ไก่ป่า เป็นจุดเริ่มต้นของไก่บ้านที่เลี้ยงกันทั่วไป แต่ไก่ป่าจะมีขนาดเล็กกว่าไก่บ้าน ซึ่งจะพบได้ตามในพื้นที่ป่าในภูมิภาคเอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้มีการนำไก่ป่ามาผสมข้ามสายพันธุ์ จนทำให้พบเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่น ได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลก ทั้งนี้ ด้วยไก่บ้านมีลักษณะตัวเล็ก และขนที่สวย นิยมนำมาผสมพันธุ์ไก่บ้านเพื่อจำหน่ายเป็นไก่สวยงาม และมีเสียงขันดัง และไพเราะ นิยมนำมาจัดประกวดการขัน ที่เรียกว่า ไก่นับดอก กาละเล่นพื้นเมืองของภาคใต้
จากเลี้ยงไก่ชน สู่ ไก่ป่า
ตามคำขอครอบครัวไม่ต้องการให้เข้าบ่อน
ครั้งนี้ พามารู้จักกับผู้เพาะเลี้ยงไก่ป่า เพื่อจำหน่าย ว่ากลุ่มลูกค้าเป็นใคร และนิยมมากน้อยแค่ไหนในตลาด และการเพาะเลี้ยงไก่ป่า ต่างจากไก่บ้านทั่วไปอย่างไร
นายจิรานุวัฒน์ จันทวงษ์ เจ้าของฟาร์มไก่ป่าลูกผสม จังหวัดปราจีนบุรี เล่าว่า ตนเองได้เริ่มเลี้ยงไก่ป่า มาได้ 7-8 ปี ก่อนหน้านั้น เลี้ยงไก่ชน มาก่อน ผมเลี้ยงไก่ชนมาตั้งแต่เรียนมัธยม ตอนนี้ผมอายุกว่า 40 ปี เลิกเลี้ยงเมื่อได้มาเลี้ยงไก่ป่า ที่เลิกเลี้ยงไก่ชน เพราะว่า ที่บ้าน ครอบครัวอยากให้เราเลิกไปตีไก่เข้าบ่อน ก็เลยอยากให้เลิก จนช่วงโควิด บ่อนตีไก่ปิด ผมก็อยู่บ้าน ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยไปหาไก่ป่ามาเลี้ยง ตอนแรกเลี้ยงคู่กันกับไก่ชน แต่ด้วยความที่ไม่ได้ไปตีไก่ แล้ว ผมก็เลยเลิกเลี้ยงไก่ชน หันมาเพาะไก่ป่าขาย เพราะขายง่ายกว่า ลูกค้ามีหลายกลุ่ม
ลักษณะไก่ป่าลูกผสม
สำหรับลักษณะของไก่ป่า จะเป็นไก่ตัวเล็กสายพันธุ์เดียวกับไก่แจ้ โดยไก่ป่าของผมจะเป็นไก่ป่าตุ้มหูสีขาว เหมือนเหรียญบาท แต่ในประเทศไทยพบ ไก่ป่า 2 สายพันธุ์ ภาคเหนือจะเป็นไก่ป่าตุ้มหูสีแดง ซึ่งผมนำไก่ป่าตุ้มหูสีขาวมาผสมกับไก่บ้าน หรือไก่บ้าน จนได้ออกมาเป็นไก่ป่าลูกผสมตุ้มหูสีขาว ตัวเล็กเหมือนไก่แจ้ สีสันขึ้นอยู่กับพ่อแม่พันธ์ุ ซึ่งมีอยู่เยอะมาก
โดยลักษณะนิสัยเปลี่ยนไป มีความเชื่องมากขึ้น สามารถเลี้ยงอยู่กับคนได้ เพราะปกติไก่ป่าไม่สามารถเลี้ยงอยู่ในพื้นที่ร่วมกับคนได้ เพราะถ้าเราปล่อยออกจากกรง วิ่งหนีเข้าป่า แต่ไก่ป่าลูกผสม สามารถเลี้ยงปล่อยได้ จะไม่ไปไหน การหากินก็หากินเหมือนไก่บ้าน ผมเลี้ยงไว้ในสวนลำไย ปล่อยให้เค้าหากินตามธรรมชาติภายในสวน และพอถึงเวลาให้อาหารก็แค่เรียกเค้าก็จะวิ่งมารออาหาร เลี้ยงเหมือนไก่บ้านทั่วไป แต่ต้องระวัง ถ้าปลูกพืชผัก ก็อาจจะไปจิกกินพืชผักของเราได้
ประเภทของไก่ป่าลูกผสม จำแนกตามความต้องการของลูกค้า
คุณจิรานุวัฒน์ เล่าว่า ในส่วนของไก่ป่าลูกผสมที่ตนเองเลี้ยง แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ไก่ป่าลูกผสมประเภทสวยงาม พยายามเพาะพันธุ์ให้มีสีสันสวยงามและขนาดต้องไม่ใหญ่ คล้ายไก่แจ้ แต่เลี้ยงง่ายกว่า ประเภทที่สอง ไก่ป่าลูกผสมนับดอก สำหรับประกวดประชันเสียงไก่ขัน เป็นกาละเล่นพื้นเมืองของไทยที่มีมาช้านาน ปัจจุบัน ก็ยังคงมีการแข่งขันในลักษณะนี้อยู่ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะภาคใต้ ที่ผ่านมา ช่วงที่ผมเลี้ยงไก่ชน ผมก็มีเดินสายไปแข่งขันไก่นับดอกอยู่บ่อยครั้ง ก็เลยมีความรู้ในเรื่องของการเลี้ยง และการฝึกไก่นับดอก
ในส่วนของประเภทที่ สาม เป็นการเลี้ยงไก่ป่าลูกผสมเพื่อนำไปเป็นไก่ตั้ง หรือ ไก่ต่อ สำหรับคนที่ต้องการออกไปหาไก่ป่า มาทำอาหารหรือ นำมาเลี้ยง ก็ต้องมีไก่ตั้งเพื่อนำไปเป็นไก่ต่อให้ไก่ป่า ออกมา และจับมากิน หรือจับมาเพื่อเลี้ยง ได้รับความนิยมในต่างจังหวัด สำหรับการจับไก่ป่า
ราคาไก่ป่าลูกผสม แยกตามประเภท
สำหรับราคาขายไก่ป่าลูกผสม ที่ผมขายราคาแตกต่างกัน เช่น ไก่สวยงามเริ่มต้นที่ตัวละ 500 บาท ถึง 1,000 บาท ส่วนไก่นับดอก ราคาขึ้นอยู่กับความสามารถของไก่แต่ละตัว ที่ต้องผ่านการฝึกฝน ราคาคล้ายไก่ชน มีราคาตั้งแต่ 2,000 บาท ไปจนถึงหลักหมื่นบาท ส่วนราคาไก่ตั้ง ไก่ต่อ ราคาใกล้เคียงกัน ตัวละ 1,000 บาท ขึ้นไป ซึ่งไก่ทั้งสองประเภท ต้องผ่านการฝึกเช่นกัน
ส่วนประเภทไก่ป่าลูกผสม ที่ผมขายได้ ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทสวยงาม อายุที่ขายตั้งแต่ 2-3 เดือนขึ้นไป ที่ขายไก่ใหญ่ เพราะตัดปัญหาเวลาส่งไก่ไปแล้ว พอโตไม่ได้สีอย่างที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งเราเองก็มีแม่พันธุ์เป็นร้อย ไม่รู้ว่า พ่อพันธุ์ที่เรามีผสมกับแม่พันธุ์ไก่ตัวไหน ก็เลยไม่กล้าระบุว่า ลูกไก่ที่เราได้จะได้สีอะไรออกมา สุดท้ายก็เลยเลือกที่จะขายไก่ ที่โตและให้สีแล้วดีกว่า
ข้อดีไก่ป่าเลี้ยงง่าย แข็งแรงไม่เจ็บป่วยหากินได้เองตามธรรมชาติ
ในส่วนการเลี้ยงและเพาะพันธุ์ไก่ป่าลูกผสม เลี้ยงง่ายกว่าไก่ชนเยอะ ไก่ชนต้องคอยหาอาหารมาให้ และต้องคอยดูแล แต่พอมาเลี้ยงไก่ป่า เลี้ยงแบบปล่อยให้หากินตามธรรมชาติ ไม่ให้อาหาร เป็นอาทิตย์ก็ยังอยู่ได้ การออกไข่ก็ออกไข่เหมือนไก่ปกติ จำนวนฟอง 6-12 ฟอง เวลาออกไข่ถ้าเป็นไก่ป่า นิยมออกไข่ตามกอไผ่ตามพื้นดิน แต่เรากลัวว่าจะมีตัวอะไรมากินไข่ ก็เลยต้องทำรังเอาไว้ให้บนต้นไม้ที่สูง เพื่อป้องกันสัตว์อื่นมากินไข่
ความพิเศษ ที่หลายคนหันมานิยมเลี้ยงไก่ป่า แทนที่จะเลี้ยงไก่สวยงามประเภทอื่นๆ เพราะไก่ป่าจะแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย แม้จะถูกนำมาผสมกับไก่บ้านแล้วก็ตาม แต่ความเข็งแรง ก็ยังเหมือนไก่ป่า และสามารถหากินเองได้ ถ้าไม่ได้ให้อาหารนาน หนึ่งสัปดาห์สามารถหากินเองได้
“ปัจจุบันที่ฟาร์มของผม มีไก่ป่าลูกผสมที่เลี้ยงไว้ 300-400 ตัว โดยแม่พันธุ์อย่างเดียวหลายร้อย ด้วยความที่เราเลี้ยงมานาน ก็จะมีพ่อแม่พันธุ์ ที่คัดเลือกเอาไว้หลายร้อยตัว ส่วนใหญ่ผมจะปล่อยเลี้ยงตามธรรมชาติ ในสวนลำไย และสวนกล้วยที่มีอยู่กว่า 40 ไร่ แต่บางส่วนก็นำมาเลี้ยงในกรงเพื่อเพาะขยายพันธุ์ หรือ การฝึกไก่นับดอก หรือ ไก่ต่อ”
ตอบโจทย์ผู้สูงอายุกิจกรรมในวัยเกษียณ
ทั้งนี้ ในส่วนของลูกค้า “คุณจิรานุวัฒน์” บอกว่า ที่ผ่านมา มีการส่งไก่ไปทั่วประเทศ ลูกค้าของเรามีทุกกลุ่ม แต่หลังๆ จะมีกลุ่มผู้สูงอายุในวัยเกษียณมากขึ้น ที่อยากได้ไก่ไปเลี้ยงกิจกรรมเพื่อความเพลิดเพลิน ที่เลือกไก่ป่า เพราะเลี้ยงง่าย ผู้สูงอายุชื่นชอบ ความสวยงามไม่แพ้ไก่แจ้ ลุกค้าของผม หลายคนก็เดินทางมาดูและเลือกไก่ไปเอง เพราะหลังจากที่ผมได้ไปออกรายการทีวีหลายครั้ง ทำให้คนรู้จักมากขึ้น ลูกค้าก็เลยเพิ่มมากขึ้น กว่าเดิมที่ผมใช้แค่ช่องทางเพจเฟซบุ๊ก อย่างเดียว
รายได้ไม่แน่นอน ขายวันละ 4-5 ตัวเยอะแล้ว
ส่วนยอดขาย ไม่แน่นอน ตอนนี้ มีคนรู้จักเยอะขายวันหนึ่ง ไม่เกิน 10 ตัว วันละ 4-5 ตัวสำหรับผมก็ว่าเยอะแล้ว เพราะไก่แต่ละตัวต้องใช้เวลาเลี้ยง ไม่ต่ำกว่า 2-3 เดือนกว่าจะขายได้ หรือ ถ้าเป็นไก่นับดอกก็ต้องฝึกอย่างต่อเนื่อง และผมก็ไม่ได้ทำอาชีพเดียว เวลาในการฝึกไก่นับดอกก็เลยไม่ค่อยมี แต่อาศัยใจรัก ก็เลยยังพอมีไก่นับดอกให้กลุ่มคนรู้จัก และเพื่อนมาซื้อไปแข่งกันบ้างราคาขึ้นอยู่กับความสามารถ
เลิกเลี้ยงไก่ชน มีเวลาให้ครอบครัวเยอะขึ้น
นายจิรานุวัฒน์ เล่าว่า หลังจากที่ตัวเองเลิกเลี้ยงไก่ชน ส่วนตัวรู้สึกว่ามีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา เวลาขอวผมอยู่ในบ่อน ไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัว เมื่อก่อน พ่อแม่เคยจ้างให้ผมเลิกเลี้ยงไก่ชน แต่ผมไม่เลิกเพราะเราชอบ แต่พอมาเจอไก่ป่า เราก็เลิกได้ เพราะสุดท้ายยังได้เลี้ยงไก่ สิ่งที่เราชอบ และได้อยู่กับบ้านมากขึ้น มีเวลาไปทำอย่างอื่นๆ มากขึ้น รายได้การเลี้ยงไก่ไม่น้อยกว่า ไก่ชน เพราะไก่ชนเป็นไก่ที่ต้องดูแลตลอด และค่าใช้จ่ายสูง ปัจจุบันก็ยังมี ลูกค้าที่ซื้อไก่ชน เราไป ก็ยังมีนำมาฝากเลี้ยง ผมก็ยังรับเลี้ยง มีรายได้การรับดูแลไก่ชนตรงนี้อยู่ ด้วย
สนใจติดต่อ Facebook : จิรานุวัฒน์ จันทวงษ์
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


