กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ให้มีเงินทุนหมุนเวียนประกอบอาชีพอย่างต่อเนื่อง พร้อมใช้จ่ายในครอบครัว นำไม้ยืนต้นที่มีค่ามาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันขอสินเชื่อ ตาม พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจฯ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เกษตรกรที่มีไม้ยืนต้นที่มีค่า สนใจติดต่อ ธ.ก.ส. ทุกสาขา ทั่วประเทศ
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับไม้ยืนต้นที่มีค่ามาจดทะเบียนเป็นหลักประกันทางธุรกิจ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ พร้อมทั้งใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่ง ธ.ก.ส.เป็น ‘ธนาคารแรก’ ที่เกษตรกรสามารถใช้ไม้ยืนต้นที่มีค่ามาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงินตาม พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจฯ”
เบื้องต้น ธ.ก.ส.ได้นำร่องให้สินเชื่อแก่เกษตรกรที่มีการนำไม้ยืนต้นที่มีค่าที่ปลูกในบริเวณบ้านจำนวน 44 ต้น ประกอบด้วย มะขาม (9 ต้น) มะกอกป่า (1 ต้น) สะเดา (14 ต้น) ตะโก (1 ต้น) โมกมัน (1 ต้น) งิ้วป่า (1 ต้น) กระท้อน (1 ต้น) มะเกลือ (2 ต้น) ยอป่า (1 ต้น) มะม่วง (1 ต้น) และไม้แดง (12 ต้น) มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงินในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีไปแล้ว วงเงินสินเชื่อจำนวน 115,000 บาท ซึ่งนับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่สถาบันการเงินให้ความสำคัญต่อการใช้ไม้ยืนต้นที่มีค่ามาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ และเกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น
รมช.พณ.กล่าวเพิ่มเติมว่า “เกษตรกรที่ต้องการกู้เงินและใช้ไม้ยืนต้นที่มีค่ามาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันต้องเป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. และเป็นสมาชิกธนาคารต้นไม้ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งขั้นตอนการกู้เงินเป็นไปตามระเบียบของ ธ.ก.ส. ไม่มีความยุ่งยากซับซ้อน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนท่ามกลางวิกฤตที่เกิดขึ้น”
“กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้ไม้ยืนต้นเป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจได้ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 โดยมีแนวทางส่งเสริมให้ใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจทั้งเชิงพาณิชย์ รวมทั้งส่งเสริมเชิงอนุรักษ์ผ่าน ธ.ก.ส. เนื่องจากเป็นธนาคารที่มีการดำเนิน ‘โครงการธนาคารต้นไม้’ ซึ่งกรมฯ และ ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการนำร่อง ณ ศูนย์เรียนรู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ บ้านดอนศาลเจ้า อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี โดย ธ.ก.ส.ให้ผู้ที่ผ่านการอบรมผู้ประเมินมูลค่าต้นไม้ของ ธ.ก.ส.เป็นผู้ประเมินราคาต้นไม้ของเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ด้วย ทำให้การนำไม้ยืนต้นที่มีค่ามาเป็นหลักประกันทางธุรกิจสามารถดำเนินได้อย่างสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะมีการขยายโครงการดังกล่าวให้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศอีกด้วย”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร. 0-2547-4944 สายด่วน 1570 www.dbd.go.th และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขาทั่วประเทศ
** * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager