xs
xsm
sm
md
lg

เห็นจนชินตา! “สะพานบุญครูหนึ่ง” รวมพลังพุทธ-คริสต์-อิสลาม ช่วยคนแม่ฮ่องสอนสู้วิกฤตโควิด-เจ็บ-จน-คนอพยพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม่ฮ่องสอน - ซึ้งใจกันทั้งเมือง..“สะพานบุญครูหนึ่ง” รวมพลังคนใจบุญทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม ใน/ต่างประเทศ ช่วยชาวแม่ฮ่องสอนผู้ด้อยโอกาส ป่วยติดเตียง คนอพยพ สู้วิกฤตโควิด-เจ็บ-จน ต่อเนื่องมานานกว่า 3 ปี


ท่ามกลางปัญหาโควิด-19 ที่แพร่ระบาด “แม่ฮ่องสอน” ที่นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีรายได้เฉลี่ยล้าหลัง-ยากจนที่สุดอยู่แล้ว ยังต้องเผชิญกับปัญหาความไม่สงบตามพื้นที่ชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย ทำให้ผู้คนหลายพื้นที่ประสบปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจ-สุขภาพนั้น ได้มีคนกลุ่มเล็กๆ ที่รวมตัวกันในนาม “สะพานบุญครูหนึ่ง” ตระเวนให้ความช่วยเหลือชาวบ้านตามจังหวะ-โอกาส ต่อเนื่องตลอด 3 ปีกว่าที่ผ่านมา

“สะพานบุญครูหนึ่ง” มีนายชาติชาย น้อยสกุล หรือครูหนึ่ง โต๊ะอิหม่ามหรือผู้นำศาสนาอิสลามของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองการศึกษา เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เป็นฟันเฟืองหลักผสานความร่วมมือกับคริสตจักรและวัดต่างๆ ในรูปแบบภาคี 3 ศาสนา คือ พุทธ คริสต์ อิสลาม เพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ผู้ด้อยโอกาส และตอนนี้ยังรวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบตามแนวชายแดนด้วย

จากการเริ่มต้นช่วยเหลือผู้อื่นจากทุนทรัพย์ของตนเอง ปัจจุบันนี้องค์กรในนามสะพานบุญครูหนึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้คนช่วยกันบริจาคทั้งเงิน สิ่งของเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ไม่เพียงแต่ผู้คนในแม่ฮ่องสอนเท่านั้น ในขณะนี้มีผู้ใจบุญร่วมกันบริจาคมาจากทั่วประเทศและมีบางรายอยู่ต่างประเทศ

ภาพที่ชาวแม่ฮ่องสอนเห็นจนชินตาคือ สะพานบุญครูหนึ่ง จะทำหน้าที่รับบริจาค รวบรวมสิ่งของจำพวกข้าวสาร อาหารแห้ง ผ้าอ้อมสำเร็จรูปของเด็กและผู้ใหญ่ เสื้อผ้า ยา ขนม และสิ่งที่จำเป็นในยุคนี้ก็คือหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์เจล วัสดุทางการแพทย์จำพวกชุด PPE เพื่อมอบแก่ทีมแพทย์และพยาบาล รวมไปถึงการก่อสร้างที่พักให้แก่ผู้ที่ไร้บ้าน ผู้พิการ พร้อมไปกับการเข้าไปดูแลอย่างต่อเนื่องในรายที่กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงแบบถาวร


นายชาติชาย น้อยสกุล หรือครูหนึ่ง แกนนำในการก่อตั้งสะพานบุญครูหนึ่ง เปิดเผยว่า เริ่มต้นจากการที่ได้เห็นผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ขาดแคลน โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ป่วยและญาติที่เดินทางเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาล บางรายไม่มีแม้กระทั่งค่ารถโดยสาร ตนในฐานะที่เป็นผู้นำของศาสนาอิสลามจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็เห็นว่าน่าจะต้องทำอะไรสักอย่างให้ผู้ที่ขาดแคลนเหล่านี้ได้รับการช่วยเหลือหรือเยียวยาได้บ้างเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

จากนั้นก็ได้ริเริ่มนำแนวคิดไปหารือกับผู้นำของศาสนาคริสต์และพุทธในพื้นที่ แล้วนำสิ่งของเท่าที่มีและทุนทรัพย์ส่วนตัวออกไปช่วยเหลือ บางรายที่ทราบเรื่องก็อาจจะมาขอรับความช่วยเหลือถึงที่ทำงานก็มีไม่น้อย ต่อมาเริ่มกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นก็จะมีผู้ใจบุญแต่ไม่ค่อยมีเวลาก็ฝากโอนเงินมาร่วมทำบุญหรือส่งสิ่งของเข้ามาสมทบกันมากขึ้นจนถึงปัจจุบันนี้

ส่วนการดำเนินการนั้น ตนก็จะใช้เวลาในช่วงพักเที่ยงหรือช่วงที่เลิกงานออกไปเยี่ยมเยียนและนำข้าวของที่จำเป็นไปมอบให้ตามบ้านเรือนแต่ละรายเท่าที่เวลาจะอำนวย แต่หากเป็นช่วงวันหยุดหรือเสาร์-อาทิตย์ ก็จะมีเวลาออกไปช่วยเหลือในพื้นที่ไกลๆ ได้มากหน่อย ซึ่งหากมีเวลาหรือสามารถเดินทางเข้าไปได้ก็จะไปแทบทุกพื้นที่


แต่แม่ฮ่องสอนเป็นพื้นที่ทุรกันดารและการคมนาคมบางแห่งก็ยังไม่สะดวกมากนัก ก็จะอาศัยฝากสิ่งของไปกับผู้นำหมู่บ้าน ครู เพื่อส่งต่อไปให้ถึงผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนให้ได้เร็วและมากที่สุด เพราะบางรายที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้ที่พิการจากกรณีอุบัติเหตุ ผู้ชรา ที่จะต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องนั้นจะต้องมีการวางแผนหรือห้วงเวลาให้ดี

เพราะจะต้องเตรียมสิ่งของที่จำเป็นไว้ให้เพียงพอ โดยเฉพาะผ้าอ้อมสำเร็จรูป ยา อาหาร ขั้นตอนนี้ก็จะต้องมีทีมงานเข้ามาช่วยดำเนินการอีกแรงหนึ่ง บางรายก็ต้องจัดหารถเข็น เตียงคนไข้หรือประดิษฐ์อุปกรณ์ช่วยในการทำกายภาพบำบัดก็ต้องทำและดูแลกันไป เมื่อสิ่งที่เราทำไปแล้วเห็นผล มีผู้คนหลายรายที่รักษาแล้วมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเราก็ดีใจด้วย

เรื่องปัญหาในการดำเนินการที่ผ่านมานั้น นายชาติชายกล่าวว่า ก็เจอปัญหามาตลอด มีบางคนก็กล่าวหาว่าใช้เวลาราชการไปช่วยเหลือคน หรือต้องการทำผลงานเพื่อจะลงเล่นการเมือง ซึ่งแรกๆ ก็ท้อเหมือนกันแต่ก็ถอยไม่ได้ หากใครสงสัยการทำงานก็สามารถมาตรวจสอบได้เสมอว่าใช้เวลาหรือเบียดบังเวลาของราชการไปหรือไม่

และเรื่องที่โดนโจมตีหนักว่าจะลงเล่นการเมืองนั้น ตนขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิงว่าไม่มีความคิดที่จะลงเล่นการเมืองอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะระดับใดก็ตาม เพราะกลุ่มเป้าหมายที่สะพานบุญครูหนึ่งเข้าไปให้การช่วยเหลือเหล่านี้ก็แทบจะไม่มีผลทางการเมืองเสียด้วยซ้ำไป มีแต่คนจน คนป่วย และคนพิการแทบทั้งสิ้น


นายชาติชายได้ฝากขอบคุณไปยังผู้มีจิตศรัทธาทั้งในและต่างประเทศ ที่ได้ร่วมบริจาคและสนับสนุนให้องค์กรเล็กๆ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มีกำลังที่จะไปให้การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ป่วยที่ยังมีอีกจำนวนมาก รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงผู้หนีภัยการสู้รบที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบที่อพยพเข้ามาหลบภัยในพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนอยู่ในขณะนี้

ซึ่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ได้ทยอยส่งไปให้การช่วยเหลือแล้วหลายระลอก หากผู้ที่บริจาคมาแล้วต้องการตรวจสอบความถูกต้องหรือความโปร่งใสในการดำเนินการทุกอย่างก็สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลาเช่นกัน เพราะก่อนที่จะมาดำเนินการจนกลายเป็นสะพานบุญครูหนึ่งก็ได้ปฏิญาณตนไว้แล้วว่าค่าตอบแทนหรือเงินประจำตำแหน่งนั้นจะขอบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้คนไปจนกว่าตนเองจะเกษียณอายุราชการด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น