“ถ้าผมทำอาหารผมต้องทำแบบนี้ถ้าเรากินแล้วเราอร่อยเรารู้สึกว่าคุ้ม คนที่เขากินลูกค้าที่เขาซื้อไปเขาคุ้มเขากินแล้วเขามีความสุขเขาพอใจซื้อ นั่นละครับคือสิ่งที่ผมอยากทำมาก ไม่ได้มองแค่ว่าผมต้องเอากำไรมากหลักสิบก็โอเคแล้วครับเพราะว่าอย่างน้อย ๆ มันก็เราได้กินสิ่งดี ๆ ไปด้วยกัน”
ครูไพบูลย์ แสงเดือน เจ้าของแบรนด์ “ลูกชิ้นมีหู” ครูไพบูลย์ ธุรกิจใหม่ล่าสุดที่ฉีกแนวจากการทำเพลงลูกทุ่งอีสานอินดี้ในฐานะเจ้าของค่ายจ๊วดจ๊าดมิวสิคไปเลย รวมถึงเขาคนนี้ยังเป็นอีกคนดังที่มักมีข่าวคราวในเชิงดรามาปรากฏบนหน้าสื่อต่าง ๆ ที่สร้างกระแสฮือฮาอยู่บ่อยครั้ง วันนี้ก็ต้องถือว่าครูไพบูลย์มีเซอร์ไพรส์ให้กับวงการอีกแล้วสำหรับการเปิดตัว “ลูกชิ้นมีหู” ธุรกิจใหม่จากการที่เจ้าตัวเองมองว่าเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส“เราไม่ฮาร์ดเซลครับเราขายแบบ ให้มีความสุขทั้งผู้ซื้อแล้วก็ผู้ขายครับ เราขายออนไลน์ในติ๊กต่อก เฟซบุ้ค ไลน์ออฟฟิศเชียล และตอนนี้เรากำลังทำออฟไลน์ คือ ให้ตัวแทนแล้วก็ขายแฟรนไชส์ด้วย เรามีลูกชิ้นมีอุปกรณ์การขายให้” เพิ่งเปิดตัวได้ประมาณ1 สัปดาห์ ยอดขายอยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 กิโลกรัมแล้วก็ถือว่าเป็นการตอบที่ดีซึ่งอันนี้ยังไม่รวมกับ การออกบูธ ด้วยต่างหากที่เป็นการขายแบบออฟไลน์ ก็รู้สึกตกใจอยู่ครั้งแรกไม่คิดว่าใครจะกล้าสั่งเราขนาดนี้ เพราะด้วยความที่เราไม่ใช่เป็นสายอาหารที่ทำธุรกิจอาหารมาแบบแบรนด์ใหญ่ ๆ เราเพิ่งมาทำ พอทำไปแล้วด้วยความที่แบบเรากินจริง อร่อยจริง เนื้อดีจริง ต่าง ๆ นานาเหล่านี้เป็นต้น ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ 2-3 รอบ!
เปลี่ยน “วิกฤติ” เป็นโอกาส สร้างแบรนด์ “ลูกชิ้นมีหู” ครูไพบูลย์
ครูไพบูลย์เล่าว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เกิดกระแสดรามาแล้วตนเองได้ไปออกรายการ รายการหนึ่งแล้วเขาบอกว่า “หน้าเหมือนลูกชิ้น หน้าเหมือนลูกชิ้นมีหูเลย”ไหนถอดแมสก์ออกมาดูซิตอนนั้น มันเหมือนตรงไหน อาจจะหน้ากลมหรือเปล่า ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่าเขามองยังไง แต่ถ้าพิธีกรบอกทำไมไม่ลองทำดู ทำลูกชิ้นมีหู เผื่อมันขายดี“เออผมจะทำจริง ๆ ผมจะทำแต่ผมต้องหาวัตถุดิบ หาอะไรที่มันแตกต่าง ผมจะทำลูกชิ้นแบบลูกชิ้นมีหูแล้วมันเหมือนคนอื่นมันคงไม่ได้แล้ว เพราะว่ามันสู้คนอื่นไม่ได้เพราะเราโตช้าเรามาทีหลัง เราต้องทำมันมีซิกเนเจอร์และก็มีความต่าง เราได้เปรียบตรงที่เราได้ชื่อแล้วมีคนตั้งชื่อให้เรา คนรู้ทั้งประเทศแล้วว่า “ลูกชิ้นมีหู” ครูไพบูลย์ ลูกชิ้นมีหู คือ ครูไพบูลย์ อันนี้คนรู้แล้ว! โอเคผมจะสร้างผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างไรให้มีคุณภาพ”
ค้นพบโรงงานผลิตที่ใช่ เลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียมเท่านั้น
ก็ไปหาโรงงาน ตอนแรกว่าจะทำโรงงานเอง แต่มันหนักเกินเราคงสู้ไม่ไหวแน่ เพราะว่าเราไม่ได้มีทุนไม่ได้เป็นอุตสาหกรรมใหญ่ขนาดนั้น แล้วก็อีกอย่างคือเราไม่ได้เติบโตมาจากสายอาหาร เราไม่ใช่นักธุรกิจก็เลยไม่เอาเดี๋ยวไปจ้างโรงงานผลิตแทนดีกว่า เราผลิตในแบรนด์ของเราเอง “ผมก็หาโรงงานหาโรงงานอื่นเขาก็มีสูตร “ลูกชิ้น” ธรรมดาทั่วไป แบบเอาเนื้อไก่เอาหมูเอาเอ็นอะไรมาทำธรรมดา ผมว่ามันไม่ได้แตกต่าง แต่ว่าโรงงานเขาก็ทำได้ทุกเกรดอยู่แล้วแต่พอมาเจอโรงงานหนึ่งที่เขาใช้เนื้อ “โคขุนโพนยางคำ” และอยู่สกลนครด้วย ตอนแรกผมก็หยอก ๆ กันใช้เนื้อโคขุนจริงไหม? (หัวเราะ) อยู่สกลฯ เขาก็เลยบอกว่า เอาเนื้อน้องฯ มาทำได้นะแพง! คุณกล้าซื้อไหมล่ะวัตถุดิบกิโลละ 700 บาท ผมมาขายผมต้องขายโลละ 1,000-2,000 แล้วใครจะซื้อ? เพราะว่าเนื้อมันแพงมันหายากใช่ไหมครับ เอาโคขุนโพนยางคำนี่ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว”ได้ความแตกต่างแล้วเราก็ได้ “เนื้อ” ที่ดี ก็เลยคุยเรื่องสูตรกันเลย คุยสูตรเขาก็เอามาให้ชิม ชิมแล้วชิมอีกอยู่นั่นแหละกว่าที่จะได้มา
สูตรเป๊ะด้วยการใช้ “นวัตกรรม” ผลิตทั้งลูกชิ้นและก็น้ำจิ้มด้วย
แต่เขาบอกว่าสูตรเขาเนี่ยมันดีตรงที่ว่า วัตถุดิบเขามันเป๊ะ ส่วนผสมเป๊ะตรงที่ว่า มันเป็นผง เขาจะแปรรูปจากพวกน้ำซอสหรือส่วนผสมของเครื่องปรุงต่าง ๆ มาเป็นแบบผง เวลาชั่งตวงวัดเอามาทำแต่ละทีมันจะแม่นกว่า แล้วมันไม่เพี้ยนด้วย ส่วน “น้ำจิ้ม” เองของแบรนด์เราก็เป็นนวัตกรรมใหม่(ก็เป็นผงเหมือนกัน) ถ้าจะทำก็ใช้เวลา 5-10 นาที ก็ทำน้ำจิ้มได้เลย เพราะว่าต่อไปเราก็จะขายน้ำจิ้มที่แบบมาเป็นผง และก็จะสอนวิธีการปรุงเองทำเองเลย ก็จะเป็นน้ำจิ้มลูกชิ้นมีหู ครูไพบูลย์ “เราเป็นคนเลือกว่าเราอยากได้รสอย่างนี้ เราก็ชิมอยู่ด้วยกันนั่นแหละครับ ทำแบบนี้ถ้าไม่ได้ก็เปลี่ยน จนได้เป็นของเราเองผมบอกว่าขอจด เพราะว่าผมก็ต้องจดพร้อมกันกับลูกชิ้นมีหูของผมอยู่แล้ว”
ยอดขายสุดปังกว่า2,000 กิโล!!! หลังเปิดตัวเพียง1 สัปดาห์
กระแสตอบรับดีมาก ดีตรงที่ว่าเราเพิ่งเปิดตัวได้ 1 สัปดาห์เท่านั้น! แล้วยอดขายเราในออนไลน์ก็ประมาณ 2,000 กิโลกรัม ไม่รวมออฟไลน์ที่เป็นแบบจัดบูธ/การออกบูธ ก็ได้อีกวันหนึ่ง ๆ ยอดไม่ต่ำกว่า 200-300 กิโลกรัม ที่เราเอาไปขายกันซึ่งก็ยังตกใจอยู่ว่า ขนาดแค่ขายออนไลน์เรายังไม่ได้เอาลงแบบ “แฟรนไชส์” นะแต่ว่าตอนนี้รับ! เพิ่งจะเปิดรับแฟรนไชส์ด้วย“ตอนนี้พร้อมแล้วที่จะรับ ตัวแทนจำหน่าย แฟรนไชส์ คุณสามารถเป็นตัวแทนได้หลายแบบทั้งใน นายหน้าติ๊กต่อก รับ 15% จากค่่าคอมมิชชั่น หรือคุณจะมาสั่งซื้อในราคาตัวแทนแล้วเอาไปจำหน่ายก็ได้เช่นกัน”
ท้าพิสูจน์ “ลูกชิ้นมีหู” ครูไพบูลย์จะทำให้การกินลูกชิ้นของคุณเปลี่ยนไป!
ลูกชิ้นของเราสามารถแช่ฟรีซไว้ได้ด้วย แล้วก็เวลาส่งเราก็แพ็กอย่างดีตามที่เห็นในรีวิวตามช่องทางต่าง ๆ ของแบรนด์ลูกชิ้นมีหู ครูไพบูลย์ มีกล่องโฟมให้ด้วย“ลูกค้าบางคนถามว่าคุณครูขายแล้วส่งแบบนี้ ได้กำไรอะไรไหม? ทำไมแพ็กมาดีจังแล้วขายแบบโอ้โห แบบเหมือนขายเอาสังคม(หัวเราะ) แต่ก็อยากให้ชิมก่อนผมอยากให้ชิม ให้ทุกคนได้กินแบบกินลูกชิ้นที่มันเป็นเนื้อจริง ๆ เป็นเนื้อโคขุน กินหมูก็เป็นหมูเด้ง ๆ จริง แล้วจะลืมไปเลยว่าลูกชิ้นที่เราเคยกิน กินมาเนี่ยมันเป็นอย่างไร เพราะลูกชิ้นมีหูครูไพบูลย์จะเปลี่ยนแปลงการกินของทุกคนได้ครับ”
ขอบคุณที่ให้ “โอกาส” ลูกชิ้นมีหู ครูไพบูลย์ เราจะโตไปด้วยกัน
ครูไพบูลย์ แสงเดือน เจ้าของแบรนด์ “ลูกชิ้นมีหู” ครูไพบูลย์ ยังบอกด้วย ต้องขอบคุณพี่ ๆ เอฟซี ขอบคุณทุกท่าน ที่ยังเมตตาที่ยังเปิดใจ ที่ยังให้โอกาสตนเองได้ทำสิ่งดี ๆ“ผมว่าลูกชิ้นมีหูของผมเนี่ยคือ สิ่งดีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากนำเสนอ อยากให้ลองกิน ลองชิม ลองทานกันดูว่า ผมไม่เอาสิ่งที่ไม่ดีให้แน่นอน แล้วหลังจากนั้นผมก็จะทำในสิ่งที่พวกท่านต้องการอยากให้ผมได้ทำอยากให้มอบความสุขสร้างสรรค์ผลงานผมก็จะทำต่อไป สิ่งที่ผมทำได้ไม่ว่าจะเป็น คนที่ไม่ชอบ หรือชอบ ผมมีแต่ขอบคุณ และก็ฝากติดตามผลงานและอุดหนุน ไม่ใช่แค่ผมครับเวลาผมทำอะไรไม่ได้แค่ผม คนอื่นก็ได้ผมไม่ได้ได้คนเดียว คนในองค์กรและก็พาร์ทเนอร์ ลูกค้า ตัวแทนจำหน่ายหรือทุกคน เวลาผมขายของเขาก็ได้ไปด้วยกันหรือพี่ ๆ ทุกคนที่กำลังดูก็เป็นเอฟซีเราด้วยเป็นตัวแทนเราด้วยก็จะได้ เติบโตไปด้วยกันได้เล็กได้น้อยอย่างน้อย มันก็ยังดีกว่าเราไม่ทำอะไรครับ”
จากคนที่เคยเป็นกระแส ติดลบด้วย! จนกลายเป็นกระแสบูลลีแล้วกลายมาเป็น คนที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนในทุกครั้งที่เขาโพสต์ แล้วทุกคนก็โดนครูไพบูลย์ตก! วันนี้ครูไพบูลย์ก็พิสูจน์ตัวเองในหลาย ๆ อย่างทั้งเรื่องของการ ดูแลตัวเอง การทำค่ายเพลง แล้วก็มาถึงการทำธุรกิจใหม่ “ลูกชิ้นมีหู” ครูไพบูลย์ ในครั้งนี้ด้วยซึ่งกำลังประสบความสำเร็จอย่างน่าจับตามองเลยทีเดียวและทุกคนยังสามารถที่จะมีส่วนร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ในธุรกิจนี้ได้อีกด้วย
ขอบคุณ “ครูไพบูลย์ แสงเดือน” และขอบคุณพ่อเลี้ยงเจจากเพจ : พ่อเลี้ยงเจจากดาวอังคาร ที่กรุณามาร่วมแชร์แรงบันดาลใจดี ๆและไอเดียอาชีพที่น่าสนใจในครั้งนี้ สามารถติดตามผลงานหรือสนใจธุรกิจลูกชิ้นมีหู ครูไพบูลย์ ได้ตามช่องทางการติดต่อทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของ “ครูไพบูลย์แสงเดือน” หรือ “ลูกชิ้นมีหู” ครูไพบูลย์ หรือโทร. 096-456-6616