“แต่ 3 เดือนแรกผมขาดทุนนะครับ ขาดทุนเพราะว่าต้องจ่ายลูกน้องวันละ 500/คน 3 เดือนแรกกำไรเรายังไม่เยอะ ปริมาณมันก็เขยิบขึ้นมาเรื่อย ๆ 20 กก. 30 กก. 40 กก.แล้วก็โดดมาเป็น 70 กก. แล้วก็มาเป็น 100 กก. ตอนนี้ก็เป็น 130 กก./วันครับ”
จากอดีตผู้รับเหมาที่หันมาจับมีดปังตอสับขาหมูขายแทน “เฮียโชว์-นายบัณฑิต โพธิพันธ์” ปัจจุบันอายุ 39 ปีเป็นเจ้าของร้าน “ขาหมูเฮียโชว์” ขาหมู 50 บาท ข้าวตักเองฟรีไม่อั้น! ที่กำลังเป็นไวรัลในโลกโซเชียลสวนกระแสกับภาวะราคาของแพงทั้งแผ่นดินอยู่ในขณะนี้ ประจวบกับที่มีประเด็นร้อนแรงเรื่อง “ข้าวไข่ดาว 2 ฟอง 70 บาท” เกิดขึ้นด้วยเลยทำให้ทีมงานเองอดไม่ได้ต้องทำหน้าที่เสาะแสวงหา “ของดีราคาถูก” มานำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้รู้จักกันด้วย
เฮียโชว์เล่าให้ฟังว่า ร้านนี้เปิดมาได้กว่า 2 ปีแล้ว ขายมาแต่แรกก็ราคานี้แถมข้าวเปล่าฟรีไม่อั้นก็ทำอย่างนี้มาตลอด ตอนนั้นราคาหมูถือว่าแพงกว่านี้อีกแต่ว่าด้วยตนเองมีความตั้งใจแล้วว่า อยากเปลี่ยนอาชีพใหม่หาทำอะไรที่มันสามารถส่งต่อให้กับคนในครอบครัวทำต่อเนื่องไปได้หากว่าวันหนึ่ง ตนเองทำไม่ได้แล้วก็ยังมีคนอื่นทำแทนได้ งานรับเหมา(ต่อเติมบ้าน) รายได้ดีกว่ากำไรมากกว่าก็จริง แต่หลังจากช่วงหนึ่งตนเองเคยติดเชื้อ “โรคโควิด-19” แล้วก็ทำให้งานทั้งหมดล่มตามไปด้วยเพราะตนเองเป็นหัวหน้าครอบครัว ตอนแรกคิดขายข้าวแกงแต่ว่ามันจุกจิกเกินไปก็เลยลองทำ “ขาหมู” ใช้สูตรการตุ๋นเป็นแบบเครื่อง3 เกลอ(ใช้แทนผงพะโล้) ซึ่งที่บ้านชอบกินแบบนี้มากกว่า พอมาขายดูปรากฏว่าลูกค้าก็ให้การตอบรับดีกอปรกับราคาขายที่คิดเพียง 50 บาทเริ่มต้น และมีข้าวเปล่าฟรีให้ตักเองด้วยไม่อั้น!
“ถ้าถามว่ากำลังคนน่ะหนึ่งวันบางคน 200-230 บางคน 220 ค่าแรงถ้าเรากิน 50 บาท เขายังมีเหลือ แต่ถ้าเราทำมากกว่านี้บางทีการที่เขากลับบ้านไปเนี่ยเขาก็ไม่พอกิน คือไม่มีเก็บ บางทีเขาอาจจะกิน 100 (กินเรา 50 กินเย็น 50) เขายังมีเก็บ 100 ไงครับ เขากินเรา 50 เขาอิ่มทั้งวัน บางคนเขาบอกเขาอิ่มทั้งวันเลย แต่ว่าราคานี้แหละ ถามว่ามีคนให้เราขึ้นมั้ย บอกราคานี้ขึ้นได้นะ แต่ผมว่าการที่ขึ้นแล้วอ่ะความรู้สึกของคนที่เขาเคยกินน่ะ มันจะรู้สึกว่าแบบน้อยใจเล็ก ๆ เพราะเรากินเท่านี้กำลังแบบมีเงินเก็บ”
ขาหมู 50 บาท ข้าวฟรีไม่อั้น!
สำหรับราคาขาหมูของร้านนี้ ราคาธรรมดา 50 พิเศษ 60 บาท ก็คือราคานี้มาตลอดไม่เพิ่มไม่อะไรเลย มันก็ปากต่อปากมาเลยจากนั้น ส่วนมากลูกค้าหลัก ๆ ของร้านก็จะเป็นพวกพี่ ๆ วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แท็กซี่ ไลน์แมน-พี่ไรเดอร์ ตอนใหม่ ๆ เขาก็มีการบอกต่อกันปากต่อปากให้ด้วย และยังบอกเราได้รู้ด้วยว่า “ถูกอย่างเดียวไม่ว่ารสชาติดีด้วย” เขาจะบอกต่อ ๆ กันมาแบบนี้
“ขาหมูเฮียโชว์” ไม่ใช้สูตรพะโล้ แต่เป็นสูตรอีกแบบที่ตัวเองชอบแทน
ส่วนสูตรข้าวขาหมูของที่ร้าน เป็นสูตรมาจากความชอบของที่บ้าน ซึ่งที่บ้านไม่ชอบกิน “กลิ่นพะโล้” ก็เลยไม่ใช้สูตรพะโล้ แต่มันจะมีเครื่องที่ทางร้านคิดขึ้นมาเอง กลิ่นนี้เราชอบกิน ก็เลยใช้เป็นสูตรนี้แทน แล้วก็จะมี “ผักกาดดอง” ที่ปรับสูตรขึ้นมาเองอีกอย่างหนึ่งด้วย ซึ่งเฉพาะผักกาดดองจะต้องใช้เวลาในการทำนานถึง 13 ชม. กว่าจะได้มาทั้งต้มน้ำเปล่าด้วยและก็ตุ๋น เพื่อให้ได้รสชาติที่ออกมาไม่เค็มเปรี้ยวโดดจนเกินไป
ในส่วนการทำขาหมูคือจะเริ่มตั้งแต่ในช่วง 18.00 น.ของวัน แล้วก็ตุ๋นไว้จนถึง 5 ทุ่ม จึงจะปิดเตาเพื่อเตรียมหมูให้พร้อมสำหรับขายในช่วงเช้า ร้านเปิดตั้งแต่ 07.00 น.เป็นต้นไป จนถึงหมด(ตอนนี้บอกไม่ได้ว่าหมดกี่โมง) แต่ส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้หมู 130 กก. สับขายแบบไม่ได้หยุดเลยนะ ไม่เกิน 10.00 หรือ 11.00 น. ก็จะหมดเกลี้ยงแล้ว!
ยัน! 50 บาทราคานี้ไม่ขาดทุน แถมใช้หมูเกรดดีมีคุณภาพมาทำ
เจ้าของร้าน กล่าวว่า ราคา 50 บาทลูกค้ายังสามารถเลือกทานได้ด้วย จะเอาแบบเนื้อล้วน เนื้อ-หนัง+ไส้ หรือคากิก็สั่งได้หมดเลย แต่ถ้าอยากทานแบบพิเศษ(หรือเพิ่มไข่) ด้วยก็จ่ายเพิ่มอีกแค่ 10 บาท ราคานี้เอาจริง ๆ ถามว่าคนขายอยู่ได้จริงหรือในยุคที่ข้าวของต่าง ๆ แพงแบบนี้
“คือถ้าเราไม่เป็นหนี้นะครับ อยู่ได้! แต่ผมพูดได้เลยคนที่เป็นหนี้อยู่ไม่ได้ครับ ดอกรายวัน ผ่อนรถ ผ่อนบ้านเนี่ยอยู่ไม่ได้ ผมไม่มีครับ ผมมีแค่ไว้เลี้ยงลูกอย่างเดียว เพราะว่าเราไม่ได้ขายแบบเอากำไรเยอะ ๆ หลัก ๆ เลยมีข้าวกับขาหมูแต่ว่ามันก็จะมียิบย่อยอีก กระเทียม พริก ไข่ ทุกอย่างขึ้นหมด”
ข้าวตอนนี้ก็จะน้อยลงหน่อย เพราะว่าลูกค้าจะซื้อแบบใส่ถุงกลับบ้านกันเยอะกว่า แต่ว่าก็จะเตรียมข้าวเพื่อหุงให้พอกับลูกค้าที่ต้องการทานที่ร้านด้วยวันหนึ่ง ๆ ไม่ต่ำกว่า1 กระสอบคือเตรียมในรถเอาไว้เลยหมดก็หุงใหม่ ๆ เสริมเข้าไปแทน ข้าวจะเหลือไม่เป็นไรให้ลูกค้าได้ทานให้อิ่มก็พอ
เจ้าของร้านไม่ได้แค่ขายถูกขวัญใจชาวบ้านในย่านนั้นเท่านั้น แต่ยังมีนำใจ อย่างใครมาขอ เราก็ให้เพราะว่ามีคนที่เขามาทานแล้วแบ่งปันไว้ก็มี อย่างทาน 50 บาทแต่เขาจ่าย 100 หรือ 200 บาทเอาไว้ให้ด้วยเผื่อเราช่วยแบ่งปันต่อไป กำไรไม่เยอะหรือบางทีมันก็มีเข้าเนื้อบ้างเป็นค่าแก๊สหรืออะไรมันก็บ้าง
“มีคนที่จะมาขอซื้อแฟรนไชส์ผมก็มี แต่ผมคิดว่าเรากลัวบริหารแฟรนไชส์ไม่ได้ เราไม่เอา ถ้าเราบริหารไปแล้วมันหลุดอย่างเงี้ยมันเสียด้วย เราทำของเราเองดีกว่าแล้วเราก็กลัวว่า ความสะอาดเรื่องพริก กระเทียม กลัวเขาจะทำแบบสเป็กกับเราทำไม่ได้”
อีกเรื่องหนึ่งที่คนทั่วไปอาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับที่มาของ “หมู” ว่าใช้จากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือด้านคุณภาพมากน้อยเพียงใด“เชื่อถือได้ครับผมใช้หมูที่มาจาก “โรงเชือด” ได้มาตรฐานรับรอง ที่เขามีส่งให้เจ้าอื่นด้วยไม่ใช่ส่งให้แต่ผมเจ้าเดียว และก็มีเจ้าอื่น ๆ ที่มารับไปซึ่งเขาเป็นเจ้าใหญ่ ๆ ก็มีด้วยครับมารับจากที่นี่ มีเอกสารมีบิลภาษีที่เชื่อถือได้เลยครับ เพราะผมเองก็ต้องการที่จะเอาบิลภาษีด้วย”
ลงทุนต่อวันเกือบ 2 หมื่น ของหมดเกลี้ยงยังไม่เที่ยงเกือบทุกวัน!
ในส่วนการลงทุนวันหนึ่งรวมค่าลูกน้องด้วยก็อยู่ประมาณ 17,000-18,000 บาท จ่ายทุกวัน อย่างหมูเขาให้เราเครดิตได้แต่เราไม่เอา เพราะว่าการเป็นเครดิตมันจะเยอะแล้วมันทำให้เราเสียดาย “เลยเลือกที่จะจ่ายทุกวัน เคลียร์กันวันต่อวันไปเลย เฉพาะค่าหมูวันหนึ่งหมื่นกว่าบาทแล้วอย่างเงี้ย อาทิตย์หนึ่งเป็นเงินเท่าไร เราจ่ายทุกวัน แต่ผมโชคดีตรงที่ว่ามีหลังบ้านก็คือ ภรรยา ที่เขาช่วยบริหารจัดการการเงินให้เราได้ดีด้วย”
โดยทุกวันนี้หมู 130 กก./วัน คือมันเต็มหม้อแล้ว ถ้าจะขยายปริมาณเพิ่มอีกคือต้องทำหม้อใหม่ด้วย เพิ่มหม้ออีก1 หม้อขึ้นมา แต่ถามว่าส่วนตัวเองคืออยากจะเพิ่มเลย อยากทำเพิ่มอีกเพื่อจะรองรับกับลูกค้าที่เขาอยากจะมาทานที่ร้าน แต่ว่าภรรยาเขาไม่ยอม! เขาให้เลือกเลยว่า “ถ้าทำเพิ่มอีกก็เลิก!” เขาพูดอย่างนี้เลย เพราะว่าเขาเป็นห่วงสุขภาพของเราจะห่วงมาก ๆ เลย ต้องยืนตลอดเวลาเป็นระยะนาน ๆ ด้วย เขาบอกทุกวันนี้เราก็ไม่ได้มีหนี้สินอะไรทำไมเราต้องดิ้นรนทำให้เยอะอะไรขนาดนั้น เพราะตอนนี้เราก็อยู่ได้แล้ว
ขายดีจนอยากเพิ่มปริมาณอีก แต่โดนสั่งเบรก! เพราะสุขภาพเริ่มไม่ไหว
อยากจะเพิ่มปริมาณการขายต่อวันให้มากขึ้นอีกแต่ว่า ภรรยาไม่ให้เพิ่มแล้วเพราะเขาเป็นห่วงสุขภาพของเรา“เขาห่วงผมว่าผมยืนนาน ตัวใหญ่ ซึ่งมันมีผลกับสุขภาพเราด้วยจริง ๆ เนี่ยผมเพิ่งไปฝังเข็มมาเพราะว่ายืนนาน ๆ แล้วขาข้างขวามันชาครับ ชาแล้วมันรู้สึกปวดตึบ ๆ ผมก็เลยไปฝังเข็ม มีผลครับ”ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมไม่ให้ลูกน้องช่วยทำแทนเราบ้าง คำตอบคือ ช้า ช้าจริง ๆ เพราะว่าเขาจะกังวลสับน้อยสับมากเดี๋ยวเถ้าแก่จะว่า เขาก็เลยแบบช้าไปหมด ลูกค้าที่มารออยู่ก็ทำให้แถวยิ่งยาวออกไปอีก
“คิดไว้ว่าอยากจะขยับขยายหาเป็นร้านแบบให้คนได้นั่งเพิ่ม เพราะว่าถ้าเป็นร้านเนี่ยแฟนบอกว่าเพิ่มได้ ก็คือมันยังมีเวลาทำหลังบ้านไงก็คือคนขายก็ขายไป ต้มก็ต้มหลังบ้านไป มันก็ขายได้ยันเย็นอะไรเงี้ยลูกค้ามาก็ยังได้ทาน แต่ถ้าอย่างเงี้ยเขาไม่ให้เพิ่มเลย”
ลูกค้าทานแล้วต้อง “อร่อย” ราคาถูกด้วย สุขที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
เฮียโชว์-นายบัณฑิต โพธิพันธ์ เจ้าของร้าน “ขาหมูเฮียโชว์” ยังบอกด้วย ณ วันนี้ที่ขายอยู่ราคานี้ไม่มีอะไรที่ตนต้องรู้สึกว่ากังวลเลย ไม่ขาดทุน แต่มันแค่ไม่ได้กำไรเยอะ ๆ แค่นั้นเอง คือเราอยู่ได้ แต่ถ้าอย่างที่ตนบอกคือคนที่เป็นหนี้จะมาทำแบบนี้ไม่ได้ไม่ได้เลย! ตนพูดได้เลยถ้าเริ่มจากคนที่เป็นหนี้ทำอย่างที่ตนเองทำอยู่นี้ไม่ได้! และท้าทำให้ด้วย(หัวเราะ)
“เพราะว่าพี่จะทำคนเดียวไม่ได้นะครับ อย่างค่าลูกน้องวันละ 2 พันกว่าแล้ว เดือนหนึ่งเท่าไหร่? แล้วพี่จะเอาเงินตรงไหนไปผ่อนรถ ส่งค่างวดบ้าน มันมีเก็บแต่ว่ามันไม่ได้เก็บเยอะมากมายครับ แต่ทำแล้วมันมีความสุข ต้องทำแล้วต้องมีความสุขนะ ทำเป็นทุกข์อย่าทำครับ เหนื่อย สุขครับ สุขได้คุยกับลูกค้าได้เจอลูกค้าได้กิน เขาชมเราว่าอร่อย สุขแล้วครับ”ได้คุยกับลูกค้าได้เจอ เราได้ยินเสีบงคำชม“ผมไม่อยากให้เขาพูดว่า ถูก ผมอยากให้เขาพูดว่า มันอร่อย ถูกเป็นหลักที่สองแต่ความอร่อยอยากให้มา ที่ 1 อะไรเงี้ย”
ทำได้ทำแบบถูกแล้วไม่อร่อยมันทำได้ อย่างเรื่องปริมาณที่ให้กับลูกค้าก็มีกะอยู่แต่ว่าบางทีเราเผลอมากไป มันก็ถัว ๆ กันไป แต่ถ้าน้อยเราก็เพิ่ม แต่บางทีมากเราก็ต้องถัว ๆ กันไป เราไม่มีการที่จะหยิบออกอยู่แล้ว(หยิบออกมันดูน่าเกลียดอยู่แล้ว) มันก็ต้องถัว ๆ กันไปคละกันไป มากบ้างแต่ว่าให้น้อยไม่น้อยแน่ ๆ เพราะว่าเรามีหลุดเยอะไปอยู่แล้ว
“ก็ขออย่างเดียว ขอให้ลูกค้าเขารักเรา เขารักเราแล้วเขาต้องกลับมาไง แค่นั้นเองครับเราก็จะอยู่ได้ ผมบอกเด็กทุกคนแม้แต่ลูกเหมือนกันว่าเวลามาขายต้องทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าเขาแฮปปี้ รักเรา เขาได้กลับมา ให้อร่อยยังไงบริการไม่ดีเขาไม่กลับหรอกครับ ผมแคร์ แคร์ครับเพราะว่าเราอยู่ได้ก็เพราะลูกค้านะครับ”
ถามเฮียโชว์ว่าแล้วไม่คิดอยากจะกลับไปทำรับเหมาอีกแล้วเหรอ คำตอบที่ได้คืองานรับเหมามันค่อนข้างมีปัญหาเยอะโดยเฉพาะเรื่องคน(ลูกน้อง) แต่ถ้าถามถึงเรื่องรายได้แน่นอนว่างานรับเหมาได้รายได้และมีกำไรที่เยอะกว่าขายขาหมูมากอยู่แล้ว แต่ตนก็คงไม่คิดกลับไปทำอีกแล้วเพราะสิ่งที่ได้อีกอย่างจากอาชีพนี้คือ “เวลา” จากไม่เคยได้อยู่กันพร้อมหน้ามากนักเพราะบางครั้งงานรับเหมาต้องไปคุมไซต์งานตามจังหวัดทีละนาน ๆ ด้วย แต่ว่าพอมาทำแบบนี้มันทำให้ได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้นกว่าแล้วก็รู้สึกว่ามัน มีความสุขมากกว่า แล้วพอเวลามาทำงานก็มีความสุขที่ได้รับจากลูกค้าอีก ไม่ใช่ว่าค้าขายแล้วไม่อยากรวย (อยากรวยเหมือนกันกับทุกคน) แต่เพียงแค่ว่าเราต้องรอก่อนเพื่อให้ถึงจังหวะของเขาที่จะมาในสักวันหนึ่งก็ได้ ซึ่งในระหว่างนี้เรามีอะไรที่พอจะช่วยกันได้เราก็ทำอย่างเต็มที่แค่นั้นเอง
ภาพที่ทีมงาน “ชีวิตใหม่” ได้เห็นตลอดเวลาที่ไปถึงร้านวันนั้น ก็คือว่าตั้งแต่ 07.30 น. หลังการเปิดร้านได้ไม่นานนักก็จะมีลูกค้าทยอยกันเข้ามาสั่งทานสั่งใส่ถุงกลับบ้านต่อแถวกันคิวยาวอย่างไม่ขาดสายเลย เห็นได้ชัดว่าส่วนหนึ่งมาจากการตามกระแสเพื่อมาลองชิมดูว่ารสชาติของอาหารเป็นอย่างไรบ้างและก็ ไม่น้อยที่เป็นลูกค้าเก่า-ลูกค้าประจำก็ยังมาสั่งนั่งทานกันอยู่ที่ร้านอย่างดูน่าเอร็ดอร่อยทีเดียว ขาหมูเฮียโชว์ไม่ใช่แค่หน้าตาที่ดูน่ากินเท่านั้นแต่ทว่ารสชาติก็ถือได้ว่าไม่แพ้ขาหมูเจ้าอื่น ๆ เช่นเดียวกัน อร่อยด้วยแถมราคาก็ดีต่อใจของคนกินด้วย จากฟีดแบ็คในคอมเม้นต์ที่เห็นการโพสต์เรื่องราวผ่านสื่อต่าง ๆ ที่มาถ่ายทำรายการที่ร้านก่อนหน้าหลาย ๆ คนสะท้อนมาเรื่องหนึ่งที่ตรงกันและก็ตรงกับสิ่งที่ผู้เขียนได้เห็นกับตาด้วยก็คือว่า เจ้าของร้านใจดีมาก ๆ และการบริการดีเยี่ยมจริง ๆ ขอบคุณเรื่องราวที่ช่วยฮีลใจของผู้คนในยุคนี้ได้เป็นอย่างมากทีเดียว ขอบคุณเฮียโชว์ที่กรุณาสละเวลาอันแสนเร่งรีบเพื่อมาร่วมแชร์มาบอกเล่าสิ่งดี ๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนอื่น ๆ ต่อไป ขอให้ทางร้านขายดีขายดีอย่างนี้ตลอดไป
สามารถแวะไปอุดหนุนไปชิมขาหมูร้าน “ขาหมูเฮียโชว์” ได้ที่ เลียบทางรถไฟสามแสน(หลังแฟลต 10 สวัสดิการทบ.) พิกัดหลัก ๆ อีกคือหลังโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ถนนกำแพงเพชร 5 กรุงเทพฯ หรือโทร.063-424-4990
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
