xs
xsm
sm
md
lg

ค้นร้านรับซื้อของเก่าเมืองคอนยึดสายเคเบิล ทีโอทีกว่า 2.5 ตัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - เจ้าหน้าที่ค้นร้านรับซื้อของเก่ายึดสายเคเบิล ทีโอทีกว่า 2.5 ตัน เจ้าของไหวตัวหายจ้อย-ช่างยันเป็นทรัพย์สินของทีโอทีจำนวนมาก

บ่ายวันนี้ (26 มี.ค.) นายเพิ่มศักดิ์ เลื่องสุนทร หน.ชุดเฉพาะกิจศรีวิชัย นายกิตติพันธ์ เพชรชู จ่าจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นำหมายค้นศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในความอาญาเลขที่ 34/2551 ลงวันที่ 26 มี.ค.2551 เข้าทำการตรวจค้นร้านอันดามันค้าของเก่า เลขที่ 599 ม.1 ถ.อ้อมค่าย ม.1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดนมี นางปราถนา วงศ์พิพันธ์ อายุ 49 ปี เป็นผู้รับใบอนุญาต

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการสืบสวนขยายผลจากการตรวจยึดสายเคเบิลโทรศัพท์น้ำหนักกว่า 4.1 ตัน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยทราบว่าร้านดังกล่าวนั้นเป็นจุดรับซื้อสายเคเบิลซึ่งสงสัยว่าได้มาจากการโจรกรรม

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกิตติพันธ์ เพชรชู จ่าจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่มีหน้าที่ตรวจสอบร้านค้าของเก่าขอเข้าตรวจสอบ แต่ปรากฏว่า นางปรารถนา เจ้าของร้านไม่ยินยอมให้เข้าตรวจสอบ โดยให้เจ้าหน้าที่ไปขอหมายค้นจากศาลมาจึงจะเข้าตรวจสอบได้ หลังจากนั้น จึงมีการจัดวางกำลังไว้สังเกตการณ์ เกรงว่า จะมีการขนย้ายสิ่งของต้องสงสัยหลบหนี

หลังจากนั้น นายเพิ่มศักดิ์ จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอหมายค้นตรวจสอบ จนกระทั่งศาลได้ออกหมายค้นให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้น

ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจค้น พบว่า มีกองสายเคเบิลโทรศัพท์กองใหญ่ กองอยู่หลังสุดของร้านคล้ายกับมีการเก็บอำพรางไว้สูงกว่า 1.5 เมตร น้ำหนักประมาณไม่น้อยกว่า 3 ตัน เจ้าหน้าที่จึงประสานกับพนักงานช่างบริษัททีโอทีจำกัดมหาชน เพื่อเข้าตรวจสอบว่าสายดังกล่าวเป็นสายเคเบิลของโทรศัพท์หรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มียี่ห้อทีโอที ติดอยู่เป็นส่วนใหญ่ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยืนยันว่าเป็นสายเคเบิลของบริษัททีโอที ชนิดสายดร๊อปวายทองแดง

นายกิตติพันธ์ เพชรชู จ่าจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวเพิ่มเติมว่าสายเคเบิลดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะทำบันทึกตรวจยึดไว้ทั้งหมดเป็นคดียึดทรัพย์ เพื่อทำการตรวจสอบ ส่วนเจ้าของที่รับซื้อนั้นไม่อยู่ในร้านขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้น มีเพียงพนักงานในร้านเท่านั้น ซึ่งจะได้ดำเนินการไปตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น