ระนอง - หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว.ระนอง พร้อมสืบสานปณิธานออกรักษาผู้ป่วยในถิ่นทุรกันดารต่อไปอย่างต่อเนื่อง
นายแพทย์จิรพันธ์ เต้พันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง กล่าวว่า จังหวัดระนอง เป็นจังหวัดแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว.เมื่อปี 2513 เป็นจังหวัด พอ.สว.ลำดับที่ 30 ได้ดำเนินกิจกรรมของมูลนิธิ พอ.สว.มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 37 ปี ปัจจุบันมีบุคลากรที่ร่วมดำเนินการ จำนวน 399 คน
โดยช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้เสด็จเยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว.จังหวัดระนอง ถึง 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2545 ณ บ้านคอกช้าง หมู่ที่ 10 ต.กะเปอร์ อ.กะเปอร์ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2547 ณ โรงเรียนบ้านทุ่งตาพล ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มและซาบซึ้งแก่คณะแพทย์และอาสาสมัคร พอ.สว.จังหวัดระนองเป็นอย่างมาก
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง กล่าวว่า สำหรับในปีงบประมาณ 2550 ที่ผ่านมา หน่วยแพทย์ พอ.สว.ระนอง ได้ออกให้บริการทางด้านการตรวจรักษาโรคทั่วไป ทันตกรรม ตรวจเลือดหาเชื้อมาลาเรีย ตรวจการพัฒนาการเด็ก ส่งรักษาต่อ/เยี่ยมบ้าน แจกสิ่งของแก่ประชาชนในถิ่นทุรกันดารและห่างไกล 20 ครั้ง มีผู้มารับบริการ 3,769 คน ประกอบด้วย 9 กิจกรรม คือ งานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ งานทันตกรรมสาธารณสุข งานรักษาเฉพาะโรค พอ.สว.งานผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ การดูแลและส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุและเยี่ยมผู้ด้อยโอกาสที่บ้าน และงานเฝ้าระวังภาวะโภชนาการและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย 0-5 ปี
ในปีงบประมาณ 2551 หน่วยแพทย์ พอ.สว.ระนอง ได้กำหนดแผนออกให้บริการรักษาผู้เจ็บป่วยในท้องถิ่นทุรกันดารและห่างไกล 14 ครั้ง ซึ่งได้ออกให้บริการไปแล้ว 4 ครั้ง ครั้งต่อไปกำหนดในวันที่ 18 มกราคม 2551 ณ บ้านเกาะสินไห หมู่ที่ 4 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง ซึ่งเป็นพื้นที่เกาะการเดินทางค่อนข้างลำบาก โดยเฉพาะในฤดูมรสุม ทั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง กล่าวด้วยว่า แม้ว่าสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จะสิ้นพระชนม์แล้ว แต่คณะแพทย์และอาสาสมัคร พอ.สว.ระนองทั้ง 399 คน มีขวัญกำลังใจที่ดีอยู่และพร้อมที่จะออกปฏิบัติงานต่อไป เพื่อสืบสานปณิธานในการปฏิบัติงานดูแลสุขภาพของประชาชนในถิ่นทุรกันดารให้ดียิ่งขึ้นต่อไป โดยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก