“Diffuser” หรือที่หลายๆ คนรู้จักในชื่อก้านไม้น้ำหอมปรับอากาศ เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 และสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่ทำให้เกิดความรู้สึกในแง่ลบมีเพิ่มมากขึ้น ทำให้หลายๆ คน ได้มาให้ความสนใจในการใช้กลิ่นหอมบำบัด เพื่อสร้างบรรยากาศรอบรอบให้ดีขึ้นและช่วยปรับอารมณ์ให้ผ่อนคลาย แบรนด์ “LANNA” เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้สร้างสรรค์กลิ่นน้ำหอมน่าหลงใหล ผสานกับชื่อที่เก๋ไก๋ ในราคาที่จับต้องได้ง่าย จนทำให้ลูกค้าให้ความสนใจ มียอดขายเติบโตสวนกระแส แม้ในยามเศรษฐกิจเงียบเหงา
นางสาวศิริวรรณ สีหาวงษ์ กรรมการผู้จัดการ บจก. โปรเจ็คท์ ดี “แบรนด์ LANNA” เล่าถึงความเป็นมาของผลิตภัณฑ์ ว่า ผลิตภัณฑ์น้ำหอมปรับอากาศ เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้ต่อยอดมาจากสินค้าสกินแคร์ ของทางบริษัท โดยมีจุดเริ่มต้นจากการมืองเห็นโอกาสที่ได้มองว่า ผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำหอมมีแนวโน้มการเติบโตและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้มากกว่า และทางแบรนด์มีพื้นฐานเดิมในเรื่องการผลิตสกินแคร์ จึงได้นำความรู้ในจุดนั้นมาต่อยอดในจุดนี้ ทำให้ผลิตภัณฑ์น้ำหอมของทางแบรนด์ใช้ต้นทุนน้อย ทำให้สามารถขายได้ในราคาที่ไม่สูง ลูกค้าจึงเข้าถึงและจับต้องได้ง่าย
ผลิตภัณฑ์น้ำหอมของทางแบรนด์นั้น ให้ความสำคัญในวัตถุดิบที่นำมาเป็นส่วนผสม และเรื่องกลิ่นมากๆ โดยในเรื่องของวัตถุดิบนั้นได้นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเกรดน้ำหอมที่สามารถสูดดมได้ ใช้กับร่างกายได้ ลูกค้าไม่ต้องกังวลเรื่องอาการแพ้ต่างๆ และเรื่องกลิ่นต่างๆ นั้น ทางแบรนด์ก็ได้มีการพัฒนากลิ่นให้มีความหลากหลาย พร้อมกับมีการตั้งชื่อให้ฟังดูเก๋ไก๋และแตกต่าง เช่น การนำชื่อจังหวัดของประเทศไทยมาตั้งเป็นชื่อกลิ่น ได้แก่ ภูเก็ตโอโซน - สมุยโอเชี่ยน - กระบี่มาลีน - เชียงใหม่ กรีนวัลเลย์ ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีส่วนผสมและกลิ่นที่จะสื่อถึงจังหวัดนั้นๆ น้ำหอมชนิดนี้ส่วนมากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะนิยมซื้อ เพราะได้นึกถึงจังหวัดที่ได้แวะไปท่องเที่ยว
“ลูกค้าหลายๆ คนเข้ามีความใจว่า น้ำหอมจะมาจากกลิ่นเพียงกลิ่นเดียว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ทางแบรนด์ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากๆ เพราะแต่ละกลิ่นจะมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน เพื่อที่จะได้กลิ่น “Top Notes” กลิ่นแรกที่ได้กลิ่นเมื่อสูดดม “Middle Notes” เป็นกลิ่นที่ตามมาหลัง 15 – 20 นาที กลิ่น “Base Notes” กลิ่นสุดท้ายจากน้ำหอม แต่ละกลิ่นจะมาจากส่วนผสมคนละชนิด และทุกๆ ชนิดจะมารวมกันเป็นน้ำหอมหนึ่งกลิ่นในหนึ่งชื่อ ซึ่งจุดนี้เป็นความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์เด่นของทางแบรนด์ LANNA” คุณศิริวรรณ กล่าวอธิบาย
ในเรื่องการตลาดของทางแบรนด์ LANNA นั้น เราได้พัฒนาผลิตภัณฑ์มห้มีขนาดที่หลากหลาย เพื่อกระจายฐานลูกค้าให้มากขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ขนาด 30 ml ราคา 150 บาท ก็จะเหมาะกับลูกค้าวัยรุ่นที่ยังมีรายได้น้อย หรือลูกค้าที่ไม่ชอบความจำเจชอบเลี่ยนลองกลิ่นบ่อยๆ ก็สามารถซื้อไปลองใช้และเปลี่ยนได้แบบสบายกระเป๋า และยังมีการดีไซน์ตกแต่งขวดน้ำหอมให้ดูแตกต่างกัน เพื่อให้สามารถนำไปวางให้เหมาะกับสถานที่ต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น
“และในช่วงนี้ที่มีการระบาดของโรคโควิด ทำให้ผู้คนเกิดความเครียดและความกังวล และหลายๆ คนก็ต้องทำงานอยู่บ้าน การมองหาน้ำหอมปรับอากาศ มาใช้เพื่อใช้สร้างบรรยากาศผ่อนคลายภายในบ้านก็มีมากขึ้น ทำให้น้ำหอมของทางแบรนด์ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงนี้ เพราะสามารถตอบโจทย์ได้ดีในเรื่องช่วยในความผ่อนคลายด้วยกลิ่น และกลิ่นที่เราชอบทำให้ความรู้สึกดีขึ้น เมื่อสุขภาพจิตดี สุขภาพใจและกายก็ดีขึ้นไปด้วย ทำให้ยอดขายของทางร้านสวนกระแสกับบรรยากาศค้าขายที่เงียบเหงาในช่วงนี้” คุณศิริวรรณ กล่าวเสริม
นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังให้ความสนใจในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง และทางแบรนด์ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ช่วยในเรื่องความผ่อนคลาย เช่น ยาหม่อง น้ำมันนวด ที่มีส่วนผสมในเรื่องกลิ่นเข้ามาด้วย ทำให้การนวดแต่ละครั้งนอกจจากจะช่วยอาการเมื่อล้าแล้ว ก็ยังมีกลิ่นช่วยบำบัดให้รู้สึกผ่อนคลายไปในตัว ความใส่ใจในเรื่องกลิ่นนี้ ทำให้ แบรนด์ LANNA มีความแตกต่างและมีจุดเด่นในการดึงดูดลูกค้า สามรถตอบโจทย์วิถีชีวิตแบบ New normal ช่วยลดกังวลได้ดี เหมาะกับยุคสมัยที่สภาพแวดล้อมมีแต่ความเครียดและความกังวล
สนใจติดต่อ
โทร.099 – 415 4456