เอเจนซีส์ – อเมริกาห่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในอินเดีย และจะเร่งให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่รัฐบาลและบุคลากรทางการแพทย์ของอินเดียที่ล่าสุดในวันอาทิตย์ (25 เม.ย.) พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่เกือบ 3.5 แสนคน โดยทั้งหอการค้าอเมริกาและผู้เชี่ยวชาญต่างเรียกร้องให้วอชิงตันส่งวัคซีนส่วนเกิน เช่น วัคซีนของแอสตราเซเนกาให้อินเดีย รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่กำลังเผชิญวิกฤตไวรัสขั้นสาหัส
เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยกับรอยเตอร์ผ่านทางอีเมลเมื่อวันเสาร์ (24 เม.ย.) ว่า อเมริกากำลังหารือในระดับสูงและวางแผนเพื่อเร่งรัดการให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่รัฐบาลและบุคลากรทางการแพทย์ของอินเดียที่กำลังต่อสู้กับการระบาดรุนแรงระลอกล่าสุดอยู่ในขณะนี้
วอชิงตันกำลังถูกกดดันให้เพิ่มความช่วยเหลืออินเดีย ประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญต่อความพยายามของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการต่อต้านอิทธิพลจีน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 เม.ย.) หอการค้าอเมริกาเรียกร้องให้คณะบริหารของไบเดน จัดส่งวัคซีนของแอสตราเซเนกาหลายล้านโดสที่จัดเก็บไว้ให้แก่อินเดีย บราซิล และประเทศอื่นๆ ที่โควิดกำลังระบาดหนัก
ทางด้านรัฐบาลอินเดียที่กำลังเผชิญสถานการณ์การระบาดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดในโลก ได้ส่งเครื่องบินทหารและรถไฟไปรับออกซิเจนที่จำเป็นเร่งด่วนสำหรับกรุงเดลฮีจากส่วนอื่นๆ ของประเทศ รวมถึงประเทศอื่นๆ เช่น สิงคโปร์
ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์ (25 เม.ย.) กระทรวงสาธารณสุขอินเดียรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ที่ 349,691 คน รวมยอดสะสม 16.96 ล้านคน และยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 192,311 คน
โฆษกสถานทูตอินเดียประจำวอชิงตันเผยว่า เจ้าหน้าที่อินเดียและอเมริกากำลังหารือกันในระดับต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่า การจัดส่งส่วนประกอบและข้อมูลจากบริษัทอเมริกันเพื่อนำไปผลิตวัคซีนในจีนจะเป็นไปอย่างราบรื่น และเสริมว่า สิ่งสำคัญคือการร่วมมือกันเพื่อระบุวิธีแก้ไขอุปสรรคในห่วงโซ่อุปทานด้านการแพทย์และเร่งรัดความพยายามด้านวัคซีน
อาชิช จา คณบดีคณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยบราวน์ เตือนผ่านบทความพิเศษในวอชิงตัน โพสต์ฉบับวันเสาร์ว่า อินเดีย ประเทศที่มีประชากร 1,300 ล้านคนกำลังจะเผชิญหายนะแห่งมวลมนุษยชาติ และเสริมว่า มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยราววันละ 2,000 คน ทว่า ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่า ตัวเลขจริงสูงกว่านั้น 5-10 เท่า
จาเรียกร้องให้วอชิงตันส่งออกซิเจน อุปกรณ์ตรวจโควิดส่วนเกิน และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (พีพีอี) คุณภาพสูง เช่น หน้ากาก และยารักษาผู้ป่วยโควิดที่รวมถึงยากล่อมประสาทและเรมดิซิเวียร์ให้อินเดีย
เขายังเรียกร้องให้คณะบริหารของไบเดนแบ่งปันวัคซีนส่วนเกินให้อินเดียและประเทศอื่นๆ ที่สถานการณ์การระบาดเข้าขั้นวิกฤต ซึ่งหมายถึงวัคซีนแอสตราเซเนกา 30 ล้านโดสที่ยังไม่ได้ใช้และยังไม่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในอเมริกา
บทความของจาสำทับว่า วอชิงตันควรยกเลิกมาตรการควบคุมการส่งออกวัตถุดิบภายใต้กฎหมายการผลิตเพื่อการป้องกัน และการคว่ำบาตรการส่งออกที่เชื่อมโยงกับกฎหมายดังกล่าวและบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ (23 เม.ย.) ซากี โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า เจ้าหน้าที่อเมริกาและอินเดียกำลังร่วมกันหาวิธีรับมือวิกฤตนี้ โดยไม่ได้ระบุกรอบเวลาในการให้การสนับสนุนอินเดีย แต่บอกว่า อเมริกาได้จัดส่งความช่วยเหลือด้านสุขภาพ สิ่งของบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน การฝึกอบรมด้านโรคระบาดแก่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นของอินเดีย รวมทั้งเครื่องช่วยหายใจมูลค่า 1,400 ล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน เมื่อวันอาทิตย์ กระทรวงต่างประเทศปากีสถาน เพื่อนบ้านและศัตรูของอินเดีย เสนอจัดส่งอุปกรณ์การแพทย์ให้แก่อินเดีย อาทิ เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ให้ออกซิเจน เครื่องเอ็กซ์เรย์ พีพีอี และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการรับมือวิกฤตไวรัส
แถลงการณ์เสริมว่า ทั้งสองประเทศอาจหารือกันเพื่อให้จัดส่งอุปกรณ์เหล่านั้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมมือเพิ่มเติมเพื่อบรรเทาความท้าทายจากโรคระบาด และปิดท้ายว่า ปากีสถานกำลังรอคำตอบจากอินเดีย
ข้อเสนอนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อวันเสาร์ นายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน ของปากีสถาน ทวิตขอให้ชาวอินเดียที่ติดโควิดหายป่วยอย่างรวดเร็ว