xs
xsm
sm
md
lg

กขค.เปิดสถิติ 4 ปีเรื่องร้องเรียนแข่งขันไม่เป็นธรรมเพิ่มสูง พร้อมลุยตรวจสอบ “ลงโทษ” สถานหนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์
คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า หรือ กขค. สรุปเรื่องร้องเรียน 4 ปี หลังทำหน้าที่กำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าให้เกิดความเป็นธรรมทางการค้า จนถึงปัจจุบันมีเรื่องร้องเรียนรวมทั้งสิ้น 97 เรื่อง จำแนกตามประเภทธุรกิจได้ทั้งหมด 19 ธุรกิจ เป็นธุรกิจประเภทพาณิชย์มีการร้องเรียนสูงสุดถึง 38 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจค้าปลีก แฟรนไชส์ และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และเมื่อจำแนกตามพฤติกรรมที่กระทำความผิดแบ่งเป็นการใช้อำนาจเหนือตลาดโดยมิชอบ 13 เรื่อง การตกลงร่วมกันทางธุรกิจ 6 เรื่อง การปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม 66 เรื่อง และไม่เข้าข่ายพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 รวม 12 เรื่อง

อย่างไรก็ตาม กขค.ยังได้จัดทำแนวปฏิบัติการค้าที่ไม่เป็นธรรม หรือไกด์ไลน์ เพื่อสร้างความชัดเจนและให้มีมาตรฐานทางการค้าที่เป็นธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจจำนวน 4 ฉบับ โดยมุ่งเน้นให้มีการบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้าเกิดประสิทธิภาพ เพื่อให้ธุรกิจไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ สามารถแข่งขันกันได้อย่างเสรีและเป็นธรรม


นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการการแข่งขันทางการค้า และโฆษกคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า กล่าวถึงเรื่องร้องเรียนตั้งแต่พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2560 จนถึงปัจจุบัน (กันยายน 2564) มีเรื่องร้องเรียนรวมทั้งสิ้น 97 เรื่อง แบ่งเป็นปี 2560 จำนวน 2 เรื่อง ปี 2561 จำนวน 11 เรื่อง ปี 2562 จำนวน 20 เรื่อง ปี 2563 จำนวน 30 เรื่อง และปี 2564 จำนวน 36 เรื่อง ใน 19 ประเภทธุรกิจ โดยธุรกิจประเภทพาณิชย์มีการร้องเรียนสูงสุดถึง 38 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจค้าปลีก แฟรนไชส์ และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ หากจำแนกตามพฤติกรรมที่กระทำความผิด แบ่งเป็นการใช้อำนาจเหนือตลาดโดยมิชอบ มาตรา 50 จำนวน 13 เรื่อง การตกลงร่วมกันทางธุรกิจ มาตรา 54 จำนวน 6 เรื่อง การปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม มาตรา 57 จำนวน 66 เรื่อง และไม่เข้าข่ายพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 จำนวน 12 เรื่อง

โดยมีคดีสำคัญที่ กขค.พิจารณาว่ามีความผิดตามมาตรา 57 และดำเนินการลงโทษปรับทางปกครอง จำนวน 6 เรื่อง ได้แก่ กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการขนถ่ายสินค้าผ่านแดน กรณีกีดกันทางการค้าในธุรกิจผลผลิตการเกษตร กรณีการปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมแสดงและจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์อย่างไม่เป็นธรรม กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเป็นตันแทนจำหน่ายเครื่องมือและเครื่องจักรกลการเกษตร กรณีโรงคัดบรรจุผลไม้ปฏิบัติทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรม กรณีผู้ให้บริการขนส่งพัสดุปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งโทษสูงสุดตามกฎหมายกำหนดไว้ต้องชำระค่าปรับในอัตราร้อยละ 10 ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด


นายสันติชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า กขค.ยังได้จัดทำแนวปฏิบัติการค้าที่ไม่เป็นธรรม หรือเรียกสั้นๆ ว่าไกด์ไลน์ เพื่อสร้างความชัดเจนและให้มีมาตรฐานทางการค้าที่เป็นธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจ โดยที่ผ่านมาได้จัดทำไกด์ไลน์ซี่งมีผลบังคับใช้แล้วจำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ ไกด์ไลน์ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ไกด์ไลน์ธุรกิจแฟรนไชส์ ไกด์ไลน์ธุรกิจการรับซื้อผลไม้ ไกด์ไลน์ฟูดดีลิเวอรี และมีอีก 1 ไกด์ไลน์ คือไกด์ไลน์การให้สินเชื่อการค้า (Credit Term) สำหรับ SMEs ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ธันวาคม 2564 และในระหว่างนี้ให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม เพื่อปรับแนวทางการประกอบธุรกิจให้ถูกต้องตามที่ไกด์ไลน์กำหนด

กขค. มีความมุ่งมั่นและมุ่งเน้นให้การบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้าเกิดประสิทธิภาพ เพื่อให้ธุรกิจไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ สามารถแข่งขันกันได้อย่างเสรีและเป็นธรรมโดยสร้างมาตรฐานทางการค้าให้เป็นสากลโดยไม่เลือกปฏิบัติ ท้ายที่สุดผลประโยชน์ก็จะตกอยู่กับประชาชนทั่วไปที่จะได้บริโภคสินค้าและบริการที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสมต่อไป และหากผู้ประกอบธุรกิจรายใดได้รับการเอารัดเอาเปรียบการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม การกระทำอันเป็นการผูกขาด หรือลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในการประกอบธุรกิจสามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สขค.)

ทร. 0-2199-5444 หรือทางเว็บไซต์ www.otcc.or.th


กำลังโหลดความคิดเห็น