“I Am Siam” น้ำหอมดอกไม้ไทย เจาะตลาดด้วยเรื่องเล่า หอมไกลสู่นานาชาติ

เมื่อพูดถึงความหอมของ “ดอกไม้ไทย” ก็ไม่เป็นสองรองจากดอกไม้ชนิดอื่นๆ บนโลกนี้ ด้วยกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ จึงทำให้บรรดาดอกไม้ไทยนานาพรรณ ถูกนำมาปรุงแต่งให้เป็นน้ำหอมน้ำอบ เพื่อนำมาประพรมให้หอมคละคลุ้งชวนให้บรรยากาศน่าหลงใหล หรือทำให้อารมณ์ผ่อนคลายหรือสร้างความมีชีวิตชีวา ตามแต่ละชนิดและกลิ่นของดอกไม้นั้นๆ

ด้วยความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ จนทำให้ทำให้ผู้ที่ได้กลิ่นต่างชื่นชอบและประทับใจในทุกยุคทุกสมัย คุณอณุพรรณ เครือมิ จึงได้นำจุดเด่นของดอกไม้ไทยในเรื่องนี้ มาปรุงเป็นน้ำหอมแบรนด์ไทย ที่ผลิตขึ้นจากดอกไม้ไทยแท้ๆ ในชื่อ “I Am Siam” พร้อมกับสร้างจุดขายด้วยเรื่องเล่าและชื่อของน้ำหอมในแต่ละกลิ่นที่ฟังดูแล้วน่าหยิบใช้ จนทำให้ทั้งลูกค้าไทยและต่างชาติชื่นชอบ

คุณอณุพรรณ เล่าถึงความเป็นมาว่า เมื่อก่อนนั้นทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร พร้อมกับทำงานเบื้องหลังในการทำเครื่องหอมให้กับแบรนด์เครื่องหอมอื่นๆ ซึ่งได้มีโอกาสคลุกคลีกับการผลิตเครื่องหอม น้ำปรุงจากดอกไม้ไทย จนกระทั่งได้มีโอกาสลองผันมาสร้างแบรนด์ของตัวเองเองในชื่อ “I Am Siam” ซึ่งแบรนด์น้ำหอมที่ผลิตด้วยการสกัดจากดอกไม้ไทยแท้ๆ และได้ทำการออกบูธเพื่อจำหน่าย โดยในช่วงแรกนั้นได้ผลิตน้ำหอมออกมา 6 กลิ่น ซึ่งยอมรับว่าไม่ค่อยได้รับความสนใจจากลูกค้า แต่การออกบูธก็ทำให้ทางเราได้พบกับลูกค้าและนำความคิดเห็นของลูกค้ามาปรับผลิตภัณฑ์น้ำหอมและวิธีการขาย

และนอกจากการออกบูธแล้ว ทางเราก็ยังใช้เฟสบุ๊คในการเป็นช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์ ด้วยการขายน้ำหอมของทางแบรนด์ผ่านเรื่องเล่าประวัติความเป็นมาของดอกไม้ไทย ที่มีความเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตไทยมาตั้งแต่อดีต สร้างเป็นสตอรี่ทำให้น้ำหอมดูน่าหลงใหล เป็นที่สนใจของลูกค้ามากขึ้น และยังมีการนำคำต่างๆ ที่กำลังกระแสในขณะนั้น มาตั้งชื่อของน้ำหอมกลิ่นต่างๆ เพื่อสร้างจุดสนใจ เช่น “กลิ่นกฤษณะกาลี” ซึ่งเป็นน้ำหอมที่สกัดมาจากดอกบัวหลวง ก็ใช้ชื่อตามคำในละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ประกอบกับกลิ่นของดอกบัวหลวงที่มีความหอมเย็นสดชื่น จึงทำให้น้ำหอมกลิ่นนี้กลายเป็นกลิ่นอันดับ 1 ที่ลูกค้าให้ความนิยม

ปัจจุบันน้ำหอมดอกไม้ไทย I Am Siam ได้มีการพัฒนาน้ำหอมออกมาหลากหลายกลิ่น และได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ และได้มีการนำสูตรการสกัดและปรุงน้ำหอมจากต่างประเทศมาผสมผสานในการผลิตด้วย เช่น การนำศาสตร์การปรุงน้ำหอมของประเทศอียิปต์ ที่มีการนำโอลีฟออยมาสนมทำให้กลิ่นติดทนนานขึ้น ทำให้น้ำหอมของเรามีกลิ่นที่มีความอินเตอร์และมีเอกลักษณ์มากขึ้น

ในเรื่องกลิ่นน้ำนั้น ก็จะมีน้ำหอมทั้งกลิ่นดอกไม้ที่มีตลอดทั้งปี หรือดอกไม้ที่เพียงเฉพาะฤดูกาล อาทิ “กลิ่นดอกจำปูน” ที่มีผสานกับไม้หอมกฤษณา ไม้ที่มีกลิ่นขึ้นชื่อมาแต่โบราณ พร้อมกับการปรุงแบบอียิปต์ผสมโอลีฟออยให้หอมนาน “กลิ่นมะลิต้น” กลิ่นที่มีขายเฉพาะช่วงฤดูฝน ที่มีกลิ่นละมุน นุ่มนวล สัมผัสคล้าย เปลือกไม้ผสมดอกมะลิ ที่สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิง “กลิ่นมหาหงส์สองพันปี” ที่มีการตั้งชื่อให้ดูมีมนต์ขลัง เพราะดอกมหาหงส์เป็นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมจากหญิงสาวมาตั้งแต่อดีต ในการนำมาตกแต่งปอยผมหรือเหน็บกับเครื่องประดับเพื่อสร้างกลิ่นหอมให้กับตัวเอง และยังมีกลิ่นอื่นๆ เช่น กลิ่นว่านจูงนาง , กลิ่นกุหลาบบิชอป ,กลิ่นพุดซ้อน , กลิ่นดอกพุดชมพู เป็นต้น โดยมีขนาดจำหน่ายที่ 30 ml ราคา 480 บาท , 10 ml ราคา 250 บาท และ ขนาดทดลอง 3 ml 1 ชุด 6 กลิ่น ราคา 390 บาท และมีบริการจัดส่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ

จากการพัฒนาการวิธีการสกัดกลิ่นน้ำหอมดอกไม้ไทย ที่ทำให้ความหอมติดทนนาน และหอมอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะ จึงทำให้มีลูกค้าชื่นชอบเป็นอย่างมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ในอนาคตทางแบรนด์จะมีการพัฒนาในเรื่องการผลิตให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และจะพัฒนาแบรนด์ให้เป็นตัวแทนน้ำหอมดอกไม้ไทยไปสู่ตลาดนานาชาติ