อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนาฯ เช่นเดียวกับ “ลุงน้ำปั่น” ฉายาที่เด็ก ๆ ลูกค้าประจำตั้งให้ กลายเป็นทั้งชื่อร้านและชื่อเรียกที่รู้จักกันอย่างดี 30 กว่าปีที่ทำอาชีพนี้มาเริ่มต้นจากราคา 4 บาทถึงตอนนี้ขาย 10 บาทที่เจ้าตัวยังยืนยันว่ามีกำไร!!!
ในวัยย่างเข้า 64 ปีแล้ว ที่ยังดูขยันขันแข็งกับงานค้าขายดีจนมือเป็นระวิงอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เพิ่งเริ่มตั้งร้านมาได้สักประมาณบ่ายสามโมงเศษ ๆ ที่เราไปถึงเจอกับคุณลุง “ลุงน้ำปั่น” หรือชื่อจริงคือ นายณรงค์ เกษมศิริเพ็ญ เจ้าของร้านน้ำปั่นสารพัดเมนู(ผลไม้) ให้เลือกได้ ซึ่งร้านตั้งอยู่ในซอยข้างเซเว่นฯ พิกัดคือปากทางเข้าวัดบางปะกอก ถนนสุขสวัสดิ์(ซอย19) เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ และพอได้จังหวะที่ลูกค้าซา ๆ ลงบ้างก็เลยต้องรีบชวนคุย ลุงน้ำปั่นบอกว่า ทำอาชีพนี้มาได้ 30 กว่าปีแล้ว จากเริ่มแรกเลยก็คือ “น้องสาว” เป็นคนขายอยู่ก่อนสมัยนั้นเขายังเรียนหนังสืออยู่ และก็เลยเปิดร้านขายของในช่วงเย็นด้วย เริ่มต้นจริง ๆ ก็ขายน้ำเต้าหู้ก่อนแต่ว่ามันไปไม่ได้ ไปไม่รอด! น้องสาวเลยเปลี่ยนมาขาย “น้ำปั่น” ลองดูซึ่งปรากฏว่าพุ่งกระฉูดเลย ขายดีมาก ๆ น้ำแข็งวันหนึ่ง ๆ ใช้เป็น 10 กว่ากั๊กเลย ตอนนั้นขนาดว่าออกขายเย็น 16.00-17.00 น.ไปแล้ว แต่อย่างที่ลุงขายอยู่ตอนนี้คือจะออกมาไวกว่า เพื่อให้ทันกับเด็ก ๆ ที่โรงเรียนเลิกเรียนมาพอดี
“ลุงขายมา 30 กว่าปีตั้งแต่แรก 4 บาทก่อน เมื่อ 30 กว่าปี ค่าเงินมันใหญ่มันสูงนะหนูไม่ใช่น้อยนะ ตอนนั้นน้องสาวลุงเป็นคนขายก่อนนะ มันขายไปด้วยแล้วมันเรียนไปด้วยไง ก็มันเรียนจบ มันก็ต้องไปทำงานใช่มั้ยมันจะมาขายได้ไง มันก็ไปทำงาน ลุงจะทิ้งร้านนี้ลุงก็เสียดายนะ ตอนนั้นลุงก็ทำงานด้วยแล้วดึก ๆ ลุงก็จะออกมาช่วยมันเก็บร้าน ให้น้องสาวกลับบ้านไปก่อน ลุงจะเป็นคนเก็บร้านให้ แต่ว่าพอเขาจะไม่ทำแล้วลุงก็เลยเสียดาย มาทำเองเลยจนกระทั่งถึงทุกวันนี้”
น้ำปั่น 10 บาท ราคานี้ยังมีกำไร?
ทุกอย่างขายราคา 10 บาท ยกเว้น “มะพร้าวปั่น” อย่างเดียวที่ขาย 15 บาทส่วนนอกนั้น อย่างสตรอเบอร์รี่ก็ 10 บาทหมด ถามว่าราคานี้ยังได้กำไรอีกหรือ? “ได้! ถ้าไม่ได้แล้วลุงจะมายืนขายอยู่ได้ไง” เพราะลูกสาวลุงยังเรียนหนังสืออยู่เลย ต้องหาค่าใช้จ่าย เป็นค่าใช้จ่ายของลูกสาวด้วย ซึ่งปัจจุบันลูกสาวคนเดียวของคุณลุงกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 แล้ว ในรั้วของมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านใจกลางกรุงเทพฯ ที่เป็นทั้งกำลังใจสำคัญและแรงผลักดันในชีวิตให้ลุงน้ำปั่นสู้ต่ออย่างไม่ถอย!
เตรียมของมาพอดีขาย แต่ส่วนใหญ่หมดเกลี้ยงตู้ทุกวัน
วัตถุดิบหลักคือ ผลไม้ ซึ่งบางอย่างมี-ขายตามฤดูกาล อย่างเช่น สตรอเบอร์รี่ ช่วงนี้หน้าหนาวเป็นฤดูกาลของเขาแล้วก็ราคาไม่สูงจนเกินไป แต่ก็จะมีหลาย ๆ อย่างที่ยืนพื้นขายได้ตลอดทั้งปียกเว้นว่าช่วงแพงมาก ๆ อย่างเช่นกรณีของ มะนาว หน้าแล้งที่ราคาแพงมากกว่าปกติลุงบอกว่า ก็อาจจะต้องเลี่ยงไปก่อนไม่ขายในช่วงนั้น แต่ว่าก็ยังมี “ส้ม” ที่ใช้แทนกันได้ขายเฉพาะของที่มีไปก่อน หรืออย่างมะพร้าวน้ำหอมก็มีช่วงแพงเหมือนกัน ซึ่งแม่ค้าเองเขาก็จะไม่มีมะพร้าวขายให้กับเราด้วยเหมือนกัน บางทีก็มี 5 ลูก 7 ลูก ก็แล้วแต่ว่าเขาจะขายให้เราได้กี่ลูกต่อวัน
ถามลุงน้ำปั่นต่ออีกว่า วันหนึ่ง ๆ ลงทุนไปมากน้อยเท่าไร? ลุงเล่าให้ฟังว่าก็เกือบ ๆ พันบาทนะหนู แล้วถ้าขายหมด คือต่อวันจะได้อยู่ที่ประมาณ 150-160 ถุง ซึ่งของที่เตรียมมาขายทุกวันจะทำขายได้อยู่ราว ๆ ไม่เกินนี้ ขั้นต่ำที่ขายได้คือไม่น้อยกว่า 150 ถุง/วัน ตามปริมาณของที่เตรียมมาเอาแบบขายหมดวันต่อวันพอ!
“ขายหมดทุกวัน นี่ยังไม่เท่าไหร่เดี๋ยวเด็กเลิกเรียนแล้วยิ่งกว่านี้อีก เด็กเลิกเรียนแล้วช่วง 5 โมงพวกทำงานเลิกงานกลับมาอีก
บางครั้งตั้งแต่ตั้งร้านแล้วถึงทุ่มกว่า-สองทุ่ม ลุงไม่ได้นั่งเลย”
เทคนิคสร้างกำไร ตามแบบของ “ลุงน้ำปั่น”
“กำไรนี่ กำไรจริง ๆ เฉลี่ยนะบางอย่างมันก็กำไรเยอะนะ อย่างเช่นกล้วยหอม อย่างเงี้ยราคามันไม่สูงมาก เฉลี่ยแล้วเราได้กำไรไม่ต่ำกว่า 50% หรือ 60% นะ อย่างมะพร้าวจริง ๆ ลุงขาย ลุงไม่ได้กำไรหรอก แต่มันก็จะตู๊ ๆ กันไป(ถัวเฉลี่ย) อย่างเงี้ยนะ เอากำไรส่วนนี้มาช่วยส่วนนี้ อย่างช่วงนี้ใครกินมะเขือ(เทศ)กับกล้วย(หอม) เนี่ยลุงชอบมาก เพราะช่วงนี้มะเขือกับกล้วยมันถูกไง”
ลุงน้ำปั่นบอกว่า ตั้งแต่ขายมานี่ยังไม่มีปัญหาหรืออุปสรรคใดเลยนะ อย่างอุปสรรคก็คือร่างกายเราแต่ว่าลุงบอกตรง ๆ เลย เจ็บป่วยไม่ค่อยมีพวกนี้นะ ขนาดว่า “โควิด-19” ลุงก็ยังรอดมาได้ ไม่เคยติดเชื้อฯ แม้แต่สักครั้งหนึ่งเลย ก็ทำมาหากินมาตลอดตอนช่วงโควิดที่ว่าหนัก ๆ กันแค่ไหนลุงก็ยังขายของอยู่ ไม่เคยหยุดเลย ขายอยู่ตรงนี้แหละเป็นที่ของ “เจ้าของที่” ซึ่งเขาใจดีมาก ๆ ให้ลุงมาขายได้เป็นที่ดินส่วนบุคคล จากแต่ก่อนเลยคือจะขายกันอยู่ตรงฟุตบาธริมถนนใหญ่(ถนนสุขสวัสดิ์) กระทั่งพอทางภาครัฐเขามีการจัดระเบียบเมือง ไม่ให้ตั้งร้านขายของอยู่บนทางฟุตบาธแล้ว ก็เลยต้องย้ายหาที่ขายใหม่ซึ่งพอดีว่าเจ้าของที่ใจดี เขาก็เลยให้เข้ามาขายอยู่ในซอยนี้ได้และตั้งแต่นั้นมาก็เลยอยู่ที่นี่ตลอด แต่ในอนาคตยังไม่รู้ว่าจะได้ขายอยู่ตรงนี้อีกนานแค่ไหน เพราะพอมีโครงการรถไฟฟ้าฯ เข้ามาแล้วก็ทำให้พื้นที่นี้มีราคาแพงขึ้นมาก ยังไม่แน่เจ้าของที่คนใหม่เขาอาจจะขายเปลี่ยนมือไปในสักวันหรือไม่
“การขายไม่ได้มีสูตรตายตัวว่า ต้องใช้อะไรในปริมาณเท่าไหร่ แต่จะอาศัยว่าของทุกอย่างที่เราซื้อมาขายในแต่ละวันเราจะรู้
ว่าอะไรมันได้เท่าไหร่แล้วก็ราคาที่เราซื้อมามันอยู่ที่เท่าไร เพราะของเราไม่ได้ซื้อเก็บไว้ แต่จะซื้อมา-ขายไป หมดแบบวันต่อวันอยู่แล้ว และราคาขายที่ได้ก็อย่างที่ลุงบอกว่ามันจะมีตัวหนึ่งได้กำไรเยอะ บางตัวได้กำไรน้อย ก็จะมาถัวเฉลี่ยกันไปแทน สำคัญคือว่า มะพร้าว อย่างถ้าเด็กมาซื้อลุงจะขายเขาแค่ 10 บาทเอง ผู้ใหญ่ 15 แต่ถ้าเป็นเด็กนักเรียนลุงจะขายเขาแค่ 10 บาทพอทุกอย่าง 10 บาทหมดของเด็ก เพราะว่าลูกสาวเราก็เคยเรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้ด้วย”
ไม่หวงสูตรคนอยากได้อาชีพ แต่สงวนสิทธิ์ในราคานี้(เพราะ)?
ใครอยากจะขายมาถามลุง ลุงบอกให้หมดล่ะสอนให้รู้จักทำอะไร เศรษฐกิจแบบนี้คนตกงาน-หางานกัน แล้วมาเจอ “โควิด” แบบนี้อีก ใครอยากทำมาถามลุงได้เลย แต่ว่าถ้าจะขายแบบลุง(ราคานี้) มันพูดยากนะ เพราะว่าวัตถุดิบที่ลุงซื้อมา “เขารู้ว่าลุงขายราคาแบบนี้ เขาก็เลยจะขายให้เราในราคาที่ถูกกว่าคนอื่นอีก แต่ถ้าคนอื่นจะขาย ขายแบบลุงไม่ได้หรอก ไม่ได้อะไรแล้วพาลควักเนื้อเข้าไปอีกด้วย ต้องถือว่าของลุงคือเป็นกรณีพิเศษจริง ๆ เราขายเราซื้อจากเขากันมานาน ก็เหมือนเป็นการได้ช่วยเหลือกันไปด้วย และส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าประจำที่อุดหนุนกันมานาน อย่างบางคนที่ซื้อร้านลุงมาตั้งแต่หนุ่ม ๆ เลยก็มี”
สู้สุดใจ! ชีวิตนี้เพื่อลูก
ชีวิตใหม่ เริ่มต้นใหม่ ด้วยการเป็น “คนใหม่” ที่ดีขึ้นกว่าเมื่อวาน ในตอนท้ายคุณลุงน้ำปั่นยังได้เผยถึงแรงบันดาลใจที่สำคัญให้เราฟังด้วยว่า “หนูเอ้ยแต่ก่อนลุง เป็นคนเล่นคนเที่ยวนะลุงไม่ค่อยขายหรอก บางทีลุงตั้งร้านเสร็จลุงทิ้งละเพื่อนมา ลุงทิ้งร้านไว้เลยแล้วไปกับเพื่อนเลย เพราะตอนนั้นลุงยังไม่มีลูกไงลุงก็ยังไงก็ได้ แต่พอมีลูกแล้ว เราก็ต้องเปลี่ยนนิสัยเปลี่ยนตัวเราใหม่หมดละ เราต้องมีความรับผิดชอบแล้ว เพราะชีวิตเราก็ทุ่มเทให้มันอย่างเดียวไง ถามว่าสิ่งที่ยึดมั่นในชีวิตก็คือคิดแต่เรื่องลูก แล้วอีกอย่างคือลุงไม่ค่อยเครียดกับเรื่องอะไรเลยนะ เหนื่อยยังไงเห็นหน้าลูกลุงก็หายเหนื่อยแล้ว นี่ไม่ได้พูดเล่นนะ พูดจริง ๆ นะเราเหนื่อยยังไงเราเห็นหน้าลูกเราก็หายเหนื่อยแล้ว”
หากใครสนใจหรือยังกังขาเรื่องราคา “10 บาท” ว่าขายได้กำไรจริงหรือ? สามารถไปดูและขอทราบรายละเอียดเรื่องวิธีการทำน้ำปั่นขายกับคุณลุงได้ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่ายินดีหากมีคนสนใจก็จะบอกให้ฟังทั้งหมด ร้านลุงน้ำปั่นเปิดขายตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป หยุดทุกวันอาทิตย์ สอบถามเพิ่มเติมติดต่อไปได้ที่ โทร.094-787-5149
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *