ใกล้ถึงเทศกาลสำคัญ อย่างวันแม่แห่งชาติ เหล่าผู้ประกอบการต่างก็ขมักขเม้น กับการทำดอกมะลิ เพื่อจำหน่ายให้กับลูกๆ เพื่อนำไปมอบให้กับแม่ ในวันสำคัญดังกล่าว รวมถึงผู้ผลิต พวงมาลัยดอกมะลิ “บ้านมาลัย จิรามงคล” ผลิตภัณฑ์โอทอป ตำบลดอนไก่ดี อำเภอ กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการตลาดออนไลน์ ของ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ผ่านแพลตฟอร์ม “ตลาดช้อปแชท” บนแอปพลิเคชั่นไลน์โอเพ่นแช็ต
สสว. เร่งขยายตลาด ออนไลน์และออฟไลน์ ช่วยเอสเอ็มอีสู้โควิด
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า การส่งเสริมการตลาดออนไลน์ ของสสว. เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็ม สู้วิกฤติโควิด-19 โดย แบ่งเป็น 1.การดำเนินงานบนแพลตฟอร์มของ สสว. มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโอกาสทางการค้า และจับคู่ธุรกิจ ระหว่างผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ในรูปแบบ New Normal และ 2.สนับสนุนช่องทางออนไลน์ ของผู้ประกอบการ เช่น เฟซบุคส์ อินสตาแกรม โอเอ (OA) เว็บไซต์ หรือ แอพพลิเคชั่นที่ผู้ประกอบการจัดสร้างเอง หรือ ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของ Shopee หรือ Lazada
สำหรับตัวอย่างการดำเนินงานบนแพลตฟอร์ม ของสสว. เช่น “ตลาดช้อปแชท” บนแอปพลิเคชั่นโอเพ่นแช็ต โดยจับกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบสินค้าไลฟ์สไตล์ การดำเนินงานของตลาดนี้ ทำให้กลุ่มของผู้ประกอบการใหม่ ได้ทำการทดสอบตลาดจริง ตั้งแต่วิธีการเลือกสินค้า การจัดทำข้อมูล การโปรโมทสินค้าของตนเอง รวมถึง ผู้ผลิตมาลัยดอกไม้ประดิษฐ์พวงมาลัย ดอกมะลิ บ้านมาลัย จิรามงคล ผลิตภัณฑ์โอทอป ดอนไก่ดี มาบอกเล่าเรื่องราวของ การจำหน่ายดอกไม้ประดิษฐ์ในเทศกาลต่างๆ ผ่านทางช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
พวงมาลัยดอกมะลิ จากกระดาษทิชชู
นางสาวเจนจิรา จันทร์ทับทิม เจ้าของ ผลงานมาลัยประดิษฐ์ “บ้านมาลัย จิรามงคล” เล่าว่า จุดเริ่มต้น ของการมาทำพวงมาลัย ดอกมะลิ จากกระดาษทิชชู เริ่มมาจากตนเองรู้สึกอิ่มตัวกับการทำงานประจำ เพราะในช่วงนั้น มีความเครียดจากหน้าที่การงานที่ได้รับในตำแหน่งฝ่ายบุคคล จึงได้ตัดสินใจลาออก การลาออกของเราก็ไม่ได้ต้องคิดมาก เพราะมีบ้านเป็นของตัวเอง เป็นบ้านสวน ออกมางานช่วยทำสวนที่บ้าน ปลูกไม้ยืนต้น และทำสวนดอกไม้ ทำให้เรารู้ว่าดอกมะลิที่นำมาขายให้กับลูกค้า เพื่อนำไปร้อยมาลัยเนี่ย ต้องผ่านการฉีดยาฆ่าแมลงจำนวนมาก และถ้านำพวงมาลัยดอกมะลิที่ผ่านยาฆ่าแมลง มาไว้ในรถ เราก็จะสูดดมเอายาฆ่าแมลงนั้น เข้าไปด้วยส่งผลต่อสุขภาพของเราในอนาคต
ทั้งนี้ เจนจิรา เธอก็เลยเกิดไอเดีย ว่า ถ้าอย่างนั้นทำไม เราไม่ทำดอกไม้ประดิษฐ์ เพื่อมาทดแทนดอกไม้สด เพราะโดยส่วนตัว เธอชื่นชอบดอกไม้อยู่แล้ว และมักจะซื้อพวงมาลัยดอกไม้สดมาห้อยรถเป็นประจำ เพราะผ่านไป 2 วันดอกไม้สดก็เหี่ยวและต้องมาซื้อใหม่ โดยเฉพาะพวงมาลัยดอกไม้สดที่แขวนหน้ารถ ต้องเปลี่ยนเป็นจำ ไอเดียว่า ทำไมไม่มีดอกไม้ประดิษฐ์ ที่มีลักษณะคล้าย เหมือนกับของจริงออกมาขายบ้าง เพื่อจะได้ซื้อครั้งเดียว และอยู่ได้นานๆ
พอได้ไอเดียว่าจะทำดอกไม้ประดิษฐ์ ตอนนั้นยังทำงานประจำอยู่ แต่เราจะทำควบคู่กันไป ส่วนตัวเป็นคนชอบงานฝีมือ ก็เลยไปเรียนจากวิทยาลัยการอาชีพ สอนทำดอกมะลิ และเรียนเพิ่มเติมจากทางช่องยูทูปด้วย ใช้เวลาเรียนไม่นานก็สามารถทำขายและแจกเพื่อนบ้าง ปรากฏว่า เพื่อนชอบเพราะเหมือนพวงมาลัยดอกมะลิของจริง แต่ดีกว่าตรงที่สามารถเก็บได้นานถึง 3 ปี หลังจากนั้น เพื่อนขอให้ช่วยทำให้ ก็เลยเป็นจุดเริ่มของการขายพวงมาลัยดอกมะลิ บ้านมาลัย จิรามงคล
ความแตกต่าง ดอกมะลิกระดาษทิชชู กับวัสดุอื่นๆ
ในปัจจุบัน มีพวงมาลัยดอกมะลิที่ทำเรียนแบบของสด ออกมาขายในหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบมีจุดเด่น จุดด้อยแตกต่างกัน อย่าง เช่น พวงมาลัยดอกมะลิที่ทำจากสบู่ พอนำไปใส่ในรถ และโดนแดดสบู่ก็จะเปลี่ยนสี หรือ ละลาย อย่างพวงมาลัยดอกมะลิที่ทำจากดินญี่ปุ่น พอเก็บไว้นานดินเสื่อมก็จะเปลี่ยนสี สีจะค่อยซีดไปเรื่อย พอมาเจอการทำพวงมาลัยดอกมะลิจาก กระดาษทิชชู มีจุดเด่น เก็บได้นานไม่เปลี่ยนสี หรือ โดนแดดไม่ละลาย เพราะเคลือบด้วยกาว ซึ่งกว่าจะได้ออกมาเหมือนขนาดนี้ ต้องใช้เวลาในการลองผิดลองถูก และฝึกฝีมืออยู่ระยะหนึ่ง มีหน่วยงานของราชการมาช่วยสอนเพิ่มเติมจากการที่เราได้เรียนมา เช่น เดิมทิชชูมีสีขาว พอทำออกมาสีขาวไม่เหมือนจริง หน่วยงานที่เขาเข้ามาช่วยเหลือ แนะนำว่า ทำอย่างไรให้สีเหมือนของจริง ซึ่งมาจากกาวที่เคลือบไว้ทำให้ได้ดอกมะลิจากกระทิชชูที่เหมือนจริงจนแยกไม่ออกว่า อันไหนพวงมาลัยดอกไม้ และพวงไหนเป็นมาลัยดอกมะลิประดิษฐ์
จากอาชีพเสริมเป็นอาชีพหลัก
นางสาวเจนจิรา บอกว่า พอทำมาได้ระยะหนึ่ง จากอาชีพเสริมกลายมาเป็นอาชีพหลัก หลังจากได้ตัดสินใจลาออกจากงานและมุ่งมั่นทำพวงมาลัยดอกมะลิขายอย่างจริงจัง พร้อมกับการเปิดร้านขายที่เซ็นทรัล สมุทรสาคร และเห็นงานแบบนี้ น่าจะไปได้ นำไปขึ้นทะเบียน โอทอป ได้เป็นโอทอประดับ 5 ดาวของจังหวัดสมุทรสาคร ทำให้มีโอกาสเปิดช่องทางตลาดใหม่ พอหน่วยงานราชการจัดงานแสดงสินค้าโอทอป ก็จะมาเชิญเราไปร่วมออกบูทในฐานะเป็นโอทอปตัวแทนจังหวัดสมุทรสาคร และหน่วยงานที่เข้ามาส่งเสริม ได้มีการเชิญให้เราไปเป็นวิทยากรเปิดสอนให้กับคนที่สนใจ ที่ผ่านมา ได้เปิดสอนไปแล้วหลายรุ่น จากเดิมที่ไม่มีคนทำขาย ตอนนี้ ลูกศิษย์ที่เรียนไปจากเราก็เริ่มทำขายกันบ้างแล้ว
สำหรับการทำพวงมาลัยดอกไม้ประดิษฐ์ เราทำมาขายมาเกือบ 5 ปี ส่วนการกระจายงานให้กับชาวบ้านช่วยทำดอกมะลิ นั้น เริ่มมาเข้าปีที่ 3 โดยจ้างกลุ่มแม่บ้านในชุมชน ช่วยสร้างงานสร้างอาชีพ ซึ่งกลุ่มแม่บ้านที่ทำดอกมะลิมาส่งให้กับเรา มีรายได้เดือนละ 2,000-3,000 บาท ทำเป็นอาชีพเสริม ส่วนขั้นตอนการทำไม่ยาก แต่ใช้เวลา ทำหลายขั้นตอน วันหนึ่งทำได้ 30 ดอก ทำคนเดียว แต่ตัวดอกมะลิที่แม่บ้านเขามาส่งขาย บางส่วนมีส่งขายให้กับร้านทำบายสี มาซื้อต่อเพื่อนำไปทำบายสี ในอนาคตมีแผนที่จะต่อยอดจากพวงมาลัย ดอกมะลิ นำไปทำเป็นบายสี หรือ ปัจจุบันมีเพิ่มทำเป็นพวงมาลัยบ่าวสาว บ้าง เพราะบ่าวสาวบางคนก็อยากจะเก็บพวงมาลัยเอาไว้นาน ถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน ก็หันมาใช้พวงมาลัยดอกไม้ประดิษฐ์ของเรา หรือ พวงมาลัยสำหรับการบวชนาค ก็มีมาสั่งทำเช่นกัน
ยอดขายเทศกาลวันแม่ วันเดียวเกือบ 20,000 บาท
สำหรับการทำพวงมาลัยดอกมะลิในช่วงเทศกาล จะขายได้มากกว่าช่วงปกติมาก เช่น วันแม่แห่งชาติ ในปีที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายวันเดียว ได้เกือบ 20,000 บาท ทั้งที่สั่งไว้ล่วงหน้า และมาซื้อหน้าร้าน ที่ห้างเซ็นทรัล ซึ่งพวงมาลัยดอกมะลิที่ขายวันแม่ จะมีแพคเกจจิ้ง เป็นกล่องผูกโบ หรือ ถ้าเป็นพวงเล็ก ที่เด็กมาซื้อไปไว้แม่กัน พวงละ 99 บาท มีถุงผ้า ซึ่งถุงผ้าที่ได้มาจากชุมชน เป็นการช่วยเหลือผู้เย็บถุงผ้าในชุมชนด้วย ส่วนราคาพวงมาลัย ดอกมะลิจากกระดาษทิชชูอยู่ในราคาหลักร้อย เริ่มต้นที่ 99 บาท ไปจนถึง 499 บาท
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับกิจการอื่นๆ การขายหน้าร้าน หรือ ขายออนไลน์ ยอดขายลดลงหมดซึ่งน่าจะมาจาก การใช้เงินชะงัก ทุกอย่างหยุด หมด ช่วงเวลานั้น หันมาทำสต็อก เก็บไว้ รอขายในช่วงเทศกาล และช่วงโควิดมีรายได้จากการ ทำผ้าปิดจมูก ซึ่งด้วยตัวเองชอบทำงานฝีมือ หน้ากากที่ทำออกมาจะเอางานฝีมือที่ชอบใส่เข้าไป เช่น ปักเลื่อม ปักดอกไม้ ลูกค้า ที่มองหาหน้ากากใส่เป็นแฟชั่น บ้างก็จะมาเป็นลูกค้า และซื้อหน้ากากของเรา
นางสาวเจนจิรา กล่าวทิ้งท้าย ว่าคนที่เจอปัญหาตกงาน ไม่มีงานทำ ไม่ต้องกังวล เพราะบ้านเรามีอะไรอีกมากมายให้เราได้ทำ เพื่อหาเลี้ยงชีพ เช่น การที่เราเองออกจากงานประจำมา แม้ว่าจะมีรายได้ประจำไม่เท่ากับ การเป็นพนักงานออฟฟิศ แต่สิ่งที่ได้ คือ ความสบายใจ ที่ได้รับจากการทำในสิ่งที่เรารัก ถ้าเรารักจะทำมันออกมาได้ดี อาชีพเก่า มันแตกต่างเพียงแต่ว่างานประจำเราภูมิใจ ทุกเดือน เราได้แน่ แต่ตรงนี้ ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่เราทำแล้วมีความสุข แม้เงินจะน้อย พอค่าใช้จ่าย ถ้าทำงานประจำทุกเดือน แน่นอน ข้อเสียมีความเครียด คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก บางคนทิ้งเงินแสน มารับเงินหมื่น แต่มีความสบายใจ ก็มีมาแล้ว ดังนั้น การตกงานครั้งนี้ ไม่ต้องกลัว ถ้าเราเลือกลองทำสิ่งใหม่ หาช่องทางใหม่ในชีวิต มันอาจจะทำให้เรามีความสุข กว่างานที่เราเคยทำก็เป็นได้
ติดต่อ โทร.06-1532-2898
* * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager