xs
xsm
sm
md
lg

เปิดศึกหมึกย่าง ปลดหนี้ 2 ล้านจากกิจการขายของเก่าได้ ด้วย “หมึกย่าง”ช่วงโควิด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




“หมึกย่าง” กิจการเล็กๆ ที่ทำให้หลายๆ คนปลดหนี้เงินล้านมาแล้ว รวมถึง บางระจัน เปิดศึกหมึกย่าง ของ “นางสาวฐวรัท เฉลยชอบ” คนนี้ ที่เธอต้องเป็นหนี้ จากการประมูลกิจการรับซื้อของเก่าที่โรงพยาบาลจุฬา และช่วงที่สถานการณ์ของเก่า ราคาตกในช่วงปี 2562 ที่ผ่านมา ทำให้เธอต้องเป็นหนี้ ถึง 2 ล้านบาท



สำหรับผู้หญิงเก่งคนหนี้ เธอยังคงต้องสู้ต่อ ด้วยเงินก้อนสุดท้าย จำนวน 60,000 บาท มาเปิดร้านขายหมึกย่าง เพราะด้วยตัวเองเป็นคนชอบกินปลาหมึกย่าง ที่ไหนอร่อยเธอไปกินมาหมดแล้ว ทำให้เธอมั่นใจว่า เธอจะทำรสชาติหมึกย่างออกมาถูกใจลูกค้า และนำเงินก้อนสุดท้ายมาลงทุนเปิดร้านหมึกย่าง โดยเลือกขายในรถฟู้ดทรัคส์ และที่เลือกฟู้ดทรัคส์ เนื่องมาจากมีรถที่เคยทำของเก่าอยู่แล้ว ก็นำมาดัดแปลง


“ฐวรัท” เล่าว่า การทำปรับแต่งรถให้ออกมาเป็นฟู้ดทรัคส์ ต้องใช้เงินหลักแสน แต่เราไม่มีเงินก็เลยให้ ลูกน้องที่ทำร้านขายของเก่า ช่วยทำให้น้องๆไปเช็คราคาแผ่นอลูมิเนียม ราคาค่อนข้างสูงแผ่นหนึ่งประมาณ 2,800 บาท ก็เลยปรึกษากันว่า ถ้าไม่ใช้แผ่นอลูมิเนียม จะใช้อะไรได้ ออกมาเป็นไม้ไผ่ เป็นซุ้มไม้ไผ่ใช้เงินแค่ 280 บาท ถูกกว่าเยอะมาก ก็เลยเป็นที่มาของ “บางระจัน เปิดศึกหมึกย่าง” เพราะทำจากไม้ไผ่ดูโบราณ และเวลาไปขายแต่งตัวย้อนยุคตะเบงมานของสาวในยุคบางระจัน เรียกความสนใจให้กับผู้ที่พบเห็นครั้งแรก ได้เป็นอย่างดี แต่อะไรไม่สำคัญเท่ากับรสชาติของปลาหมึกย่าง และน้ำจิ้ม ที่เราให้ความสำคัญมากกว่า


โดย “ฐวรัท” หรือ “ปู” เธอได้ทุ่มเทกับการทำน้ำจิ้มให้ออกมาถูกใจลูกค้าที่สุด ทดลองทำและเททิ้งหลายรอบกว่าจะได้ออกมาขายจริง และไม่ผิดหวัง เพราะหลายคนที่ได้มาซื้อครั้งแรก ก็จะกลับมาซื้ออีกหลายๆ ครั้ง จนทำให้วันนี้ เธอสามารถนำเก็บเงิน มาต่อยอดขยายสาขาได้ ถึง 4 สาขา ภายในระยะเวลา 4-5 เดือน และเตรียมเปิดสาขาที่ 5ในสัปดาห์นี้ที่ตลาดนกฮูก เลี่ยงเมืองนนทบุรี


นอกจากการล้มเหลวในกิจการขายของเก่า สิ่งที่ฐวรัท เจอหลังจากเปิดร้านเพียงแค่เดือนเดียว คือ สถานการณ์โรคโควิด-19 แต่ในวิกฤตกลับเป็นโอกาส เพราะยอดขายเพิ่มเท่าตัว ทำให้สามารถขยายสาขาได้ เพราะโควิด เนื่องจากร้านอาหารปิดกิจการในช่วงนั้น เป็นโอกาสทำให้คนไม่ได้มีทางเลือกมากนัก ปลาหมึกย่างของเธอกลายเป็นทางเลือกและขายดีมาก

“สำหรับยอดขายในช่วงสถานการณ์โควิด ต่อสาขามีรายได้ตั้งแต่ 7,000 บาท ถึง 9,000 บาท แต่พอสถานการณ์กลับมาปกติ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า เปิดให้บริการเต็มที่ ยอดขายหายไปครึ่งหนึ่ง เหลือ ต่อสาขา 4,000-5,000 บาท แต่ยอดขายที่ลดลงวันนี้ ไม่ได้สำคัญ เพราะวันนี้ ปูมีรายได้จากการขายปลาหมึกทุกสาขามากพอที่เราจะปลดหนี้ 2 ล้านบาท นี้ได้ และถ้าขยายสาขาไปหลายสาขา กำไรต้องมาขึ้น เพราะตั้งแต่ปูเปิดมาทั้ง 4 สาขา ยังไม่มีสาขาไหนขาดทุนเลย อย่างน้อยไม่ได้เลยหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วเหลือวันละไม่ต่ำกว่า 500 บาท”


ทั้งนี้ “ปู” ยังเตรียมขยายสาขาเพิ่ม จุดเริ่มต้นที่ต้องขยายสาขามาจากพนักงานที่ต้องถูกเลิกจ้าง จากร้านขายของเก่า เขาไม่มีงานทำ ก็เลยคิดว่าถ้าอย่างนั้น ก็หางานให้ทำ โดยส่งให้เขาไปดูแลแต่ละสาขา และการมีหลายสาขาทำให้สามารถกระจายวัตถุดิบ ที่ต้องสั่งเข้ามาตามจำนวนที่ทางไต๋เรือ จะจัดส่งให้เราได้ในราคาที่ไม่แพงมาก ซึ่งการทำปลาหมึกย่าง หัวใจสำคัญ คือ หมึกสด และการที่เราซื้อจากเรือที่เขาเข้าฝั่งทุกวัน ดีกว่าไปซื้อจากเรือลำใหญ่ ที่เขากว่าจะกลับเข้าฝั่งก็ต้อง 15 วัน ปลาหมึกไม่สด ทำให้ปลาหมึกของเรา ต้นทุนค่อนข้างสูง แต่ด้วยส่วนตัวเป็นคนชอบกินปลาหมึก อยากให้ลูกค้าได้กินปลาหมึกที่รสชาติดีเหมือนอย่างที่ตัวเราเองชอบ

ปัจจุบัน เปิดศึกหมึกย่าง ทั้ง 4 สาขา ขายปลาหมึกได้ประมาณ 700 ไม้ ราคาปลาหมึกเริ่มต้นที่ไม้ละ 25 บาท นอกจากขายหน้าร้าน ได้ร่วมกับบริการฟูดเดลิเวอรี่ ด้วย ส่วนกิจการขายของเก่า เลิกทำไปเมื่อตอนมีสถานการณ์โควิด เพราะของเก่าที่รับซื้อมาจากหลายที่ หลายบ้าน ไม่รู้ว่าจะมีอะไรปนเปื้อนมาหรือเปล่า ก็เลยปิดกิจการไปเลย และพอดีช่วงนั้น กิจการปลาหมึกย่างก็กำลังไปได้ดี ก็เลยหันมาโฟกัสทางนี้แทน


“ฐวรัท” เล่าว่า ตนเองอยู่ในธุรกิจการขายของเก่ามา นานถึง 12 ปี มีลูกน้องประมาณ 20 คน เคยมีรายได้ต่อเดือนหลักแสน หลักล้านบาท มีความรู้เรื่องของเก่าพอสมควร และที่พลาดครั้งนี้ มาจากเงินทุ่มกับการจะไปประมูลของเก่าจากโรงพยาบาลจุฬา โดยไม่ได้สนใจการซื้อขายของเก่า หน้าร้าน ทั้งที่ หน้าร้านมีคนเอาของเก่ามาขายเยอะ พอพลาดและเป็นช่วงที่ราคาของเก่า ราคาตกมาก เงินเก็บที่มีอยู่เริ่มหมดไป เจอโควิดไม่กล้ารับซื้อของเก่า เพราะไม่รู้ว่า ของที่ซื้อมาปนเปื้อนอะไรมาบ้าง ทำให้เราล้มแบบต้องเลิกกิจการ

การมาขายปลาหมึกครั้งนี้ เหมือนเป็นทางเลือก ที่คิดว่าลงทุนน้อย ซึ่งไม่รู้ว่าจะขายได้ไหม เพราะไม่เคยขายของกินมาก่อน แต่สิ่งเดียวที่เรามี คือ มั่นใจว่าอาหารของเราอร่อย ก็เลยลุยเดินหน้าต่อ ขายวันแรกขายไม่ได้ เยอะ แต่ก็มีลูกค้ามาซื้อ และกลับมาซื้อในวันถัดไป ก็เลยรู้ว่า ปลาหมึกของเราอร่อย และไปได้ แม้ว่าจะต้องรอนาน เพราะจะไม่ปิ้งเอาไว้ จะปิ้งตอนที่ลูกค้ามาสั่ง ซึ่งอาจจะต้องรอนาน แต่ลูกค้าจะได้ปลาหมึกที่ปิ้งใหม่ รสชาติดีกว่าปลาหมึกที่ปิ้งค้างไว้หลายชั่วโมง ส่วนผลตอบแทนของการขายปลาหมึกต้องบอกค่อนข้างดีมาก อยู่ที่ คือ 100% หมายถึงลงทุน 100 บาท ได้กำไร 100 บาท


บทสรุป

เปิดศึกหมีกย่างในครั้งนี้ อาจจะเป็นบทเรียนให้คนที่กำลังเผชิญปัญหาได้มีกำลังใจ เพราะสิ่งที่ “คุณฐวรัท” ต้องเผชิญหนักหนาสาหัสเช่นกัน แต่สิ่งแรกที่เขาคิดได้ คือ อย่าดูถูกเงินน้อย แม้ว่าจะขายปลาหมึกรถเข็นไม้ละ 25 บาท ถ้าขายได้เยอะและขายได้ทุกวัน มันก็ทำให้เขาปลดหนี้เงินล้านได้เช่นกัน

จากวิกฤต ได้สร้างโอกาสให้กับหลายกิจการ ที่เคยได้นำเสนอไปแล้ว รวมถึง ร้านหมีกย่าง ร้านนี้ ได้รับอานิสงส์ของโควิด ทำให้ร้านอาหารปิดให้บริการในช่วงนั้น คนมีทางเลือกน้อยลง ทำให้หลายคนหันมากินหมึกย่าง ขายได้มากในช่วงนั้น

ทุกคนมีโอกาสที่จะล้มเท่ากันในช่วงวิกฤตเช่นนี้ แต่ถ้าไม่ยอมแพ้ก็จะลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้มีคนที่ล้ม เหมือนกับเจ้าของร้านขายของเก่ารายนี้ แต่สิ่งสำคัญ คือเขาไม่ยอมแพ้ เมื่อล้มได้ก็ต้องลุกขึ้นมาให้ได้แบบรวดเร็ว และประสบความสำเร็จได้อีกครั้ง

ติดต่อ FB: เปิดศึกหมึกย่าง









** * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุดและร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *

SMEs manager




กำลังโหลดความคิดเห็น