จากกระแสข่าว เกี่ยวกับนักร้องชื่อดัง “หนุ่ม วงกะลา” กับแฟนสาว “คุณจูน” เลิกรากันไป และมีประเด็นเรื่องเงินออกมาจนมีการพูดถึงรายได้ของนักร้องดัง “หนุ่มกะลา” จากการเล่นคอนเสิร์ตในผับ วันนี้ คอลัมน์ SMEsผู้จัดการ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ เจ้าของสถานบันเทิงที่เปิดให้บริการที่จังหวัดภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวที่มีสถานบันเทิงเปิดให้บริการ นักท่องราตรีเป็นจำนวนมาก ไม่แพ้เมืองหลวง ว่าจริงแล้วการเปิดสถานบันเทิงยามค่ำคืน และมีการจัดคอนเสิร์ต ทางร้านมีรายได้ มากน้อยเพียงใด
นายสาริทธิ์ พุ่มพฤกษา (โทมัส) เจ้าของ Phuket waterside สถานบันเทิงยามค่ำคืนเปิดให้บริการ จังหวัดภูเก็ต เล่าว่า สำหรับ Phuket waterside เป็นสถานบันเทิง เปิดให้บริการยามค่ำคืน เปิดให้บริการ 3 ส่วน ส่วนแรก ร้านอาหาร ส่วนที่สอง บาร์ สำหรับนักดื่ม ฟังเพลง และ แสดงคอนเสิร์ต ส่วนที่สาม คือ ภัตตาคาร และจัดเลี้ยง ทั้ง 3 ส่วนมีรายได้แตกต่างกัน กลุ่มลูกค้าแตกต่างกัน และด้วยภูเก็ตเมืองท่องเที่ยว การให้บริการส่วนใหญ่ รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยว ส่วนคนในพื้นที่มีบ้างแต่ไม่เยอะมาก จะมีกรุ๊ปทัวร์ จีน และเกาหลี ร้านเปิดให้บริการมาได้ประมาณ 2-3 ปี ก่อนหน้านั่น เปิดเป็นร้านส้มตำมาก่อน ชื่อว่า ส้มตำบันเทิง มีดนตรีสด แต่ไม่ได้เป็นทางการ เหมือนปัจจุบัน แต่หลังจากโควิดได้มีรีโนเวตใหม่ ปรับพื้นที่แยกกันชัดเจน เพิ่มส่วนของบาร์ และเรสเตอรองเข้ามา
ในส่วนของบาร์ ไม่ได้เปิดในสไตล์ผับ แต่เป็นบาร์ สำหรับนักดื่ม ที่มาฟังเพลง และมาดื่มกินอาหารเท่านั้น เป็นดนตรีสด และเป็นโฟล์คซอง และเพลงป๊อบ สลับซับเปลี่ยนกันไป แนววาไรตี้ ในส่วนของ การเชิญศิลปินชื่อดัง มาแสดง มีเช่นกัน เป็นการจัดแสดงคอนเสิร์ต คล้ายกับโรงเบียร์ หรือ โรงเหล้า ประมาณนี้ แต่ไม่เหมือนผับ เพราะผับจะมีการเต้น แต่ปัจจุบันนักดื่ม นักเที่ยวนิยม แบบนี้มากกว่า
โดยการจัดคอนเสิร์ตแต่ละครั้ง มีจำหน่ายตั๋ว ขายกันเป็นโต๊ะ อยู่ที่ 2,000-3,000 บาท ขึ้นอยู่กับ ศิลปินที่เชิญมามีราคาแตกต่างกัน โดยศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียงอยู่ในกระแส อยู่ที่ 200,000 -250,000 บาท แต่ถ้าเป็นศิลปินนักร้องทั่วไปอยู่ที่ 150,000 บาท ต่อการแสดง 1 – 2 ชั่วโมง และมาทั้งวง ซึ่งการจัดคอนเสิร์ตในร้านเหล้า แบบนี้ จัดกันประมาณเดือนละ 1-2 คอนเสิร์ต
สำหรับรายได้ของทางร้าน จากการจัดคอนเสิร์ต แต่ละครั้ง ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับศิลปินที่เชิญมา ว่าช่วงนั้น เป็นอย่างไร ซึ่งถ้าเป็นศิลปินดัง บัตรขายหมด รายได้ประมาณ 300,000-500,000 บาท ราคาตั๋วเข้าชมคอนเสิร์ต ในร้านเหล้า แตกต่างจากการชมคอนเสิร์ตกลางแจ้ง เพราะรับแค่จำนวนโต๊ะ ประมาณ ไม่เกิน 150 โต๊ะ ต่อคอนเสิร์ต โดยในหนึ่งโต๊ะ 4 ที่นั่ง ตกหัวละ 600-700 บาท มีบริการเครื่องดื่มให้ฟรี ปกติ การจัดอีเวนต์ การเชิญศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียงมาแต่ละครั้ง ทางร้านจะขายบัตรหมดทุกครั้ง ลูกค้าเป็นคนในพื้นที่มากกว่านักท่องเที่ยว แต่ถ้าไม่มีคอนเสิร์ต ลูกค้าจะเป็นนักท่องเที่ยวมากกว่าคนในพื้นที่
นอกจากนี้ ทางร้านยังได้ร่วมกับบริษัทจำหน่ายเครื่องดื่ม โดยทางเจ้าของ แบรนด์เครื่องดื่มชื่อดัง จะเชิญศิลปินนักร้องชื่อดังหรือเป็นกระแสอยู่ในช่วงนั้นมาแสดงที่ร้าน พร้อมกับออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย แต่จะต้องมีข้อตกลงร่วมกัน คือ ต้องสั่งเครื่องดื่มไม่น้อยกว่า 150,000 บาท และในงานนั้นจะขายได้เฉพาะ เครื่องดื่มยี่ห้อดังกล่าวเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของเครื่องดื่มสิงห์ เหมือนกับเป็นการจัดกิจกรรมอีเวนต์ ร่วมกับเจ้าของผู้ประกอบการ ซึ่งในภูเก็ตมีการจัดกิจกรรมแบบนี้ ร่วมกับ เครื่องดื่มชื่อดังบ่อยครั้ง
นายสาริทธิ์ บอกว่า จริงๆ แล้วรายได้ในส่วนของบาร์ และการจัดคอนเสิร์ต ถือว่าเป็นรายได้ไม่เยอะมาก เมื่อเทียบกับรายได้หลักของเราในส่วนของร้านอาหาร และ การจัดเลี้ยงจะได้เยอะกว่ามาก ในส่วนของค่าใช้จ่าย ในวันธรรมดา การแสดงดนตรีสด ไม่มีคอนเสิร์ต จะมีค่าใช้จ่าย ที่จ้างนักดนตรีในพื้นที่คืนหนึ่งไม่เกิน 20,000 บาท ส่วนอื่น จะมีแค่ค่าพนักงาน ซึ่งการเปิดบาร์ ต่างจากผับ เพราะนักเที่ยวจะมาแค่ดื่ม กิน ก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เรื่องพนักงานเยอะ เหมือนเปิดผับ และ คนที่มาใช้บริการ จะเป็นคนในวัยทำงาน มากกว่า เด็กวัยรุ่น ปัญหาต่างๆ ก็จะน้อยกว่า
สำหรับสถานการณ์ สถานบันเทิงในพื้นที่ภูเก็ต ในช่วง ปี 2566 ที่ผ่านมา ดีมาก แต่พอมามี 2567 ทุกอย่างเปลี่ยนไป นักท่องเที่ยว หาย คนในพื้นที่ก็หายเช่นกัน เพราะภูเก็ตเป็นจังหวัดท่องเที่ยว พอนักท่องเที่ยวหาย คนในพื้นที่รายได้ลดลงไป กำลังซื้อลดลงไป การจะมาเที่ยวสถานบริการของคนในพื้นที่ก็หายเช่นกัน นักท่องเที่ยวคนไทยน้อยลงไป ด้วย เพราะราคาตั๋วเครื่องบิน มาภูเก็ตแพงมาก ราคาเท่ากับบินไปเที่ยวต่างประเทศ สิงคโปร์ คนไทยบินไปเที่ยวต่างประเทศแทน
ติดต่อ โทร. 06-2963-9978