xs
xsm
sm
md
lg

อว.เปิดโรงพยาบาลสนาม มทร.ธัญบุรี รองรับผู้ป่วยโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดพิธีเปิดโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 โดย ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานเปิดพร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา วช. ได้มีการสนับสนุน อุปกรณ์ เครื่องมือหรือเวชภัณฑ์ต่างๆ  รวมถึงการจัดกิจกรรมสนับสนุนต่างๆ เช่น การพัฒนาหน้ากากอนามัย การพัฒนาห้องความดันลบ การพัฒนาชุดการตรวจวินิจฉัย และการพัฒนาให้แน่ใจว่าเรามีเครื่องช่วยหายใจ ทั้งนี้ ทั้งหมดเป็นกิจกรรมที่ทาง วช.ทำงานมาตลอดตั้งแต่เริ่มมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 


วันนี้ (23 เมษายน 2564) ที่ มทร.ธัญบุรี ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า ในการดำเนินงานเรื่องของโควิด ทางสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ วช. กระทรวง อว. ได้มีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ตั้งแต่ช่วงแรกของการระบาดในช่วงเดือนมกราคม ปี 2563 เราได้มีการปรับสถานการณ์ปรับการดำเนินงานตามแต่ละระยะ

สำหรับในช่วงเริ่มต้นๆ วช.ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก เนื่องจากประเทศไทยเรายังขาดข้อมูล ดังนั้น การดำเนินการเรื่องข้อมูล ว่าโควิดคืออะไร และติดต่ออย่างไร ระบาดอย่างไร จะดูแลอย่างไร จะป้องกันอย่างไร ช่วงต้นข้อมูลจึงเป็นจำเป็นมาก ต่อมาเมื่อมีผู้ติดเชื้อในประเทศไทย ซึ่งช่วงแรกมีผู้ติดเชื้อไม่กี่คน และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บทบาทการทำงานของ วช.ในเรื่องขอข้อมูลก็ปรับเปลี่ยนไป เพื่อให้แน่ใจว่าประเทศไทยเรามีศักยภาพ เพียงพอที่จะดูแลให้สถานการณ์โควิดผ่านไปได้


โดยในขณะนี้ เป็นระยะที่เข้าสู่การระบาดรอบใหม่ ที่เป็นระลอกใหญ่ การดำเนินงานของ วช.ต้องขยายการดำเนินงานเพิ่มเติมจากด้านข้อมูล เพิ่มเติมจากด้านยาเวชภัณฑ์อุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้เข้าไปสู่การเตรียมการให้แน่ใจว่าเรามี โรงพยาบาลสนาม มีสถานที่ในการบริหารจัดการและก็ดูแลผู้ติดเชื้อ ก็จะเห็นว่าในการระบาดของโควิด ภาควิจัย ภาควิชาการ ภาคการศึกษา มีบทบาทที่สำคัญอย่างมากและเป็นการแสดงศักยภาพว่าเราสามารถที่จะนำข้อมูล นำการพัฒนาขับเคลื่อนการวิจัย ขับเคลื่อนวิชาการ ขับเคลื่อนนวัตกรรม รวมทั้งเอาทุกอย่างนี้มาผสมผสานกันเข้าสู่การบริการให้แน่ใจว่าคนไทยสามารถดูแล เรื่องนี้ได้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา “รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว.” ได้มอบนโยบายสำคัญ ว่า โอกาสนี้เป็นโอกาสสำคัญที่กระทรวง อว. สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัย จะได้แสดงให้สังคมเห็นว่า การที่ประเทศไทยได้ลงทุนเพื่อสนับสนุนข้อมูลการวิจัย เป็นประโยชน์ต่อประเทศ มีอะไรบ้าง และจังหวะนี้ แสดงให้เห็นว่าการเชื่อมโยงกับทุกกระทรวง และอว.เป็นกองหนุนแต่เป็นกองหนุนสำคัญ ที่ถ้าไม่มีกองหนุนตรงนี้ กองทัพหลักก็จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของโรงพยาบาลสนาม อว.ได้ดำเนินงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เชื่อมโยงระบบโรงพยาบาลสนามทั้งหมดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งการบริหารจัดการเตียงทั้งหมดของประเทศ โรงพยาบาลสนามที่เราเห็นในวันนี้ที่มีการเปิดดำเนินการ การรับส่งผู้ป่วย การรับส่งผู้ติดเชื้อต่างๆ รับส่งโดยระบบการบริหารจัดการของสาธารณสุข ดังนั้น เมื่อมีผู้ติดเชื้อเข้าสู่โรงพยาบาลหลักมีการประเมินอย่างดีว่าควรจะดูแลในโรงพยาบาลหลักหรืออยู่ในโรงพยาบาลสนาม ดังนั้นการเชื่อมโยงกัน เป็นเรื่องสำคัญ เรามีทั้งเรื่องที่ต้องพัฒนาต่อไป และปรับปรุงเพื่อให้กระบวนการทั้งระบบเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์


โดยกระทรวง อว. ได้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในสังกัด กระทรวง อว.ขึ้นทั่วประเทศ เพื่อช่วยเป็นกองหนุนในการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ในระลอกนี้ โดยมีเตียงสนามที่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 8,243 เตียง รับผู้ป่วยแล้วจำนวน 1,646 เตียง หรือคิดเป็น 20% และคงเหลือรองรับได้อีก 6,597 เตียง หรือคิดเป็น 80% และปัจจุบันได้ขยายจำนวนเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยเพิ่มเป็น 12,822 เตียง พร้อมทั้งยังมีระบบรองรับและการส่งต่อผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงไปยังโรงพยาบาลหลักอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

สำหรับ โรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ในเบื้องต้นสามารถรองรับผู้ป่วยที่ติดโควิด-19 ได้จำนวน 100 เตียง ซึ่งการดำเนินงานของโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ ได้ดำเนินการตามคำแนะนำของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ก็คือ ต้องมีความปลอดภัย ทั้งระบบตัวอาคาร ระบบจัดการของเสีย การจัดการอากาศ มีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขคอยควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด มีการจัดโซนนิงต่างๆ อย่างเหมาะสม เพื่อมิให้มีการแพร่เชื้อไปสู่ภายนอก หรือแพร่ระบาดไปสู่ชุมชน ภายนอก และในอนาคตจะเพิ่มอีก จำนวน 50 เตียง


ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้แจ้งขอรับการสนับสนุนที่นอนมายัง สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เนื่องจากยังขาดแคลนที่นอน ที่จะนำไปใช้ในโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 วช. จึงได้ส่งมอบนวัตกรรมชุดที่นอนยางพารา จำนวน 200 ชุด แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมหมาย ผิวสะอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นผู้รับมอบ

ด้าน ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวตอนท้ายว่า นวัตกรรมชุดที่นอนยางพาราเป็นนวัตกรรมที่ต่อยอดมาจากโครงการวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตหมอนยางพาราระดับชุมชน ของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพสหกรณ์บ้านพังดาน จังหวัดพัทลุง ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยผลิตจากยางพาราแท้ มีคุณสมบัติในการระบายอากาศได้ดี มีความนุ่มและยืดหยุ่นสูง รองรับสรีระในการนอน ไม่สะสมฝุ่นและ
เชื้อโรค สามารถทำความสะอาดได้สะดวก อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 10 ปี อีกด้วย


คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager



กำลังโหลดความคิดเห็น