กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ตเมื่อล่าสุด “จาก้า" "จักรพันธ์ ประจวบเหมาะ” ผู้ร่วมก่อตั้ง All Connex และผู้ร่วมก่อตั้งและผู้พัฒนาโปรเจกต์ Jakaverse ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ทางรายการ MCOT News 100.5 ว่าช่วงนี้กำลังแอบซุ่มพัฒนาโปรเจกต์ใหม่อยู่ และโปรเจกต์นั่นก็คือโปรเจกต์ทีจะสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยไปอีกขั้น
นั่นก็คือ “โปรเจกต์รถไฟฟ้าไร้คนขับ” และ “หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย” ฝีมือคนไทย พร้อมจับมือบริษัทระดับโลก และ ระดับประเทศมากมาย เช่น NVIDIA บริษัทเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดในปัจจุบัน และ เว็บไซต์เป๋ยตู่ (Baidu) ที่เป็นเว็บไซต์เสิร์ชเอนจินอันดับหนึ่งของประเทศจีน ในด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ต่างๆ Huawei และมาพร้อมพาร์ทเนอร์ที่สำคัญระดับประเทศอีกหนึ่งรายนั่นก็คือ The Mall Group กลุ่มห้างที่ใหญ่ที่สุดอันดับต้นๆของประเทศไทยที่ร่วมลงทุนในการร่วมพัฒนาโปรเจกต์นี้ไปด้วยกัน และคาดว่าจะเริ่มเปิดตัวครั้งแรกภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ที่ The Mall สาขาบางแค และ บางกะปิ
ในส่วนของรถไฟฟ้าไร้คนขับ จะเป็นระบบไร้คนขับและเป็นรถไฟฟ้า 100% เชิงพาณิชย์รายแรกของเมืองไทย โดยปัจจุบันเริ่มทดลองใช้งานแล้ว ในรถโดยสารที่เป็นรถบัส ซึ่งสามารถใช้งานได้จริงและราบรื่นไม่มีปัญหาใดๆ สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางได้อย่างแม่นยำ และมีระบบเซฟตี้ที่สามารถใช้งานได้อย่างหายห่วง เหตุผลที่สร้างขึ้นมาเพราะต้องการยกระดับเทคโนโลยีของเมืองไทยไปอีกขั้น และคราวนี้มาพร้อมกับพาร์ทเนอร์ทั้งระดับโลกและระดับประเทศอย่างล้นหลาม จะเริ่มต้นใช้รับส่งผู้โดยสารจริง ที่ The Mall ทุกสาขา และ ห้างชื่อดังอื่นๆ , โรงแรม , รีสอร์ต , อาคารสำนักงาน ฯลฯ และตัวรถจะมี ฟังก์ชั่นอัจฉริยะในการแจ้งเตือนผู้โดยสารให้อยู่อย่างปลอดภัยด้วยระบบเสียง AI อย่างครบวงจร และในอนาคตมีแผนจะผลิตรถยนต์สำหรับใช้ส่วนบุคคลอีกด้วยด้วย
สำหรับในส่วนของ หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย "คุณจาก้า" ให้เหตุผลว่าที่สร้างขึ้นมา เป็นเพราะไม่อยากให้มนุษย์ต้องไปเสี่ยงภัยเองมากเกินไปในเรื่องที่ไม่จำเป็น ยกตัวอย่างเช่น ยิ่งในพื้นที่เสี่ยงภัยและอันตรายที่มีกัมมันตภาพรังสี รวมถึงบุคลากรรักษาความปลอดภัย เราสามารถส่งหุ่นยนต์ Robo Raptor รักษาความปลอดภัย เข้าไประงับเหตุแทนได้ และหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยยังมีฟังก์ชั่นที่สามารถเลือกตอบโต้ได้ด้วย ถ้าหากมีกรณีที่จำเป็นต้องต่อสู้กับคนร้าย ใช้สำหรับเฝ้าบ้านหรือสำนักงานได้
เนื่องจาก เป็นหุ่นยนต์ที่มีกล้อง 360 องศา มีเรดาร์ที่สามารถค้นหาคนร้ายได้ทั้งกลางวันและกลางคืน มีฟังก์ชั่นแจ้งตำรวจได้อัตโนมัติเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน มีสัญญานแจ้งเตือนภัยเมื่อมีเหตุร้ายมาถึง ตรวจจับโลหะ อาวุธต่างๆ และความเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว ใช้แทนกล้องวงจรปิดได้ ใช้แทน รปภ.ได้ ไม่มีง่วง ไม่มีเหนื่อย ไม่มีอู้งาน และไม่มีความรู้สึก มีประสิทธิภาพมากกว่ามนุษย์ ในราคาที่ย่อมเยาว์กว่า ปัจจุบันสำหรับหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยเริ่มมีออเดอร์สั่งซื้อและจองเข้ามาแล้วมากกว่าหลักร้อยตัว และเคาะราคาเริ่มต้นอยู่ที่ไม่เกิน 150,000 บาท (ขึ้นกับจำนวนการสั่ง)
และภายในอนาคตอันใกล้นี้ ทาง All Connex มีแผนที่จะพัฒนาหุ่นยนต์แม่บ้านและหุ้นยนต์ในอุตสาหกรรมเพิ่มเข้ามาด้วย เพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้มากยิ่งขึ้น และในส่วน รถขับเคลื่อนด้วยระบบ Autonomous จะเริ่มเปิดตัวใช้งานจริงอย่างยิ่งใหญ่ ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ (2567) ที่เดอะมอลล์ แน่นอน
