xs
xsm
sm
md
lg

สสว.จับมือกองทัพอากาศ หนุนเอสเอ็มอีกลุ่มรับช่วงการผลิตเข้าถึงตลาดภาครัฐ มูลค่า 400 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สสว.-กองทัพอากาศประสบความสำเร็จในการผลักดันเอสเอ็มอีกลุ่มรับช่วงการผลิตเข้าสู่ตลาดภาครัฐ ประเดิมด้วยงานลงนาม MOU ระหว่าง บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด กับสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (THAI SUBCON) คาดช่วยเอสเอ็มอีในอุตสาหกรรมดังกล่าว 3,000 ราย สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาทต่อปี

รศ.ดร.วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมพิธีลงนามความเข้าใจระหว่าง บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด และ สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (THAI SUBCON) วันที่ 9 เมษายน 2564 ว่า งานในครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการที่ สสว.ร่วมมือกับ บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด และกองทัพอากาศ ในการสนับสนุนผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตให้มีช่องทางดำเนินธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายใต้มาตรการกำหนดโจทย์การผลิตล่วงหน้าสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ด้วยการส่งเสริมให้เอสเอ็มอีได้รับทราบความต้องการสินค้าและบริการในการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพอากาศและบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด เพื่อใช้เป็นแนวทางในการวางแผนและพัฒนาสินค้าและบริการให้เป็นไปตามความต้องการของหน่วยงานผู้ซื้อ

การลงนามความเข้าใจครั้งนี้เป็นหนึ่งในการปรับตัวจากผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ไปสู่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยานและการซ่อมบำรุง เนื่องจากการได้รับผลกระทบจากนโยบายการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยคาดว่าจะช่วยลดการนำเข้าชิ้นส่วนอากาศยานบางชนิดที่ผู้ประกอบการไทยสามารถผลิตได้ในประเทศ และนับเป็นโอกาสสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่มีมูลค่าสูงถึง 1.3 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อจัดจ้างเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบินในประเทศทั้งของภาครัฐและเอกชนมีมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาทต่อปี ดังนั้น การลงนามความเข้าใจครั้งนี้คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของมูลค่าดังกล่าวหรือคิดเป็นมูลค่า 400 ล้านบาทต่อปี และมีผู้ประกอบการที่จะได้รับประโยชน์ประมาณ 3,000 ราย


“สสว.ได้ร่วมกับ บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด และกองทัพอากาศ นำผู้ประกอบการซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมฯ ศึกษาดูงานเพื่อรับทราบความต้องการล่วงหน้าของผู้ซื้อ คือกองทัพอากาศ และบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมความพร้อม และวางแผนการผลิตสินค้าหรือร่วมผลิตชิ้นส่วนให้แก่การซ่อมบำรุงอากาศยานได้ตรงความต้องการของผู้ซื้อ นำผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้านชิ้นส่วนอากาศยานเข้าเยี่ยมชมกิจการของ บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด และการดำเนินงานของศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานตาคลี จ.นครสวรรค์ เพื่อศึกษาดูงานการซ่อมบำรุงอากาศยานของกองทัพอากาศ รวมทั้งการดำเนินงานของกลุ่มพัสดุ อุปกรณ์ภาคพื้นที่ใช้สนับสนุนการซ่อมบำรุงอากาศยาน กลุ่มเครื่องมือ อุปกรณ์ ตู้เก็บเครื่องมือสำหรับการซ่อมบำรุงอากาศยาน และกลุ่มพัสดุอะไหล่ ชิ้นส่วนที่ใช้ในการซ่อมบำรุงอากาศยาน” ผอ.สสว.ระบุ

ผอ.สสว.กล่าวอีกว่า การศึกษาดูงานครั้งดังกล่าวถือเป็นการต่อยอดให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจ ได้นำเสนอศักยภาพของตนเอง พร้อมทั้งรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมถึงผลิตภัณฑ์ บริการตามความต้องการของกองทัพอากาศ และอุตสาหกรรมการบิน รวมถึงเกิดการเรียนรู้จากการสังเกตการณ์จากการปฏิบัติจริง อันนำไปสู่โอกาสในการพัฒนา ต่อยอดผลิตภัณฑ์/บริการที่ตอบสนองความต้องการดังกล่าว ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเข้าสู่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยานและการซ่อมบำรุงของหน่วยงานภาครัฐได้ต่อไป

ดังนั้น การกำหนดโจทย์การผลิตล่วงหน้าจึงเป็นการเชื่อมโยงธุรกิจเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยสามารถผลิตสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัท อุตสาหกรรมการบินฯ ซึ่งมีแผนช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยตั้งแต่การเตรียมตัวให้ได้การรับรองมาตรฐาน และในขั้นต่อไป สสว.จะร่วมกับบริษัท อุตสาหกรรมการบินฯ ในการจัดทำแผนแม่บทความร่วมมือด้านโจทย์การผลิตสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย เพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยานและการซ่อมบำรุงต่อไป

“การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมีมูลค่าสูงถึง 1.3 ล้านล้านบาท หากเอสเอ็มอีเข้าสู่งานภาครัฐได้ร้อยละ 10 จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1.3 แสนล้านบาท” ผอ.สสว.กล่าวในที่สุด



กำลังโหลดความคิดเห็น