บริษัทเอสโซ่ประเทศไทย ได้เข้ามาดำเนินกิจการด้านพลังงานในประเทศไทย ตั้งแต่ยังไม่ได้ใช้ชื่อ เอสโซ่ รวมแล้ว 129 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2474 เข้ามาดำเนินกิจการภายใต้ชื่อ บริษัทแสตนดาร์ดออยล์แห่งนิวยอร์ก และบริษัทแว๊คคั่มออยล์ ร่วมจัดตั้ง บริษัทโซโกนีแว๊คคั่ม คอร์ปอเรชั่น จำหน่ายผลิตภัณฑ์หล่อลื่นตรา การ์กอยส์ และผ่านมา 2 ปี 2476 ร่วมกับบริษัทแสตนดาร์ดออยส์ (นิวเจอร์ซี) เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทแสตนดาร์ดแว๊คคั่มออยส์ จำกัด จำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ม้าบิน ซึ่งถ้าเป็นคนวัย 60 ปี ขึ้นไปก็จะรู้จักแบรนด์นี้ดี และในปี 2490 ได้เข้าซื้อกิจการคลังน้ำมันช่องนนทรี จากกรมเชื้อเพลิงพลังงานมาดำเนินกิจการ
และจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ เครื่องหมายการค้าภายใต้แบรนด์ Esso เริ่มขึ้นเมื่อปี 2505 จากบริษัทแสตนดาร์ดแว๊คคั่มออยส์ จำกัด ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น บริษัท เอสโซ่ แสตนดาร์ด อีสเทอร์น จำกัด เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2505 และเปลี่ยนเครื่องหมาย ตราม้าบิน มาเป็น ตราเอสโซ่ และ ในปี 2508 เปลี่ยนชื่อมาเป็นบริษัท เอสโซ่ แสตนดาร์ด ประเทศไทย จำกัด
หลังจากนั้น ในปี 2510 ได้เข้าซื้อโรงงานยางมะตอยไทย เพื่อจัดตั้งโรงกลั่นน้ำมันที่ศรีราชา และเป็นปีที่เริ่มต้นธุรกิจน้ำมันครบวงจรในประเทศไทย มีทั้งโรงกลั่นน้ำมัน คลังน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมัน และในปี 2514 บริษัทได้รับอนุญาตให้ขขยายโรงงาน โดยมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบวันละ 35,000 บาร์เรล
ส่วนสำนักงานใหญ่ บนถนนพระราม 4 เกิดขึ้นเมื่อปี 2515 และในปี 2519 ได้ขยายโรงกลั่นครั้งที่ 2 เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 46,000 บาร์เรลต่อวัน และในปี 2522 ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้ง หลังได้รับสัมปทาน ในการสำรวจและขุดเจาะหาแหล่งพลังงานที่จังหวัดนครราชสีมา โดยใช้ชื่อว่า บริษัทเอสโซ่ เอ็กซ์โพลเรชั่น แอนด์ โพรดักชั่น โคราชอิงค์ และได้พบก๊าซธรรมชาติที่หลุมน้ำพอง จ.ขอนแก่น บริษัทเปลี่ยนชื่อเป็น เอ็กซอนโมบิล เอ็กซ์โพลเรชั่น แอนด์ โพรดักชั่น โคราชอิงค์ และในปี 2534 ร่วมมือกับ บริษัทน้ำมันชั้นนำหลายแห่ง เพื่อ วางท่อขนส่งน้ำมัน จากโรงกลั่นศรีราชาไปยังลำลูกกา ดอนเมือง และสระบุรี ภายใต้ชื่อ บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด และในปี 2539 ได้มีการใช้ชื่อ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด
จนกระทั่งในปี 2541 ได้รับพระราชทานตรา ครุฑ จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ ๙) และก่อสร้างโรงงานอะโรเมติกส์ บริเวณโรงกลั่นน้ำมันศรีราชา และในปี 2544 เข้าซื้อกิจการโมบิลออยล์ ประเทศไทย และในปี 2551 ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นที่มาขอชื่อ บริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน
และในปี 2554 ฉลองความสำเร็จ 120 ปี ในประเทศไทย โดยการลงทุน 10,000 ล้านบาท ทำโครงการน้ำมันสะอาด พร้อมกับปรับโฉมสถานีบริการน้ำมันในรูปแบบใหม่ (ปี 2507) และในปี 2562 ฉลองครบรอบ 125 ปี เปลี่ยนศูนย์บริการธุรกิจกรุงเทพ เป็น ศูนย์บริการธุรกิจระดับโลก
ผ่านมาจนถึง ปี 2566 เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อ บางจาก คอร์ปอเรชั่น ได้เข้าซื้อหุ้นบริษัทเอสโซ่ จากเอ็กซอนโมบิล ในสัดส่วนร้อยละ 65.99 คิดเป็นมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 55,000 ล้านบาท ทำให้บางจากจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เอสโซ่ ซึ่งเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะปั้มน้ำมันเอสโซ่ ที่มีอยู่ทั่วประเทศ 820 ปั้ม จะเปลี่ยนชื่อเป็น บางจาก ส่งผลให้บางจากเป็นสถานีบริการน้ำมันมากถึงประมาณ 2,160 สถานี ในเร็วๆ นี้ คงจะต้องถือเวลาอำลา ปั้มน้ำมันที่คนไทยคุ้นเคยมามากกว่า 100 ปี กับ สโลแกน จับเสือใส่ถังพลังสูง สาวกที่หลงรักEsso ก็คงจะต้องไล่หาซื้อของที่ระลึกเก็บไว้ในความทรงจำ
