พสกนิกรทุกหมู่เหล่าทั่วไทยยังหลั่งไหลร่วมลงนามถวายการไว้อาลัยต่อหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระพี่นางเธอฯ ภายหลังการสิ้นพระชนม์เป็นวันที่สองอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชาวอีสานแห่ซื้อพระฉายาลักษณ์ของพระองค์เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก จนทำให้บางพื้นที่พระฉายาลักษณ์ขาดตลาด ด้านคณะแพทย์ พอ.สว.ยันสานต่อปณิธานเดินหน้ารักษาสุขภาพประชาชนผู้ยากไร้ในถิ่นทุรกันดาร พร้อมจัดสวดพระอภิธรรมถวาย
พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าทั่วทุกภาคของประเทศไทย ได้พร้อมใจกันแต่งกายสวมใส่เสื้อผ้าสีขาว-ดำและทยอยเดินทางไปร่วมลงนามถวายการไว้อาลัยต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ตามสถานที่ต่างๆ ที่หน่วยงานภาครัฐในแต่ละจังหวัดได้จัดสถานที่เพื่ออำนวยความสะดวกไว้ให้ หลังจากที่พระองค์ได้สิ้นพระชนม์ เมื่อเวลา 02.45 น.วันที่ 2 มกราคม 2551 ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า
***ชาวอีสานแห่ซื้อ ”พระฉายาลักษณ์”
โดยเฉพาะที่ จ.หนองคาย วานนี้ (3 ม.ค.) ข้าราชการ และประชาชนทุกหมู่เหล่าได้พากันแต่งชุดดำเพื่อถวายการไว้อาลัยแด่พระองค์เป็นวันที่สอง และได้ร่วมกันจัดกิจกรรมทางศาสนาเพื่อถวายเป้นพระราชกุศล ขณะที่บริเวณสถานที่ราชการทุกแห่ง รวมทั้งภาคเอกชน ได้พากันประดับผ้าขาว-ดำเพื่อถวายการไว้อาลัย
นอกจากนี้ พบว่าตามร้านทำกรอบรูป และร้านขายภาพโปสเตอร์ต่างๆ ได้นำพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทั้งแบบเป็นโปสเตอร์และแบบที่ใส่กรอบรูปสำเร็จมาวางจำหน่าย ซึ่งประชาชนชาวหนองคายให้ความสนใจซื้อพระฉายาลักษณ์เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระองค์กันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ขณะนี้กลายเป็นสิ่งที่ประชาชนแสวงหา ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายต้องเพิ่มปริมาณการสั่งจองพระฉายาลักษณ์ในแบบต่างๆ มาจำหน่ายให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
เช่นเดียวกับที่ จ.กาฬสินธุ์ หลังจากที่พสกนิกรรู้ข่าวการสิ้นพระชนม์ทุกคนต่างอยู่ในอาการที่เศร้าเสียใจ และหลายคนพากันเดินทางไปเลือกซื้อพระฉายาลักษณ์ของพระองค์จนพบว่าทุกร้านค้าในจังหวัดพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ขาดตลาด จากการสอบถามเจ้าของร้านค้าแจ้งว่า ตั้งแต่มีข่าวพระองค์ทรงมีพระอาการประชวรก็มีประชาชนออกมาซื้อพระฉายาลักษณ์เพื่อเก็บเอาไว้จำนวนมาก ทำให้ขณะนี้พระยาลักษณ์ของพระองค์ไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน แต่ทางร้านก็ได้สั่งพระฉายาลักษณ์มาเพิ่มเติมแล้ว
***พุทธ-มุสลิมสตูลลงนามไม่ขาดสาย
ส่วนที่ จ.สตูล พสกนิกรทั้งไทยพุทธและมุสลิม ข้าราชการ พลเรือน และประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างสวมใส่ชุดขาว-ดำ ทยอยเดินทางมาร่วมลงนามถวายการไว้อาลัยต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระพี่นางเธอฯ อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับให้ความสนใจติดตามการรายงานข่าวพระราชพิธีศพของสมเด็จพระพี่นางเธอฯ อย่างใกล้ชิด
โดยพสกนิกรชาวสตูลทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ทุกครั้งที่ชมพระราชกรณียกิจของพระองค์ทางสื่อโทรทัศน์ที่เสด็จลงพื้นที่ต่างๆ เพื่อทรงงานรู้สึกซาบซึ้งและโศกเศร้าที่ต้องสูญเสียพระผู้เป็นแม่ของแผ่นดินอีกคนไป
ขณะที่ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดสตูล เหล่าบรรดาผู้นำศาสนา อิหม่าม กอเต็บ บิหลั่น ได้พร้อมใจกันร่วมลงนามเพื่อไว้อาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยหลังทราบข่าวสำนักงานคณะกรรมการอิสลามได้ออกหนังสือเวียนให้ 200 มัสยิดทั่วทั้งจังหวัดตั้งโต๊ะลงนามเพื่อไว้อาลัยและรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านที่ได้ทำประโยชน์ให้กับปวงชนชาวไทย
นายรอฮีม กาสา คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูล กล่าวว่า หลังทราบข่าวก็รู้สึกโศกเศร้าและเสียใจการจากไปของพระองค์เป็นอย่างมาก และในนามของคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูลขอเชิญชวนพี่น้องมุสลิมในจังหวัดสตูลและทั่วประเทศร่วมไว้อาลัยของการจากไปของสมเด็จพระพี่นางเธอฯ
***ตชด.ตากร่วมลงนามถวายความอาลัย
ด้าน จ.ตาก บริเวณอาคารกิตติคุณ เชิงสะพานแขวนสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ต.อ.สาธิต เกตานนท์ ผกก.ตชด.34 ค่ายพระเจ้าตาก นำกำลังตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) กว่า 200 นายมาร่วมลงนามถวายความอาลัย แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อการสิ้นพระชนม์
พ.ต.อ.สาธิต เปิดเผยว่า การจากไปของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ตชด. ทุกคนรู้สึกอาลัยเป็นอย่างยิ่ง โดย ตชด.34 ได้เคยถวายอารักขาเมื่อครั้งพระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินตรวจเยี่ยมราษฎรตามแนวชายแดน 5 อำเภอ ซึ่งเป็นถิ่นทุรกันดารห่างไกลและได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อ ตชด.อย่างไม่ถือพระองค์ และได้พระราชทานสิ่งของ เครื่องอุปโภค บริโภค ผ้าห่มกันหนาว แก่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนทุกครั้งที่ทรงเสด็จฯ นับเป็นขวัญและกำลังในการปฏิบัติหน้าที่ของ ตชด.ทุกนาย
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงรับ ตชด.ที่ได้รับบาดเจ็บทุคลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ป่วยในพระราชูปถัมภ์ พระราชทานขาเทียมให้แก่ ตชด.ทุกนายที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดในการปฏิบัติหน้าที่จนสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติด้วย
ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ รองศาสตราจารย์นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ พร้อม พร้อมผู้บริหารโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และแพทย์นักเรียนกองทุนหมอเจ้าฟ้า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ร่วมถวายอาลัยเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ อาคารราชนครินทร์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ พร้อมทั้งอ่านบทร้อยแก้ว ถวายอาลัย แสงหนึ่งคือรุ้งงาม...ลับแล้ว
***จันทบุรีอุปสมบทหมู่พระ 99 รูปถวาย
นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เผยว่า การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ยังความโศกเศร้าเสียใจแก่พสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวจันทบุรี ที่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จเยี่ยมพสกนิกรในถิ่นทุรกันดารบ่อยครั้ง ตลอดจนทรงรับผู้ป่วยที่มีฐานะยากจนเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ พร้อมทั้งทรงส่งเสริมทะนุบำรุงบวรพุทธศาสนาโดยทรงรับอุปถัมภ์วัดทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน เป็นวัดในพระอุปถัมภ์
“เพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวจันทบุรีเป็นล้นพ้นทางจังหวัดจึงเปิดโอกาสให้ชาวจันทบุรี ได้ลงนามถวายการไว้อาลัยโดยจัดสถานที่ลงนามไว้อาลัยบริเวณห้องโถงศาลากลางจังหวัด นอกจากนี้ ทางวัดทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน ซึ่งเป็นวัดในพระอุปถัมภ์ของพระองค์ ได้จัดพิธีถวายการไว้อาลัยเช่นกัน โดยบริเวณศาลา 8 เหลี่ยมเฉลิมพระเกียรติฯ ได้เปิดให้ประชาชนได้ร่วมลงนามถวายอาลัยแด่พระองค์เป็นเวลา 99 วัน มีการสวดพระอภิธรรมหน้าพระฉายาลักษณ์ทุกคืนและจะมีการอุปสมบทหมู่ถวายเป็นพระราชกุศล 99 รูปอีกด้วย”
***พอ.สว.สามหมอกจัดสวดอภิธรรม 7 คืน
ขณะที่ นพ.สุวัฒน์ กิตติดิลกกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เผยว่า หลังได้รับทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ คณะแพทย์ พอ.สว.แม่ฮ่องสอน ต่างรู้สึกเสียใจและเศร้าโศกเป็นอย่างมาก เนื่องจากพระองค์ทรงมีครุปราการต่อชาวแม่ฮ่องสอนเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวมูลนิธิ พอ.สว.แม่ฮ่องสอน เป็นอย่างมาก
โดยพระองค์ได้มีโอกาสเสด็จเยี่ยมแพทย์ พอ.สว.แม่ฮ่องสอน 3 ครั้ง ครั้งแรกปี 2546 ที่บ้านศาลาเมืองน้อย อ.ปาย ครั้งที่ 2 เสด็จไปที่บ้านนาดอย อ.สบเมย โดยการเสด็จครั้งนี้คณะแพทย์ พอ.สว.มีความภาคภูมิใจที่สุดที่ได้มีโอกาสร้องเพลงถวายพระองค์ คือเพลงแม่ฮ่องสอนแดนไพร เป็นเพลงประจำจังหวัด และหลังจากที่คณะแพทย์ พอ.สว.แม่ฮ่องสอน ได้ขับร้องเพลงถวายแล้วก็ถือเป็นประเพณีปฎิบัติให้หลายจังหวัดขับร้องเพลงประจำจังหวัดถวายที่พระองค์เสด็จเยี่ยม พอ.สว.ในจังหวัดนั้นๆ และเสด็จครั้งที่ 3 เมื่อปี 2548 ที่บ้านปุงยาม อ.ปางมะผ้า
นพ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ทุกครั้งที่พระองค์เสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร คณะแพทย์ พอ.สว.แม่ฮ่องสอน จะออกหน่วยปฏิบัติต่อการรักษาพยาบาลราษฎรชาวไทยภูเขาปีละ 19–20 ครั้งและปี 2550 พอ.สว.ได้ออกหน่วยปฏิบัติรักษาพยาบาลราษฎรชาวไทยภูเขา 25 ครั้ง มีราษฎรมารับบริการ 2,500–2,700 คน ทุกครั้งที่คณะแพทย์ออกหน่วยปฏิบัติงานรักษาพยาบาลราษฎรในพื้นที่ห่างไกลนั้นเพื่อเป็นการถวายตามปณิธานของพระองค์ที่อยากจะดูแลราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทและห่างไกล
การที่พระองค์สิ้นพระชนม์ในครั้ง พอ.สว.แม่ฮ่องสอน ได้จัดกิจกรรมเพื่อเป็นการถวายพระองค์โดยประกอบพิธีสวดพระอภิธรรม 7 คืนที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์แม่ฮ่องสอน เริ่มตั้งแต่คืนวันที่ 2 ม.ค.เพื่อถวายพระราชกุศล และสถานพยาบาลในพื้นที่แม่ฮ่องสอนได้จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ที่ได้มีต่อวงการแพทย์และสาธารณสุขที่ได้ดูแลทุกข์สุขราษฎรชาวแม่ฮ่องสอนในทุกโรงพยาบาล และจัดโต๊ะสำหรับให้ประชาชนทั่วไปได้มาลงนามไว้อาลัยให้แก่พระองค์ท่านด้วย
***พอ.สว.สงขลาสานต่อพระปณิธาน
เช่นเดียวกับ นพ.สุเทพ วัชรปิยานันทน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ทีมงาน พอ.สว.สงขลา รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระพี่นางเธอฯ เพราะตลอดระยะเวลาที่พระองค์ทรงงาน พอ.สว. พระองค์ได้สนับสนุนกิจการนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ จ.สงขลา พระองค์ทรงเสด็จมาเยี่ยมหน่วย พอ.สว.สงขลา 3 ครั้งในปี 2524, 46 และ 48 ทำให้เป็นขวัญและกำลังใจกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและทีมงาน พอ.สว.ที่ดำเนินงานกิจการ พอ.สว.มาโดยตลอด
“คณะทำงาน พอ.สว.สงขลา ได้หารือกันแล้วในส่วนกิจการต่างๆ ที่พระองค์ทรงดำเนินมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ พอ.สว.พวกเราจะสานต่อพระปณิธานของพระองค์ต่อไป”
ที่บริเวณห้องโถงชั้นล่างอาคารศาลากลางจังหวัดยะลา นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯและนางนารีรัตน์ มินทราศักดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ พร้อมสมาชิก พอ.สว.กว่า 100 คนร่วมกันประกอบพิธีถวายการไว้อาลัย รวมทั้งร้องเพลง "คนยะลารักเมืองยะลา" ซึ่งเป็นเพลงที่เคยร้องถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ในคราวที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินเขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา เมื่อ พ.ย.48
นอกจากนี้ พอ.สว.ทั้งหมดยังได้กล่าวคำปฏิญาณตนต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ว่า จะสานต่อโครงการ พอ.สว.ในพื้นที่ จ.ยะลาเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในพื้นที่ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยไม่ย่อท้อด้วย.
พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าทั่วทุกภาคของประเทศไทย ได้พร้อมใจกันแต่งกายสวมใส่เสื้อผ้าสีขาว-ดำและทยอยเดินทางไปร่วมลงนามถวายการไว้อาลัยต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ตามสถานที่ต่างๆ ที่หน่วยงานภาครัฐในแต่ละจังหวัดได้จัดสถานที่เพื่ออำนวยความสะดวกไว้ให้ หลังจากที่พระองค์ได้สิ้นพระชนม์ เมื่อเวลา 02.45 น.วันที่ 2 มกราคม 2551 ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า
***ชาวอีสานแห่ซื้อ ”พระฉายาลักษณ์”
โดยเฉพาะที่ จ.หนองคาย วานนี้ (3 ม.ค.) ข้าราชการ และประชาชนทุกหมู่เหล่าได้พากันแต่งชุดดำเพื่อถวายการไว้อาลัยแด่พระองค์เป็นวันที่สอง และได้ร่วมกันจัดกิจกรรมทางศาสนาเพื่อถวายเป้นพระราชกุศล ขณะที่บริเวณสถานที่ราชการทุกแห่ง รวมทั้งภาคเอกชน ได้พากันประดับผ้าขาว-ดำเพื่อถวายการไว้อาลัย
นอกจากนี้ พบว่าตามร้านทำกรอบรูป และร้านขายภาพโปสเตอร์ต่างๆ ได้นำพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทั้งแบบเป็นโปสเตอร์และแบบที่ใส่กรอบรูปสำเร็จมาวางจำหน่าย ซึ่งประชาชนชาวหนองคายให้ความสนใจซื้อพระฉายาลักษณ์เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระองค์กันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ขณะนี้กลายเป็นสิ่งที่ประชาชนแสวงหา ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายต้องเพิ่มปริมาณการสั่งจองพระฉายาลักษณ์ในแบบต่างๆ มาจำหน่ายให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
เช่นเดียวกับที่ จ.กาฬสินธุ์ หลังจากที่พสกนิกรรู้ข่าวการสิ้นพระชนม์ทุกคนต่างอยู่ในอาการที่เศร้าเสียใจ และหลายคนพากันเดินทางไปเลือกซื้อพระฉายาลักษณ์ของพระองค์จนพบว่าทุกร้านค้าในจังหวัดพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ขาดตลาด จากการสอบถามเจ้าของร้านค้าแจ้งว่า ตั้งแต่มีข่าวพระองค์ทรงมีพระอาการประชวรก็มีประชาชนออกมาซื้อพระฉายาลักษณ์เพื่อเก็บเอาไว้จำนวนมาก ทำให้ขณะนี้พระยาลักษณ์ของพระองค์ไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน แต่ทางร้านก็ได้สั่งพระฉายาลักษณ์มาเพิ่มเติมแล้ว
***พุทธ-มุสลิมสตูลลงนามไม่ขาดสาย
ส่วนที่ จ.สตูล พสกนิกรทั้งไทยพุทธและมุสลิม ข้าราชการ พลเรือน และประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างสวมใส่ชุดขาว-ดำ ทยอยเดินทางมาร่วมลงนามถวายการไว้อาลัยต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระพี่นางเธอฯ อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับให้ความสนใจติดตามการรายงานข่าวพระราชพิธีศพของสมเด็จพระพี่นางเธอฯ อย่างใกล้ชิด
โดยพสกนิกรชาวสตูลทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ทุกครั้งที่ชมพระราชกรณียกิจของพระองค์ทางสื่อโทรทัศน์ที่เสด็จลงพื้นที่ต่างๆ เพื่อทรงงานรู้สึกซาบซึ้งและโศกเศร้าที่ต้องสูญเสียพระผู้เป็นแม่ของแผ่นดินอีกคนไป
ขณะที่ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดสตูล เหล่าบรรดาผู้นำศาสนา อิหม่าม กอเต็บ บิหลั่น ได้พร้อมใจกันร่วมลงนามเพื่อไว้อาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยหลังทราบข่าวสำนักงานคณะกรรมการอิสลามได้ออกหนังสือเวียนให้ 200 มัสยิดทั่วทั้งจังหวัดตั้งโต๊ะลงนามเพื่อไว้อาลัยและรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านที่ได้ทำประโยชน์ให้กับปวงชนชาวไทย
นายรอฮีม กาสา คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูล กล่าวว่า หลังทราบข่าวก็รู้สึกโศกเศร้าและเสียใจการจากไปของพระองค์เป็นอย่างมาก และในนามของคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูลขอเชิญชวนพี่น้องมุสลิมในจังหวัดสตูลและทั่วประเทศร่วมไว้อาลัยของการจากไปของสมเด็จพระพี่นางเธอฯ
***ตชด.ตากร่วมลงนามถวายความอาลัย
ด้าน จ.ตาก บริเวณอาคารกิตติคุณ เชิงสะพานแขวนสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ต.อ.สาธิต เกตานนท์ ผกก.ตชด.34 ค่ายพระเจ้าตาก นำกำลังตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) กว่า 200 นายมาร่วมลงนามถวายความอาลัย แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อการสิ้นพระชนม์
พ.ต.อ.สาธิต เปิดเผยว่า การจากไปของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ตชด. ทุกคนรู้สึกอาลัยเป็นอย่างยิ่ง โดย ตชด.34 ได้เคยถวายอารักขาเมื่อครั้งพระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินตรวจเยี่ยมราษฎรตามแนวชายแดน 5 อำเภอ ซึ่งเป็นถิ่นทุรกันดารห่างไกลและได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อ ตชด.อย่างไม่ถือพระองค์ และได้พระราชทานสิ่งของ เครื่องอุปโภค บริโภค ผ้าห่มกันหนาว แก่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนทุกครั้งที่ทรงเสด็จฯ นับเป็นขวัญและกำลังในการปฏิบัติหน้าที่ของ ตชด.ทุกนาย
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงรับ ตชด.ที่ได้รับบาดเจ็บทุคลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ป่วยในพระราชูปถัมภ์ พระราชทานขาเทียมให้แก่ ตชด.ทุกนายที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดในการปฏิบัติหน้าที่จนสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติด้วย
ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ รองศาสตราจารย์นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ พร้อม พร้อมผู้บริหารโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และแพทย์นักเรียนกองทุนหมอเจ้าฟ้า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ร่วมถวายอาลัยเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ อาคารราชนครินทร์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ พร้อมทั้งอ่านบทร้อยแก้ว ถวายอาลัย แสงหนึ่งคือรุ้งงาม...ลับแล้ว
***จันทบุรีอุปสมบทหมู่พระ 99 รูปถวาย
นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เผยว่า การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ยังความโศกเศร้าเสียใจแก่พสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวจันทบุรี ที่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จเยี่ยมพสกนิกรในถิ่นทุรกันดารบ่อยครั้ง ตลอดจนทรงรับผู้ป่วยที่มีฐานะยากจนเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ พร้อมทั้งทรงส่งเสริมทะนุบำรุงบวรพุทธศาสนาโดยทรงรับอุปถัมภ์วัดทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน เป็นวัดในพระอุปถัมภ์
“เพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวจันทบุรีเป็นล้นพ้นทางจังหวัดจึงเปิดโอกาสให้ชาวจันทบุรี ได้ลงนามถวายการไว้อาลัยโดยจัดสถานที่ลงนามไว้อาลัยบริเวณห้องโถงศาลากลางจังหวัด นอกจากนี้ ทางวัดทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน ซึ่งเป็นวัดในพระอุปถัมภ์ของพระองค์ ได้จัดพิธีถวายการไว้อาลัยเช่นกัน โดยบริเวณศาลา 8 เหลี่ยมเฉลิมพระเกียรติฯ ได้เปิดให้ประชาชนได้ร่วมลงนามถวายอาลัยแด่พระองค์เป็นเวลา 99 วัน มีการสวดพระอภิธรรมหน้าพระฉายาลักษณ์ทุกคืนและจะมีการอุปสมบทหมู่ถวายเป็นพระราชกุศล 99 รูปอีกด้วย”
***พอ.สว.สามหมอกจัดสวดอภิธรรม 7 คืน
ขณะที่ นพ.สุวัฒน์ กิตติดิลกกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เผยว่า หลังได้รับทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ คณะแพทย์ พอ.สว.แม่ฮ่องสอน ต่างรู้สึกเสียใจและเศร้าโศกเป็นอย่างมาก เนื่องจากพระองค์ทรงมีครุปราการต่อชาวแม่ฮ่องสอนเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวมูลนิธิ พอ.สว.แม่ฮ่องสอน เป็นอย่างมาก
โดยพระองค์ได้มีโอกาสเสด็จเยี่ยมแพทย์ พอ.สว.แม่ฮ่องสอน 3 ครั้ง ครั้งแรกปี 2546 ที่บ้านศาลาเมืองน้อย อ.ปาย ครั้งที่ 2 เสด็จไปที่บ้านนาดอย อ.สบเมย โดยการเสด็จครั้งนี้คณะแพทย์ พอ.สว.มีความภาคภูมิใจที่สุดที่ได้มีโอกาสร้องเพลงถวายพระองค์ คือเพลงแม่ฮ่องสอนแดนไพร เป็นเพลงประจำจังหวัด และหลังจากที่คณะแพทย์ พอ.สว.แม่ฮ่องสอน ได้ขับร้องเพลงถวายแล้วก็ถือเป็นประเพณีปฎิบัติให้หลายจังหวัดขับร้องเพลงประจำจังหวัดถวายที่พระองค์เสด็จเยี่ยม พอ.สว.ในจังหวัดนั้นๆ และเสด็จครั้งที่ 3 เมื่อปี 2548 ที่บ้านปุงยาม อ.ปางมะผ้า
นพ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ทุกครั้งที่พระองค์เสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร คณะแพทย์ พอ.สว.แม่ฮ่องสอน จะออกหน่วยปฏิบัติต่อการรักษาพยาบาลราษฎรชาวไทยภูเขาปีละ 19–20 ครั้งและปี 2550 พอ.สว.ได้ออกหน่วยปฏิบัติรักษาพยาบาลราษฎรชาวไทยภูเขา 25 ครั้ง มีราษฎรมารับบริการ 2,500–2,700 คน ทุกครั้งที่คณะแพทย์ออกหน่วยปฏิบัติงานรักษาพยาบาลราษฎรในพื้นที่ห่างไกลนั้นเพื่อเป็นการถวายตามปณิธานของพระองค์ที่อยากจะดูแลราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทและห่างไกล
การที่พระองค์สิ้นพระชนม์ในครั้ง พอ.สว.แม่ฮ่องสอน ได้จัดกิจกรรมเพื่อเป็นการถวายพระองค์โดยประกอบพิธีสวดพระอภิธรรม 7 คืนที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์แม่ฮ่องสอน เริ่มตั้งแต่คืนวันที่ 2 ม.ค.เพื่อถวายพระราชกุศล และสถานพยาบาลในพื้นที่แม่ฮ่องสอนได้จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ที่ได้มีต่อวงการแพทย์และสาธารณสุขที่ได้ดูแลทุกข์สุขราษฎรชาวแม่ฮ่องสอนในทุกโรงพยาบาล และจัดโต๊ะสำหรับให้ประชาชนทั่วไปได้มาลงนามไว้อาลัยให้แก่พระองค์ท่านด้วย
***พอ.สว.สงขลาสานต่อพระปณิธาน
เช่นเดียวกับ นพ.สุเทพ วัชรปิยานันทน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ทีมงาน พอ.สว.สงขลา รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระพี่นางเธอฯ เพราะตลอดระยะเวลาที่พระองค์ทรงงาน พอ.สว. พระองค์ได้สนับสนุนกิจการนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ จ.สงขลา พระองค์ทรงเสด็จมาเยี่ยมหน่วย พอ.สว.สงขลา 3 ครั้งในปี 2524, 46 และ 48 ทำให้เป็นขวัญและกำลังใจกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและทีมงาน พอ.สว.ที่ดำเนินงานกิจการ พอ.สว.มาโดยตลอด
“คณะทำงาน พอ.สว.สงขลา ได้หารือกันแล้วในส่วนกิจการต่างๆ ที่พระองค์ทรงดำเนินมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ พอ.สว.พวกเราจะสานต่อพระปณิธานของพระองค์ต่อไป”
ที่บริเวณห้องโถงชั้นล่างอาคารศาลากลางจังหวัดยะลา นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯและนางนารีรัตน์ มินทราศักดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ พร้อมสมาชิก พอ.สว.กว่า 100 คนร่วมกันประกอบพิธีถวายการไว้อาลัย รวมทั้งร้องเพลง "คนยะลารักเมืองยะลา" ซึ่งเป็นเพลงที่เคยร้องถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ในคราวที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินเขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา เมื่อ พ.ย.48
นอกจากนี้ พอ.สว.ทั้งหมดยังได้กล่าวคำปฏิญาณตนต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ว่า จะสานต่อโครงการ พอ.สว.ในพื้นที่ จ.ยะลาเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในพื้นที่ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยไม่ย่อท้อด้วย.