บอนไซมะพร้าว ไม้ประดับที่ได้รับความนิยม และยังจัดเป็นไม้มงคลเสริมฮวงจุ้ย คนต่างจังหวัดมีความเชื่อว่าการปลูกมะพร้าวไว้ในบ้าน แสดงถึงความมั่นคง มั่งคั่งยั่งยืน เพราะมะพร้าวเป็นพืชที่มีลำต้นที่มั่นคง และอายุยืน และเมื่อสามารถย่อส่วนมะพร้าวทำออกมาเป็นบอนไซมะพร้าวได้ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองที่อยู่ทาวน์เฮ้า หรือ คอนโดพื้นที่ไม่มากแต่ต้องการจะปลูกมะพร้าวไม้มงคล
สำหรับความเป็นมาของบอนไซมะพร้าว ไม่ได้มีที่มาที่ชัดเจน โดยพบเห็นคนอินโดเซีย นำคลิปการทำบอนไซมะพร้าวมาเผยแพร่ทางช่องยูทูป และเกิดการทำตามกันมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีศูนย์การเรียนรู้หลายแห่งทั้งที่ จังหวัดราชบุรีที่ สวนลุงสำเร็จ ประธานกลุ่มบอนไซมะพร้าว และได้รวมรวบคนสูงอายุในวัยเกษียณมาเรียนการทำบอนไซมะพร้าว และ ศูนย์วิสาหกิจชุมชน บ้านพรุพลูหนัง เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่เปิดสอนอาชีพให้กับคนที่ต้องการจะมีอาชีพ
นางนิตยา พรหมขวัญ (หมวย) ประธานศูนย์วิสาหกิจชุมชน บ้านพรุพลูหนัง เล่าว่า เดิมตนเองทำสวนมะพร้าว ที่บ้านพรุพลูหนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช และเปิดศูนย์การเรียนรู้บ้านพรุพลูหนัง เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติฯ สอนการทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น และมีมะพร้าวบางส่วนที่ทิ้งไว้นาน ก็จะงอกต้นใหม่ขึ้นมา เอามาทำน้ำมันมะพร้าวไม่ได้ เดิมทิ้งให้งอกไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร เอาไปปลูกก็ไม่ได้ เราก็นำมาเพิ่มมูลค่า โดยการนำมะพร้าวเหล่านั้น มาตัดตกแต่งใหม่ กลายมาเป็นบอนไซมะพร้าวเพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มที่ต้องการมงคลประดับบ้าน
นิตยา บอกว่า ตนเองได้เรียนรู้การทำบอนไซมะพร้าวมาจากช่องทางยูทูป และ กูเกิล และหลังจากนั้น ก็ค่อยมาเรียนรู้และฝึกฝนด้วยตัวเอง ซึ่งครูที่ดีที่สุดของเรา คือ ตัวเรา เพราะการจะทำอะไรออกมาได้ดีต้องผ่านการฝึกฝนบ่อยๆ เพราะไม่ว่าจะไปเรียนอะไรก็แล้วแต่ จะได้มาแค่วิธีการส่วนใครจะทำออกมาสวย หรือไม่ ก็ต้องฝึกฝน และเรียนรู้ด้วยตัวเองเพิ่มเติม
โดยการทำบอนไซมะพร้าวในครั้งนี้ คุณนิตยา บอกว่า เธอได้เริ่มทำมาเกือบ 2 ปี พร้อมกับการเปิดสอนมาเรื่อย ผู้ที่มาเรียนเพื่อนำไปทำเป็นอาชีพ ทั้งเป็นอาชีพเสริมและอาชีพหลัก และเนื่องด้วยตัวเองอยู่ต่างจังหวัด คนที่มาเรียนส่วนใหญ่ คือ เขามีมะพร้าวที่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ เอาไปปลูกก็ไม่ได้ ก็มาเรียน และนำไปทำเป็นของฝากบ้าง นำไปขายบ้าง ส่วนราคาบอนไซมะพร้าว มีราคาตั้งแต่หลักร้อยต้นๆ ไปจนหลักพัน บางต้นขายได้ 3-4 พันบาท
สำหรับขั้นตอนการทำบอนไซมะพร้าว มีขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากอะไร ใครๆ ก็สามารถเรียนรู้และทำได้ เพียงแค่มีมะพร้าว และเลือกมะพร้าวที่จะมาทำ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นมะพร้าวสายพันธุ์ไหน หรือ รูปทรงอย่างไร ก็ทำได้หมด แต่ถ้าจะได้บอนไซมะพร้าวที่สวย จะต้องเป็นมะพร้าวที่เกิดแบบผิดรูป เพราะความผิดรูปของมะพร้าวทำให้ได้ทรงที่สวย หรือ ถ้าต้องการบอนไซมะพร้าว ออกมารูปทรงอะไร ก็สามารถบังคับได้ เช่นเดียวกับไม้ดัดชนิดอื่นๆ การทำไม้ดัดบอนไซมะพร้าว ใช้การนำไปแช่น้ำไว้ตั้งแต่ตอนที่เริ่มงอก และบังคับให้เขางอไปตามแบบที่ต้องการ และส่วนของรากที่ยาวก็บังคับได้เช่นกัน การเลี้ยงบอนไซมะพร้าว สิ่งหลักคือ ต้องการให้น้ำให้เพียงพอ เพราะเน้นการเติบโตในน้ำมากกว่าในดิน
ส่วน อุปกรณ์ที่ใช้ทำบอนไซ หลักๆ คือ มีด คัตเตอร์ ช้อนกินข้าว ในขั้นตอนแรกจะนำผลมะพร้าวที่งอกแล้วมีลักษณะรากที่สมบูรณ์ มาปอกเปลือกชั้นนอกด้วยมีด จากนั้นเส้นใยที่เป็นใยมะพร้าวชั้นในจะค่อยๆ ใช้คัดเตอร์ตัดออก เพื่อให้เหลือแต่กะลาแข็งและต้นกล้าที่มีรากอยู่ โดยบริเวณต้นที่ติดอยู่กับกะลาหากไม่สามารถใช้คัดเตอร์ตัดเส้นใยออกได้ จะใช้ช้อนขูดแทนเพื่อให้รากและต้นยังติดอยู่กับกะลาเช่นเดิม ได้บอนไซมะพร้าวอย่างที่ต้องการ
เมื่อใช้ช้อนเกาหรือขูดกะลาจนผิวเรียบทั้งผลมีความสวยงามแล้ว บริเวณขั้วของรากที่อยู่ติดกับต้นสามารถตัดแต่งได้เล็กน้อย จากนั้นนำต้นมะพร้าวที่ได้มาปลูกลงในภาชนะที่เตรียมไว้ เช่น กระถางที่มีลวดลายสวยงาม โดยวัสดุปลูกเป็นดินทั่วไปที่มีจำหน่ายตามท้องตลาด สามารถนำมาปลูกให้กับบอนไซมะพร้าวได้
“ช่วงนั้นได้มีโอกาสไปดูคลิปวิดีโอว่าประเทศอินโดนีเซียทำกันเยอะ ในเรื่องของบอนไซมะพร้าว ดูแล้วค่อนข้างมีลักษณะสวยงาม ทีนี้เลยเกิดความคิดว่า บ้านเราเองก็มีสวนมะพร้าวอยู่ น่าจะนำมาให้เกิดประโยชน์ จึงได้นำผลที่งอกออกมาเป็นต้นแล้ว มาทดลองทำดู ซึ่งช่วงแรกๆ ที่แกะเปลือกออก เรายังไม่มีความชำนาญมากนัก ก็จะได้รากที่ขาด พอแกะเรื่อยๆ มีความชำนาญ ก็เริ่มได้รากที่สวยงามคู่กับกะลา หลังมาปลูกต้นก็เติบโตดี ช่วงแรกทำเพราะความชอบยังไม่คิดขายอะไร พอมีคนเริ่มเห็นมากขึ้นอยากได้ไปเป็นไม้ประดับ ก็ได้ซื้อไปดูแลต่อ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้ทำเป็นงานเสริมรายได้”
“การทำบอนไซมะพร้าวก็ไม่ได้แปลกไปจากการทำไม้ชนิดอื่นๆ อยู่ที่จินตนาการของเราว่าต้องการแบบไหน อย่างการปลูกก็เลือกกระถางในแบบที่เราชอบ พอใส่วัสดุปลูกลงกระถางแล้ว ก็จะวางต้นมะพร้าวลงไป โดยให้กะลาที่เป็นผลอยู่บนวัสดุปลูก ส่วนรากก็จะฝังลงไปในดิน บริเวณรอบๆ สามารถนำหินมาวางให้เกิดความสวยงามได้ หลังจากปลูกเสร็จแล้วนำไปวางในบริเวณที่มีร่มรำไร ดูแลรดน้ำ 2-3 วันครั้ง ต้นมะพร้าวก็จะแข็งแรง มีความสวยงามอยู่ในกระถาง หากเห็นว่ามะพร้าวเริ่มใหญ่ขึ้น จะย้ายไปวางบริเวณด้านนอกอาคาร หรือนำไปปลูกลงดินเพื่อความเหมาะสมได้เช่นกัน”
นิตยา เล่าว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด หลายคนต้องตกงาน เดินทางกลับบ้าน การทำไม้มงคล บอนไซมะพร้าวเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เขาไม่ต้องลงทุนสูง และไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมาก ส่วนตลาดยังมีช่องว่างทางการตลาดอีกมาก สำหรับไม้ประดับ อย่างเช่น ที่ผ่านมาจะมีโรงแรม สั่งบอนไซมะพร้าวไปประดับในห้องน้ำโรงแรม ก็มี หรือ คอนโดพื้นที่น้อยก็จะเลือกไม้มงคลที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มากและดูแลง่าย เป็นต้น ที่ผ่านมา ตนเองก็จะเปิดสอนที่บ้าน นครศรีธรรมราช และ ด้วยเราเป็นเครือข่ายของพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดปทุมธานี ได้รับเชิญให้มาเป็นวิทยากร และนำบอนไซมะพร้าวมาจำหน่ายในงานด้วย
“ในช่วงที่หลายคนเผชิญกับภาวะวิกฤตจากสถานการณ์โควิดในครั้งนี้ อยากจะให้ทุกคน นำศาสตร์ของพระราชา ซึ่งมีตั้ง 23 ข้อ เราแค่เลือกมาใช้สักหนึ่งข้อ อย่างเช่น เลือกทำเรื่องง่าย ใช้ชีวิตให้มันง่าย อย่าทำชีวิตให้มันยาก โดยไม่ตั้งเงื่อนไขอะไรที่มันยากในเวลานี้ และถ้าทำอะไรให้ง่าย ความพอเพียงก็จะมาเองเราไม่ได้เกิดมาเพื่อหาเงิน และใช้เงินอย่างเดียว แต่ชีวิตเรามีอะไรที่ต้องทำอีกมากมาย เช่น การคิดจะทำเพื่อคนอื่นๆ บ้าง ทำให้มีความสุข ไม่มีเงินชีวิตก็มีความสุขได้” นิตยากล่าวทิ้งท้าย
สนใจ โทร. 09-3647-6282
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager