นราธิวาส - รอง ผบ.ตร.ระบุ ปี 2550 ไฟใต้พื้นที่นราธิวาสครองแชมป์ โดยเกิดเหตุร้ายกว่า 1,800 คดี ส่วนเหตุระเบิดที่ สุไหงโก-ลก ช่วงปีใหม่ เผยคนร้ายรับสารภาพแล้ว คาดจับได้อีกหลายราย
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (3 ม.ค.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร., พ.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร.และ พล.ต.ต.ปัญญา เทียนศาสตร์ ผชภ.9 ได้เดินทางไปยังกองบังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ ประกอบด้วย กำลังพล เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ตชด. หน่วยปฎิบัติการพิเศษ จ.นราธิวาสกว่า 300 นาย พร้อมให้มอบนโยบายและให้โอวาท ในช่วงปีใหม่
โดยระบุว่า ทางด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.มีความห่วงใยตำรวจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากกำลังในพื้นที่ มีภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อย ท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรง ที่จะต้องป้องกันตนเอง และรักษาความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินประชาชน ทำให้เจ้าหน้าในพื้นที่ตึงเครียด
แต่อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดูด้านสวัสดิการให้ตรวจอย่างเต็มที่ และจากการตรวจสอบตลอดปี 2550 พบว่า ในพื้นที่ จ.นราธิวาส มีคดีที่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบสูงกว่าพื้นที่ จ.ยะลา และปัตตานี รวมประมาณกว่า 1,800 คดี แต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เปิดแผนปฏิบัติการ สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุร้ายได้หลายราย และสามารถขยายผลจับกุมคนร้ายที่หลบหนีได้อีก ซึ่งเชื่อว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ได้เดินมาถูกทางแล้ว และปี 2551 ประสิทธิภาพของตำรวจในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้จะดีขึ้น และจะมีขีดความสามรถปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพเป็นรูปธรรม
จากนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท ได้เข้าไปยังห้องประชุมกองกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เพื่อเป็นประธานประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระดับ ผกก., หัวหน้าสถานี ทุก สภ.ผบ.ตชด และสารวัตรหน่วยปฎบัติการพิเศษ จ.นราธิวาส โดยมี พล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ นาควิจิตร ผบก.ภ.จ.นราธิวาส เป็นผู้บรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
ก่อนเดินทางกลับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า การลงพื้นที่เป็นการเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และแม้ว่าคดีความไม่สงบเกิดขึ้นมาก แต่การทำงานของเจ้าหน้าที่มีความเข้มแข็ง จึงสามารถระงับและลดศักยภาพของของร้ายที่จะก่อเหตุได้มากขึ้น ในส่วนความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุระเบิดในโรงแรมสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 32 ราย เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2550 ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยไปแล้ว 3 คน และทั้ง 3 คนยอมรับสารภาพในชั้นสอบสวน ว่า มีร่วมกับพวกอีกจำนวนหนึ่ง ก่อเหตุระเบิดดังกล่าว ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามขยายผลกลุ่มคนร้ายที่เหลือแล้ว
ส่วนรายชื่อผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิดในเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งเจ้าหน้าที่จับกุมก่อนหน้านี้ คือ 1.นายมูฮัมมัดซากีย์ มะดือเร๊ะ อายุ 23 ปี บ้านอยู่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส 2.นายสาเหะ สาอะ อายุ 24 ปี บ้านอยู่ อ.สุไหงโก-ลก และ 3.นายอัสโร มะยิ อายุ 19 ปี บ้านอยู่ อ.สุไหงโก-ลก รายงานแจ้งว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ระบุว่า กลุ่มคนร้ายที่เหลือและหลบหนีเจ้าหน้าที่ บางรายเป็นแนวร่วมในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี และยังมีวัตถุระเบิดแสวงเครื่องอีกจำนวนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (3 ม.ค.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร., พ.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร.และ พล.ต.ต.ปัญญา เทียนศาสตร์ ผชภ.9 ได้เดินทางไปยังกองบังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ ประกอบด้วย กำลังพล เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ตชด. หน่วยปฎิบัติการพิเศษ จ.นราธิวาสกว่า 300 นาย พร้อมให้มอบนโยบายและให้โอวาท ในช่วงปีใหม่
โดยระบุว่า ทางด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.มีความห่วงใยตำรวจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากกำลังในพื้นที่ มีภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อย ท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรง ที่จะต้องป้องกันตนเอง และรักษาความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินประชาชน ทำให้เจ้าหน้าในพื้นที่ตึงเครียด
แต่อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดูด้านสวัสดิการให้ตรวจอย่างเต็มที่ และจากการตรวจสอบตลอดปี 2550 พบว่า ในพื้นที่ จ.นราธิวาส มีคดีที่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบสูงกว่าพื้นที่ จ.ยะลา และปัตตานี รวมประมาณกว่า 1,800 คดี แต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เปิดแผนปฏิบัติการ สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุร้ายได้หลายราย และสามารถขยายผลจับกุมคนร้ายที่หลบหนีได้อีก ซึ่งเชื่อว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ได้เดินมาถูกทางแล้ว และปี 2551 ประสิทธิภาพของตำรวจในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้จะดีขึ้น และจะมีขีดความสามรถปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพเป็นรูปธรรม
จากนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท ได้เข้าไปยังห้องประชุมกองกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เพื่อเป็นประธานประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระดับ ผกก., หัวหน้าสถานี ทุก สภ.ผบ.ตชด และสารวัตรหน่วยปฎบัติการพิเศษ จ.นราธิวาส โดยมี พล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ นาควิจิตร ผบก.ภ.จ.นราธิวาส เป็นผู้บรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
ก่อนเดินทางกลับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า การลงพื้นที่เป็นการเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และแม้ว่าคดีความไม่สงบเกิดขึ้นมาก แต่การทำงานของเจ้าหน้าที่มีความเข้มแข็ง จึงสามารถระงับและลดศักยภาพของของร้ายที่จะก่อเหตุได้มากขึ้น ในส่วนความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุระเบิดในโรงแรมสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 32 ราย เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2550 ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยไปแล้ว 3 คน และทั้ง 3 คนยอมรับสารภาพในชั้นสอบสวน ว่า มีร่วมกับพวกอีกจำนวนหนึ่ง ก่อเหตุระเบิดดังกล่าว ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามขยายผลกลุ่มคนร้ายที่เหลือแล้ว
ส่วนรายชื่อผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิดในเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งเจ้าหน้าที่จับกุมก่อนหน้านี้ คือ 1.นายมูฮัมมัดซากีย์ มะดือเร๊ะ อายุ 23 ปี บ้านอยู่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส 2.นายสาเหะ สาอะ อายุ 24 ปี บ้านอยู่ อ.สุไหงโก-ลก และ 3.นายอัสโร มะยิ อายุ 19 ปี บ้านอยู่ อ.สุไหงโก-ลก รายงานแจ้งว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ระบุว่า กลุ่มคนร้ายที่เหลือและหลบหนีเจ้าหน้าที่ บางรายเป็นแนวร่วมในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี และยังมีวัตถุระเบิดแสวงเครื่องอีกจำนวนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว