง จึงยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ ซึ่งมีผลต่อการหาเบาะแสคนร้ายด้วย เพราะหากทราบรายละเอียดที่แน่ชัดว่ามีความขัดแย้งกับใคร ในเรื่องใดก็จะคลำเป้าหมายได้ง่ายขึ้น แต่เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีอย่างน้อย 1-2 คน
ส่วนเบาะแสของรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีบรอนด์ทอง ทะเบียน กธ-2524 สงขลา จนถึงขณะนี้ยังไม่พบรถคันดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ได้ประสานไปยัง สภ.ใกล้เคียง ให้ช่วยติดตามรถคันดังกล่าว เพราะเชื่อว่ารถยังไม่ถูกทำลายคนร้ายน่าจะขับไปซ่อนไว้ที่ใดที่หนึ่ง