ชื่อของ “อรชร เชิญยิ้ม” ดารานักแสดงตลก ที่วันนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก กับบทบาทกะเทย ที่เห็นผ่านหน้าจอทีวี และภาพยนตร์ หลายต่อหลายเรื่อง แต่หลังจากสถานการณ์โควิด ทำให้เราไม่ได้เห็นเค้ามาระยะหนึ่ง ก่อนมาโลดแล่น บนหน้าจอทีวี กันอีกครั้ง ในหลายๆ รายการ และอีกหนึ่งบทบาทที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ นั่นคือ การรับรำหน้านาค อาชีพใหม่ที่ “อรชร เชิญยิ้ม และเพื่อนๆ” ร่วมกันทำ ที่วันนี้ มีคิวจองตัวยาวเต็มไปจนถึง ปี 2566
"อรชร เชิญยิ้ม" ดาราตลกชื่อดัง สร้างชื่อ.. บทคนใช้เป็นกะเทย
สำหรับ “อรชร เชิญยิ้ม” ชื่อที่ “น้ากลัวยเชิญยิ้ม” ตั้งให้หลังจากเข้าวงการ โดยบทบาทที่เห็นจนคุ้นตา นั่น คือ บทกะเทย ที่สร้างชื่อให้ “อรชร เชิญยิ้ม” จนเป็นที่รู้จักโด่งดัง ซึ่งการเข้าวงการครั้งแรก เกิดจากการชักชวนของดาราตลกอาวุโส อย่าง น้านงค์ และน้ากล้วย เชิญยิ้ม ทำให้ "อรชร" ได้ใช้นามสกุล เชิญยิ้มกับเค้าด้วย “อรชร เชิญยิ้ม” มีชื่อจริงว่า นายสุพัฒน์ ศรีนวล เป็นคนอำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ก่อนจะมาเป็นดาราตลกที่มีชื่อเสียงเหมือนอย่างทุกวันนี้ ก่อนหน้าเคยเป็นนักแสดงลิเกมาก่อน และหลังจากนั้นได้รับการชักชวนมาเข้าวงการ จนถึงทุกวันนี้
“อรชร เชิญยิ้ม” เป็นดาราตลกที่แม้จะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักคนทั้งประเทศ แต่ด้วยความที่เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน และไม่เลือกงานใครจ้างอะไรเค้าก็จะทำหมด ไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นคนดังและจะทำไม่ได้ ส่วนหนึ่งมาจากครอบครัวที่อรชรต้องดูแล ทำให้ไม่สามารถที่จะปฏิเสธหรือ เลือกงานได้ ซึ่งก่อนหน้าจะเจอกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ก็มีงานแสดงภาพยนตร์ แสดงละคร หรือ ออกรายการเกมส์โชว์ ฯลฯ แต่พอเจอสถานการณ์โควิด งานทุกอย่างที่เคยทำหายหมด แต่ค่าใช้จ่ายของครอบครัวที่ตัวเองเป็นเสาหลักอยู่ ก็ต้องดำเนินต่อไป
สถานการณ์โควิด ผันตัวมาเป็นพ่อค้าขายหนังไก่อบกรอบ
“อรชร เชิญยิ้ม” เล่าว่า พอเจอสถานการณ์โควิด-19 ตอนนั้นไม่มีงานและเลือกที่จะเดินทางกลับไปอยู่กับครอบครัวที่บ้าน เพราะยังมีแม่ที่ต้องดูแล อายุเยอะแล้ว ไม่อยากให้เหมือนเมื่อครั้ง ที่พ่อต้องเสียชีวิตไป โดยที่ตัวเองก็ไม่ได้มีโอกาสได้ไปดูแลเพราะห่วงแต่การทำงานที่กรุงเทพฯ ครั้งนี้ ก็เลือกกลับไปอยู่บ้าน แม่ก็เห็นว่าเรากลับมาไม่มีงานทำ แม่ก็เป็นห่วงและก็กลัวเราจะเครียดไม่มีรายได้ และเราเองก็ไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจก็เลยหาอะไรทำเล็กๆ น้อยๆ ทำไปก่อน เริ่มจาก ไปชวนลูกๆ หลาน มาช่วยกันขายหนังไก่อบกรอบ โดยไปรับมาจากน้องคนรู้จักมาไลฟ์สดขาย ยี่ห้อ ชอนนี่เบียร์ ขายดีอยู่นะ ทุกครั้ง ที่มีการไลฟ์สดขายก็มีแฟนคลับ คนรู้จักเค้าเห็นเราขายก็มาช่วยอุดหนุน วันหนึ่งขายได้เป็น 100 ห่อๆ ละ 35 บาท มีให้เลือก 2 รส รสต้มยำ รสวิงแซ่บ
ส่วนที่มาการมาทำหนังไก่อบกรอบ เริ่มมาจากน้องคนหนึ่ง ชื่อ “เบียร์” เขาทำหนังไก่อบกรอบขาย เอามาให้ชิมเห็นว่าอร่อยดี และเค้าก็ตกงานเหมือนกับเราช่วยอุดหนุน และก็ช่วยขาย ได้กำไรห่อละ 5 บาท เงินที่ได้มาก็มาเป็นค่าใช้จ่ายในระหว่างรองาน ช่วงโควิดอยู่กับบ้าน ไม่ต้องควักเงินเก็บมาใช้ เพราะเงินเก็บก็เริ่มใช้ไปเยอะแล้วเหมือนกัน มีรายการทีวีต่างๆ เห็นเราไลฟ์สดขายหนังไก่อบกรอบ ก็มีโทรมาสัมภาษณ์ ยิ่งทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น พอโควิดคลี่คลายมีงานแสดงกลับมาบ้าง เวลาไลฟ์สดขายก็น้อยลงไป แต่ก็ยังขายได้ มีเวลาว่างจากงานก็ไลฟ์สดขาย ซึ่งเริ่มอยู่ตัวคนเริ่มรู้จักมากขึ้น ก็ให้น้องๆ หลานๆ ช่วยกันแพค รายได้แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านได้บ้าง ไม่เยอะ วันหนึ่ง 400-500 บาท
“อรชร” บทบาทใหม่ รับจ้างรำหน้านาค คนจองยาวถึงปีหน้า
“อรชร ” บอกว่า ที่ผ่านมาประสบการณ์จากโควิดที่ทำให้ไม่มีงานทำเมื่อสถานการณ์โควิดเริ่มดีขึ้น ได้ออกมาทำงาน ก็ทำให้ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต วันนี้ มีงานอะไร “ชร” ก็รับหมดและด้วยความที่รับหมด วันหนึ่งก็มีเพื่อนชวนไปร่วมงานบุญทอดกฐิน ตนเองและเพื่อนก็เลยจัดชุดใหญ่ แต่งตัวไปเต็มที ไปช่วยรำร่วมงานแห่กองกฐิน ใครเห็นเค้าก็ชอบ เพราะเราก็สนุกกันเต็มที และจากการทำบุญร่วมเต้นรำแห่กองกฐิน ในครั้งนั้น ก็มีคนมาจ้างให้ไปร่วมรำแห่นาคในงานบวช เราก็รับทันที เพราะเชื่อว่าการรำแห่หน้านาคในงานบวชได้บุญใหญ่ ตามความเชื่อของชาวพุทธ ว่าจะได้เป็นนางฟ้า นางสวรรค์
ตั้งแต่นั้นมา ก็ได้รับงานรำหน้านาค ในงานบวชมาเรื่อย มีทีมด้วยกัน 7 คน ซึ่งก็ต้องแล้วแต่เจ้าภาพด้วยว่าจะมีงบจ้างเท่าไหร่ บางงานก็ต้องการแค่ 3 คน บ้าง 4 คนบ้าง บางงานก็งบเยอะหน่อยก็มาเลย 7 คน พวกเราก็แต่งตัวไปเต็มที สนุกสนานกันเต็มที เจ้าภาพก็ชื่นชอบ และบอกๆ กันต่อๆ มา จนถึงวันนี้ ก็ไปร่วมงานบวชมาแล้วหลายจังหวัด เกือบทั่วประเทศ และมีการจองคิวกันเข้ามาเต็มไปจนถึง ปี 2566 ส่วนราคาทาง “อรชร เชิญยิ้ม” บอกว่า ไม่แพง ค่าตัวทีมงานคนละ 3000 บาท ส่วน “ชร” ก็ได้เยอะหน่อย ประมาณ 5,000 บาท ส่วนค่าเดินทางเจ้าภาพก็เป็นคนจ่าย เป็นอาชีพใหม่ ที่มีงานเข้ามาเรื่อย โดยเฉพาะช่วงก่อนเข้าพรรษา ก็จะมีงานบวชเยอะ ก็จะมีงานเข้ามาเยอะในช่วงนั้น
รับหมดไม่เลือกงานไม่ยากจน
แม้แต่ชวนไปกินหมูกระทะก็รับ
“อรชร เชิญยิ้ม” บอกว่า ไม่ได้รับแค่งานรำร่วมขบวนแห่นาคในงานบวชเท่านั้น งานอื่นๆ “ชร” ก็รับหมด เช่น บางคนไม่มีเพื่อนไปกินหมูกระทะ ก็โทรมาจ้างเราไปกินหมูกระทะเป็นเพื่อนก็ไป เพราะยึดคอนเซ็ปต์ที่ว่า ไม่เลือกงานไม่ยากจน ถ้าชร มีเวลา งานอะไรก็รับหมดเพราะงานในวงการไม่แน่ ไม่นอน และเราก็ยังต้องเป็นที่พึ่ง และเป็นเสาหลักของครอบครัว ในการหาเงิน และถ้าวันหนึ่งเราทำงานไม่ได้ คนอื่นๆ ในครอบครัวก็จะลำบากไปกับเราด้วย พอทำไหวก็รีบทำเก็บเงินเอาไว้ก่อน
อรชร เชิญยิ้ม ดารานักแสดงตลก ที่เป็นตัวอย่างของ นักแสดงรุ่นใหม่ที่ไม่เลือกงาน ไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นคนที่มีชื่อเสียงและจะมาทำงานอะไรไม่ได้ ขอให้เป็นงานที่สุจริต ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ได้ไปโกงหรือหลอกลวงใคร เค้าก็พร้อมที่จะทำ ด้วยความที่ไม่ถือตัว ทำให้มีแฟนคลับ และชื่นชอบเค้ามากมาย วัดได้จากวันที่ไลฟ์สดขายหนังไก่อบกรอบ ก็มีคนมาช่วยอุดหนุนกันเป็นจำนวนมาก จนถึงทุกวันนี้ หรือ แม้แต่อาชีพใหม่ อย่าง รับรำจ้างหน้านาค มีคนสนใจมาใช้บริการและว่าจ้างกันเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งมาจากดาราตลก อรชร เชิญยิ้ม คนนี้ไม่ว่าจะไปทำอะไรตรงไหนก็จะตั้งใจ และทำมันเต็มทีทุกงาน เพราะหวังว่าในวันข้างหน้าจะมีงานเข้ามาอีกเรื่อย และสุดท้าย “ถ้าไม่เลือกงานก็ไม่มีคำว่ายากจนอย่างแน่นอน”
ติดต่อ โทร.08-9008-5975
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ”รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager