หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 (COVID - 19) ที่ได้สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างแก่ทุกสาขาอาชีพ เนื่องจากทางรัฐได้มีการออกมาตรการขอความร่วมมือ ในการให้ประชาชนอยู่บ้าน และมีการปิดสถานประกอบการหลายแห่ง “ธุรกิจขายดอกไม้” ย่านปากคลองตลาด ก็นับเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากสถานการณ์ในช่วงนี้
ในช่วงเวลาปกติแล้ว “ย่านปากคลองตลาด” ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในย่านค้าขายดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพมหานคร มีดอกไม้นานาชนิดให้ได้เลือกชมเลือกซื้อ พร้อมกับบรรยากาศการค้าขายที่คึกคักเกือบตลอดเวลา แต่หลังจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ก็ได้ทำให้ย่านค้าขายดอกไม้แห่งนี้ เปลี่ยนไปอย่างมาก โดยเฉพาะยอดขายและราคาของดอกไม้ที่ลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้ผู้ประกอบการร้านขายดอกไม้ได้รับผลกระทบกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม่ค้า “ร้านกิมเซง” ขายดอกกล้วยไม้ ได้กล่าวว่า เป็นปีที่ยอดขายและรายได้ลดลงอย่างมาก โดยปกติแล้วทางร้านจะขายดอกกล้วยไม้ให้กับทางโรงแรม เพื่อที่จะนำไปประดับตกแต่งภายในโรงแรม หรือลูกค้าที่เป็นออแกไนซ์เซอร์ ที่ใช้กล้วยไม้ในการตกแต่งงานเว้นท์ แต่หลังจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส จนทำให้ให้โรงแรมหลายแห่งปิดให้บริการ และทางออแกไนซ์เซอร์ไม่สามารถจัดงานต่างๆ ได้ ทำให้ยอดขายดอกกล้วยไม้ลดลงอย่างมาก ในช่วงปกติสามารถขายได้ 40 – 100 มัด ต่อวัน ในตอนนี้บางวันไม่สามารถขายได้เลย บางวันต้องทิ้งดอกไม้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งราคาก็ยังต้องลดลง จากปกติขายกำละ 50 - 60 บาท ปัจจุบันนี้ อยู่ที่กำละ 10 – 25 บาท จึงทำให้รายได้ลดลงไปอย่างมาก
ด้านแม่ค้าร้านขายดอกคาเนชั่น กล่าวว่า ราคาดอกไม้ในปีนี้ ลดลงไปอย่างมาก จากช่วงปกติ ราคาดอกคาเนชั่นจะอยู่ที่กำละ 80 - 90 บาท ปัจจุบันนี้ราคาเหลือเพียง 50 บาท แม้ราคาดอกไม้จะถูกลง แต่ยอดขายก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น เพราะลูกค้าหายไปเกือบ 90 เปอร์เซ็นเลยก็ว่าได้ แต่ทางร้านก็ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการขาย ผ่านทางช่องทางออนไลน์ แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเหมือนกับช่วงปกติได้
และในด้านพ่อค้าร้านขายดอกดาวเรือง ให้ข้อมูลว่า ปกติในช่วงนี้ของทุกๆ ปี จะเป็นช่วงทำราคาของดอกดาวเรือง เนื่องจากเป็นช่วงสองเทศกาลใหญ่คือ “เทศกาลเช็งเม้ง” และ “เทศกาลสงกรานต์” ความต้องการดอกไม้จะสูง ราคาในช่วงนี้ของทุกปี ดอกดาวเรืองจะอยู่ที่ 100 – 120 บาท ต่อ 1 ถุง 1 ถุง มี 100 ดอก แต่ในปัจจุบันนี้ ราคาอยู่ที่ 40 – 50 บาท ซึ่งถือว่าราคาลดลงครึ่งต่อครึ่ง อีกทั้งทางร้านยังต้องมีการปรับเปลี่ยนการส่งให้เร็วขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีการประกาศเคอร์ฟิว จากปกติดอกไม้จะมาส่งช่วงประมาณ 4 – 5 ทุ่ม ตอนนี้ต้องเปลี่ยนมาส่งเป็นช่วง 1 -2 ทุ่ม ซึ่งมีปัญหาคือ อากาศในช่วงเวลานั้นยังคงร้อนอยู่ จึงทำให้ดอกไม้เฉาเร็วขึ้น เป็นอีกหนึ่งผลกระทบที่ได้รับในช่วงนี้
นับได้ว่าสถานการณ์ในช่วงนี้ สร้างผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่วงการค้าขายดอกไม้ ภาระที่หนักขึ้นและยอดขายที่ลดลง เหล่าพ่อค้าแม่ค้าก็หวังว่าทุกๆ อย่าง จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมในเร็ววัน
** * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุดและร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *