จากวิสัยทัศน์ของเทศบาลเมืองแสนสุขที่ต้องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของบางแสน ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของพื้นที่ซึ่งเชื่อมโยงสู่เศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศ นำไปสู่การหารือเพื่อหาแนวทางการดำเนินงานให้เกิดผลในเชิงปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. ที่มีประสบการณ์การบริหารงานวิจัยและพัฒนาในทุกสาขา จึงเกิดเป็นความร่วมมือใน “การยกระดับบางแสนเป็น Zero waste beach แห่งแรกของประเทศ”
โดยมอบหมายให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือ มก. ดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปประยุกต์ ติดตั้ง และดำเนินการจัดการปัญหาขยะในพื้นที่แบบเบ็ดเสร็จ โดยแบ่งการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือ ดังนี้
1. นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ผ่านการวิจัยแล้วและสามารถดำเนินการได้จริงภายใต้การสนับสนุนของ วช.ไปประยุกต์ ติดตั้ง และใช้งานในพื้นที่เทศบาลเมืองแสนสุข
1.1 เปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของนักท่องเที่ยว โดยไม่ใช้สินค้าครั้งเดียวทิ้ง (Single-used) ร่วมมือกับเอกชนในพื้นที่ส่งเสริมการบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งหลอด ถุง และอื่นๆ
1.2 เพื่อลดการเกิดขยะในพื้นที่ โดยการนำขยะไปใช้ประโยชน์ เช่น ทำกระเบื้อง ขอบถนน วัสดุมวลเบา อิฐตัวหนอน และกระถางต้นไม้
1.3 เพื่อลดขยะตกค้างจากบริเวณชายหาดบางแสน เช่น การใช้อุปกรณ์กวาดขยะชายหาด ประยุกต์ใช้ตาข่ายในการดักขยะจากท่อในพื้นที่
1.4 เพื่อกำจัดขยะตกค้างในพื้นที่กำจัดขยะ เช่น การทำก้อนเชื้อเพลิง (RDF) การทำน้ำมันเชื้อเพลิงจากขยะพลาสติก
1.5 เพื่อกำจัดขยะหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วซึ่งถือเป็นขยะติดเชื้อ โดยดำเนินการตามคำแนะนำของกรมควบคุมมลพิษ โดยกำหนดจุดทิ้งขยะหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วออกจากขยะอื่นๆ โดยมีข้อความระบุชัดเจนเพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี
2. การวิจัยเพื่อตอบปัญหาเชิงพื้นที่
2.1 การประเมินปริมาณขยะบริเวณชายหาดในช่วงฤดูมรสุม
2.2 การกำจัดขยะที่ลอยในทะเลในบริเวณพื้นที่ที่มีคลื่นกระแทก โดยใช้เรือเก็บขยะในทะเลไร้คนขับ
2.3 เทคโนโลยีการเก็บขยะตกค้างบริเวณชายหาดที่เป็นโคลนและโขดหิน
2.4 วิจัยพัฒนาถังขยะอัจฉริยะ เพื่อแยกขยะแต่ละประเภท
3. แนวทางการบริหารจัดการขยะพื้นที่ในระยะยาว โดยนำผลการดำเนินงานทั้งหมดมาจัดทำนโยบาย แผนงานและมาตรการเพื่อเป็นแนวทางให้เทศบาลเมืองแสนสุขในการจัดการและกำหนดงบประมาณในการดำเนินงานในระยะยาว
การดำเนินงานตามกรอบความร่วมมือในระยะ 1 ปี จะสามารถจัดการขยะในเทศบาลเมืองแสนสุขได้อย่างเบ็ดเสร็จ โดยอาศัยกลไกความร่วมมือของร้านค้าและผู้ประกอบการในพื้นที่ ใช้สถาบันการศึกษาท้องถิ่นเป็นหน่วยงานดำเนินงานเป็นพี่เลี้ยงให้กับท้องถิ่น และการประสานงานของทุกภาคส่วนผ่านการทำงานของเทศบาลเมืองแสนสุข