xs
xsm
sm
md
lg

“บูโช่ - ไก่เชียงพริกกะเหรี่ยง” สร้างความต่างด้วยรสเผ็ด ดึงดูดลูกค้าที่ชอบความแปลกใหม่ ส่งขายไกลถึง สปป.ลาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“กวนเชียง” เป็นอีกหนึ่งอาหารที่มีมาอย่างเนิ่นนาน และเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน ในปัจจุบันอาหารชนิดนี้ได้มีการพัฒนาสูตรต่างๆ ให้มีรสชาติแปลกใหม่ให้โดดเก่นกว่ารสชาติดั่งเดิม เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่ไม่เบื่อรสชาติที่จำเจ เหมือนอย่างเช่น แบรนด์ “บูโช่ - ไก่เชียงพริกกะเหรี่ยง” ที่ได้มีการนำพริกกะเหรี่ยงมาเป็นส่วนผสม เพิ่มรสชาติแปลกใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ สร้างความแตกต่างในท้องตลาด ดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี


นายธนบดี ณ สุรินทร์ เจ้าของแบรนด์บูโช่ ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า ผลิตภัณฑ์ “ไก่เชียงพริกกะเหรี่ยง” นี้เกิดขึ้นจากตนเองนับถือศาสนาอิสลาม จึงต้องงดอาหารที่ทำจากเนื้อหมู จึงทำให้หากวนเชียงที่ทำจากเนื้อชนิดอื่นนั้นหากินยาก และกวนเชียงที่มีขายตามท้องตลาดก็ไม่ถูกปาก จึงเป็นแรงบันดาลให้ได้ทำไก่เชียงพริกกะเหรี่ยงขึ้นมา เพื่อให้ได้เป็นตัวเลือกของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามที่ต้องการกินกวนเชียง โดยชื่อ “ไก่เชียง” นั้นจะสื่อถึงไก่ เพราะคำว่า “กวน” คล้ายกับคำว่า “กุน” ที่แปลว่าหมู และกวนเชียงแบบดั่งเดิมก็ทำจากหมู ทำให้ลูกค้ามุสลิมที่มาซื้อและนำไปกินได้สบายใจในเรื่องนี้


ในส่วนของ “พริกกะเหรี่ยง” ที่นำมาเป็นส่วนผสม มาจากความคิดที่ว่า ปกติรสชาติดั่งเดิมของกวนเชียงคือรสหวานนำ ถ้าจะผลิตกวนเชียงที่มีรสชาติเดิม ไม่ทำให้แปลกหรือแตกต่างลูกค้าก็อาจจะไม่สนใจ และอาจจะขายยากในท้องตลาด จึงได้นำ “พริกกะเหรี่ยง” พริกขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงราย มาสมกับพริกชนิดอื่นๆ ที่คั่วตามสูตรเฉพาะของทางแบรนด์มาเป็นส่วนผสมเพื่อสร้างรสชาติที่แตกต่าง โดยจะมีรสชาติที่หวานนำเหมือนแบบดั่งเดิม แต่มีรสเผ็ดที่ปลายลิ้นทำให้ไม่กลมกล่อมไม่เลี่ยน ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นขึ้นมาและลูกค้าให้ความสนใจเพราะเป็นความแปลกใหม่ยังไม่มีกวนเชียงรสชาตินี้ในท้องตลาด


“แม้ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ไก่พริกกะเหรี่ยงจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่ แต่ทางแบรนด์บูโซ่ก็ยังใช้ขึ้นตอนการทำแบบดั่งเดิม โดยจะนำไก่เชียงอบรมควันกับ “ถ่านไม้” ในตู้อบที่ได้มาตรฐานจากประเทศเยอรมัน ให้เหมือนกับการอบไส้กรอกของประเทศเยอรมัน ทำให้ไก่เชียงมีกลิ่นหอมถ่านพร้อมกับมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี”  นายธนบดี กล่าวเสริม


สำหรับการขายในช่วงแรกนั้น ได้มีการขายผ่านทางสื่อออนไลน์ โดยมีการนำผลิตภันฑ์ไก่เชียงพริกกะเหรี่ยงไปโพสต์ในเพจหรือกลุ่มต่างๆ ในเฟสบุ๊ค ในราคาแพคละ 159 บาท (ครึ่งกิโลกรัม) พร้อมกับมีบริการจัดสั่งทั่วประเทศ ด้วยชื่อสินค้าและรสชาติที่แปลกใหม่จึงทำให้ลูกค้าให้ความสนใจ และด้วยรสชาติที่ไม่จำเจเหมือนรสดั่งเดิมจึงทำให้ถูกใจลูกค้า และมีการแนะนำต่อๆ กัน นอกจากสื่อออนไลน์แล้วก็ยังมีการนำไปวางขายตามท้องตลาด ทำให้กลุ่มลูกค้าที่มาซื้ออาหารภายในตลาดได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์และเลือกซื้อเลือกชมเข้าถึงได้ง่ายขึ้น อีกทั้งในปัจจุบันยังได้มีการติดต่อจากผู้ค้าประเทศลาว นำผลิตภัณฑ์ไปยัง เมืองเวียงจันทร์ เป็นอีกความสำเร็จของแบรนด์ที่ได้มีการส่งขายไปยังต่างประเทศ


และปัจจุบันทางแบรนด์ก็ยังได้มีการพัฒนาต่อยอดด้วยการทำ “แซลม่อนเชียง” ราคาเเพคละ 219 บาท (ครึ่งกิโลกรัม) โดยเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจากความคิดเห็นของลูกค้า ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีรสเผ็ด จึงได้ต่อยอดเป็นแซลม่อนเชียงขึ้นมา โดยทำจากเนื้อปลาเเซลมอนนำเข้าจากประเทศนอร์เวย์ผสมกับเนื้อไก่ ทำให้มีความมันน้อยเนื้อเเน่นไม่เเฉะ และยังมีคุณค่าทางอาหารจากปลาเเซลม่อน เช่น โอเมก้า 3 วิตามินดี โปรตีน เป็นต้น ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะได้กินอาหารที่มีคุณภาพและได้ดูแลสุขภาพไปในตัว


นอกจากการขายผ่านช่องทางต่างๆ แล้ว ทางแบรนด์ก็ยังมีการทำคอนเทนต์ในเพจ เพื่อแนะนำการนำไก่เชียงพริกกะเหรี่ยงและแซลม่อนเชียง ไปประกอบเป็นเมนูต่างๆ ที่น่ากิน ทำให้ลูกค้าได้มีไอเดียในการทำอาหารแปลกใหม่ เป็นการส่งเสริมการขายและแนะนำผลิตภัณฑ์ไปในตัว "แบรนด์บูโซ่" จึงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจ ในการใช้ “ความแปลกใหม่” เพื่อสร้าง “ความแตกต่าง” ในการดึงดูดลูกค้า จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั่วประเทศ และกำลังเติบโตไปสู่ตลาดต่างประเทศ




สนใจติตต่อ
FB : ไก่เชียงพริกกะเหรี่ยง
โทร. 086 - 391 9630



กำลังโหลดความคิดเห็น