xs
xsm
sm
md
lg

แม่นิชขนมไทย จ. สุราษฎร์ธานี ต้นตำรับจ้าวแรก “อาลัวทุเรียนไข่ระเบิด”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อาลัวเป็นขนมไทย ที่ถูกนำมาปรับโฉมให้ออกมาสามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้มากที่สุดก็น่าจะไม่ผิด เพราะที่ผ่านมาเราได้เห็นอาลัวหน้าตาแปลก ไม่ว่าจะเป็นอาลัว รูปตัวการ์ตูนเอาใจเด็กๆ อาลัวรูปดอกไม้เอาใจวัยรุ่นมอบให้คนรักในวันวาเลนไทน์ เป็นต้น แต่สำหรับวันนี้ เอาใจสายทุเรียน กับอาลัวทุเรียน แต่ถ้าจะทำอาลัวทุเรียนจะดูธรรมดาไป เพราะแม่ค้าขนมหวาน ขนมไทยแม่นิช จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี รายนี้ นำของดีขึ้นชื่อของสุราษฎร์ฯ อย่างไข่เค็มไชยา มาใส่ลงไปในอาลัว ออกมาเป็น อาลัวทุเรียนไข่ระเบิด


จากครอบครัวทำขนมไทยต่อยอด
ที่มาของขนมไทยแม่นิชตอบโจทย์โลกโซเชียลฯ


นางสาวกนกกร สุวรรณ เจ้าของแม่นิชขนมไทย สุราษฎร์ธานี เล่าว่า ครอบครัวของตนเองทำขนมไทยมาตั้งแต่รุ่นคุณทวด ตกทอดมาถึง รุ่นยาย และรุ่นแม่ ซึ่งตนเองหลังจากเรียนจบก็ได้ไปทำงานประจำอยู่ระยะหนึ่ง ก่อน ตัดสินใจกลับมาสานต่อกิจการที่บ้าน ทำธุรกิจน้ำยางพารา ส่วนการทำขนมไทย เกิดจากความชอบ ส่วนตัวจุดประกายมาจากครอบครัวทำขนมไทยมาตั้งแต่รุ่นทวด ซึ่งการธุรกิจน้ำยางพารา มีปัญหาราคายางขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่นอน เริ่มกลับมาคิดว่าแล้วเราจะทำอะไรที่แน่นอน ซึ่งอาหาร และขนมหวาน เป็นอะไรที่แน่นอน ยังไงคนก็ต้องกิน และถ้าเราทำอะไรที่สวยๆ งามๆ คนชอบเลือกซื้ออะไรที่สวยๆ งาม ก็เลยได้ออกมาเป็นขนมไทยแม่นิช สุราษฎร์ธานี ที่มีจุดเด่นต้อง ขนมหวานหน้าตาดี รสชาติดีอร่อย

โดยนำเทคนิคการทำขนมไทยสูตรดั้งเดิมของครอบครัว มาปรับใช้ผสมผสานกับความเป็นคนรุ่นใหม่ของ “คุณนิช” ที่สนใจโซเชียลฯ ทำให้หน้าตาขนมไทยแม่นิชแตกต่างไปจากในอดีต เพื่อให้ตอบโจทย์ในโลกโซเชียลฯ โดยที่คุณนิชจะพยายามที่จะหยิบของดีของเด่นของสุราษฎร์ฯ มาใช้ให้ได้มากที่สุด อย่างเช่น ทุเรียนท้องถิ่น ซึ่งคุณนิช มองว่า ทุเรียนน่าจะมาทำอะไรที่มากกว่าการทำข้าวเหนียวทุเรียน โดยต้องนำมาประยุกต์กับไข่เค็มไชยาของดีอีกตัวของสุราษฎร์ สุดท้าย ได้ออกมาเป็นอาลัวทุเรียนไข่ระเบิดเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย


ทั้งนี้ รสชาติที่ลงตัวเพราะความหวานของทุเรียนตัดความมันของไข่เค็ม บวกกับหน้าตาของอาลัวทุเรียนที่ทำออกมาเหมือนกับทุเรียน สร้างความฮือฮา มากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทำให้หลังจากปีแรกที่คุณนิช เปิดตัวอาลัวทุเรียนไข่ระเบิด มีคนทำเลียนแบบเยอะมาก จนเธอต้องทำเรื่องเพื่อจดสิทธิบัตรและได้ลิขสิทธิ์สิทธิบัตรมาเป็นที่เรียบร้อยแม้ว่าเธอจะต้องใช้เวลานานถึง 2 ปี

“การทำอาลัวทุเรียนไข่ระเบิด และขนมไทย "นิช" ได้ ใส่ความเป็นตัวตนพรีเซนออกมาในหน้าตาขนมที่ทำออกมา โดยส่วนตัวเป็นคนชอบทำอะไรสวยๆ งามๆ อยู่แล้ว ประสบความสำเร็จ เพราะหลายคนที่ซื้อบอกว่า อยากสั่ง อยากซื้อ ไม่ได้อยากทาน เพราะชอบหน้าตาของขนมก่อนที่เค้าจะได้ชิมรสชาติ เสียอีก”


ทุเรียนหน้าบ้านคุณยาย 
สู่ขนมไทยสไตล์ฟิวชั่นเปิดรับนักท่องเที่ยวจีน

ส่วนที่มาของอาลัวทุเรียน ไข่ระเบิด ของแม่นิชขนมไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีที่มา จากต้น ทุเรียนหน้าบ้านของคุณยายที่อายุเก่าแก่กว่า 90ปี คุณยายอายุมาก กวนทุเรียนไม่ไหว นิช จึงมีแนวคิด เอาเนื้อทุเรียนต้นหน้าบ้าน มาทำขนม ต่อยอดมาเป็น “อาลัวทุเรียนไข่ระเบิด” ขนมไทยฟิวชั่นไม่เหมือนใคร หลังจากเปิดขายเมื่อ 4 ปีก่อนหน้าจะมีสถานการณ์โควิดได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวชาวจีน เป็นอย่างดี แต่โชคไม่ดีเจอสถานการณ์โควิดทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวหาย ทุกอย่างต้องหยุดชะงักไป แต่ทำให้เราได้มาพัฒนาหลังบ้านให้พร้อม ซึ่งเป็นที่มาของการทำโรงงานผลิตที่ได้ มาตรฐาน อย.และฮาลาล และหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย เตรียมพร้อมลุยเต็มที

กนกกร เล่าว่า ทำไมถึงเลือกทำตลาดทัวร์นักท่องเที่ยวจีน เพราะเป็นตลาดที่แน่นอนมากกว่า ลูกค้าตลาดในประเทศ ที่ผ่านมาต้องพึ่งพาช่องทางออนไลน์ ซึ่งทุกคนก็หันมาใช้ออนไลน์ วันนี้ ถ้าเราไม่มีงบโฆษณาไม่สามารถขายสินค้าได้เลย และค่าโฆษณาก็เพิ่มขึ้นตลอด เหมือนกับการนำสินค้าไปวางขายบนห้างดัง พื้นที่มีจำกัดค่าเช่าก็แพง แต่ถ้าการเราเลือกขายนักท่องเที่ยวและดิวกับบริษัททัวร์ เป็นรายได้ที่แน่นอนกว่า ซึ่งเราโชคดีที่อยู่ในพื้นที่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวโอกาสมีมากกว่าคนอื่นๆ ยึดช่องทางนี้ สร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว และส่งต่อไปยังลูกหลาน


นส่วนของการผลิต หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับ บริษัททัวร์ทั้งในสมุย และกำลังจะไปดิวกับตัวแทนขายของฝากของที่ระลึกอีกในจังหวัดภูเก็ต ส่วนตลาดในประเทศเนื่องจากเดิมขายเฉพาะในพื้นที่เพราะเป็นขนมไทย ขนมสด การส่งไปขายนอกพื้นที่จะมีปัญหาเรื่องการจัดส่ง ก็เลยจะเน้นการขายส่งให้กับร้านที่นำไปขายต่อ เป็นต้น หลังโควิดคลี่คลายเตรียมลุยเต็มที เพราะช่วงการปรับปรุงกิจการใช้เงินลงทุนไปกว่า 10 ล้านบาท ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องได้ทุนคืนภายใน 1-2 ปีนี้ ปัจจุบันมียอดการทำอาลัวทุเรียนไข่ระเบิด 300 ชิ้นต่อวัน



จากขนมทำในครัวที่บ้าน มาเป็นขนมไทยที่ทำในโรงงาน


สำหรับอาลัวทุเรียนไข่ระเบิด เป็นขนมไทยประยุกต์ที่ใช้ส่วนผสมหลัก คือ ทุเรียนหมอนทองแท้ๆ เกรดส่งออกไม่แต่งกลิ่น ใช้กะทิสดเป็นหัวกะทิเพราะสุราษฎร์เป็นพื้นที่ปลูกมะพร้าวมากเป็นอันดับต้นๆ และในส่วนการทำขนมไทยให้รสชาติดี เราต้องมีน้ำตาลที่ดี เลือกใช้น้ำตาลมะพร้าวของดีจากอัมพวา ส่วนวัตถดิบไข่เค็มได้ดิวกับตัวแทนจำหน่าย ทุกอย่างผ่านการวางแผนหลังจากมีแผนจะทำโรงงาน เพราะจากเดิมทำกันแค่ในครอบครัว  แต่พอมาทำโรงงานต้องวางแผนเรื่องวัตถุดิบ ตั้งแต่ทุเรียนดิวกับล้งที่สามารถส่งทุเรียนให้เราได้ตลอดทั้งปี เป็นต้น และที่เลือกทำอาลัวสด เพราะเป็นขนมไทยที่เด็กก็กิน ผู้ใหญ่สูงอายุก็กิน เป็นขนมไทยที่กินกันได้ทุกเพศทุกวัย ลูกค้ากว้างมาก และอาลัวสด ถ้าทำดีจะเก็บได้นาน โดยไม่ได้ใส่สารกันบูด สามารถเก็บในตู้เย็นได้เป็นสัปดาห์ และการแช่เย็นทำให้ได้อาลัวที่รสชาติที่หลายคนชื่นชอบ บอกว่าอร่อยกว่าไม่แช่ และอาลัวทุเรียนเป็นการใช้ทุเรียนสด ไม่ได้มีการปรุงแต่งกลิ่น เอาใจคนชอบทุเรียน ไม่ได้ขายเฉพาะคนไทย แต่ขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย


ทั้งนี้ ขนมไทยแม่นิช ใช้แรงงานคนจากชุมชน ใช้วัตถุดิบเนื้อทุเรียน ไข่เค็ม จากชาวสวน ชาวบ้านในชุมชน ร่วมสร้างรายได้ สร้างเงินหมุนเวียนให้กับชุมชน และความฝันของ “กนกกร” ต้องการที่จะให้ “แม่นิช ขนมไทย” เป็นของดีประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเมื่อนักท่องเที่ยวมาเที่ยวสุราษฎร์ ให้นึกถึงอาลัวทุเรียนไข่ระเบิด หรือ ถ้านึกถึงอาลัวทุเรียน อยากให้นึกถึง แม่นิชชนมไทย เพราะได้รวมเอาของดี ของเด่นของสุราษฎร์ มารวมไว้ในเมนูขนมไทยที่เราเกือบทุกอย่าง เพราะรอบบ้านของเรามีของดีมากมาย

Facebook: อาลัวทุเรียนไข่ระเบิด
โทร.08-4844-4868 . 08-6687-4619


คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด




กำลังโหลดความคิดเห็น