อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งนับเป็นธุรกิจที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศได้อย่างมหาศาล ขณะนี้ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจตั้งคำถามว่าแล้วหน่วยงานหรือองค์กรใดที่ยังสามารถยืนอยู่ท่ามกลางวิกฤตนี้ได้บ้าง
นายรณพล จันทราโชติ (คุณอัน) เลขานุการ ผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ศิษย์เก่าของภาควิชาการท่องเที่ยวและการโรงแรม หรือคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงของต่อธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องยอมรับ
อันดับแรก คือ รูปแบบของพฤติกรรมการท่องเที่ยวและการติดต่อซื้อขายจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งเรียกว่า digital disruption ที่คนทั่วโลกได้ปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล นักท่องเที่ยวจะมีความชำนาญและพฤติกรรมการค้นหาข้อมูล การสำรองและการแชร์ข้อมูลของนักท่องเที่ยวจะรวดเร็วมาก ถ้าผู้ประกอบการใดปรับตัวไม่ทันก็จะต้องยุติธุรกิจไปโดยปริยาย
ดังนั้น ผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะต้องปรับตัวให้พร้อมและทันกับการเปลี่ยนแปลง เช่น
1) งานบางอย่างไม่จำเป็นต้องทำงานที่ออฟฟิศก็บรรลุความสำเร็จได้ ดังนั้น สถานที่ทำงานอาจจะลดความสำคัญลง
2) พนักงานในองค์กรจะต้องพร้อมที่จะพัฒนาทักษะงานของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการ up-skill, reskill หรือ cross-skill ซึ่งหมายถึงพนักงาน1 คน ต้องสามารถทำงานได้หลายตำแหน่งงาน เช่น เดิมหน้าที่ประจำคือเขียนโปรแกรมทัวร์ อาจจะต้องสามารถออกแบบทำcontent ทำคลิป ส่งเสริมการตลาดได้
3) ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอขายอาจต้อง customized สามารถตอบโจทย์นักท่องเที่ยวหรือพฤติกรรมการท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มได้ชัดเจน
4) รูปแบบการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนจากการขายหน้าร้านเพียงอย่างเดียว เป็นการอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความปลอดภัยกับผู้ใช้บริการ อาจเป็นการขายออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เช่น ธุรกิจจำหน่ายอาหาร ธุรกิจจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของฝากหรือสินค้าชุมชนท่องเที่ยว อาจพลิกโฉมมาเป็นการสั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์แทน
ทั้งนี้ เล่าย้อนไปจุดเริ่มต้นของการเข้ามาทำงานที่ ททท. หลังจบการศึกษาเริ่มต้นงานกับองค์กรเอกชน ต่อมาได้เปลี่ยนมาทำงานที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เนื่องจากเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจมีความมั่นคงกว่าเอกชน และอีกประเด็น คือ สวัสดิการของรัฐวิสาหกิจที่ได้รับจะครอบคลุมในหลายๆด้าน ซึ่งตัวเองก็พิจารณาแล้วว่า ททท. เหมาะสมที่สุด
โดยหน้าที่รับผิดชอบ คือ ประสานงาน และอำนวยความสะดวกให้กับองค์กรต่าง ๆ รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรเพื่อทำการตลาดการท่องเที่ยวภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และยังมีงานสนับสนุนข้อมูลวิชาการ งานวิเคราะห์แผนการตลาด การจัดประชุม การบรรยายเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายและตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ ซึ่งพื้นที่รับผิดชอบในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใน 1 เดือน ปฏิบัติงานที่สำนักงานกรุงเทพฯเพียงไม่กี่วัน ที่เหลือต้องเดินทางไปสำนักงานภูมิภาคและแหล่งท่องเที่ยวทางภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน สื่อดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญมากเพราะพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยน ชอบเดินทางเอง ดังนั้น งานการตลาดที่เข้ามาใหม่ คือ การที่หน่วยงาน ททท. เขียนรายการนำเที่ยวขึ้นมาแล้วเชิญบล็อกเกอร์ (blogger) ท่องเที่ยวไปช่วยรีวิวการเดินทางดังกล่าวให้ ถึงตรงนี้รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้ศึกษาที่ DPU เพราะตนสามารถนำความรู้จากในห้องเรียนมาใช้ในการทำงานได้จริง โดยบูรณาการจากหลากหลายวิชา เช่น วิชามัคคุเทศก์ วิชาการจัดนำเที่ยว วิชาประวัติศาสตร์ไทยเพื่อการนำเที่ยว ฯลฯ
สุดท้าย อยากฝากให้น้องๆ กำลังศึกษาในคณะการท่องเที่ยวและโรงแรม ในขณะนี้ ให้ลองหันมาทำงานในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจดูบ้าง ซึ่งจะเห็นได้ว่าช่วงระบาดของโควิด-19 ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบ มีการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก ดังนั้น ในสถานการณ์วิกฤตแบบนี้ การทำงานในภาคเอกชนอาจจะสร้างความมั่นคงในอาชีพได้ไม่มากเท่ากับการทำงานกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจหรือภาครัฐ
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager