เมื่อลูกหลานมังกรแห่งเยาวราชผงาด ชั้นเชิงทางธุรกิจย่อมไม่ธรรมดาล่าสุดทุ่มทุนสร้างศูนย์การค้าสุดยิ่งใหญ่ "แอมไชน่าทาวน์" (I'm Chinatown) บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่ใจกลางเยาวราช พรั่งพร้อมไปด้วย ห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียมและโรงแรมแบบเต็มรูปแบบเรียกได้ว่าเป็นมิกซ์ยูสแห่งใหม่ ที่ครบครันความทันสมัยสอดรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวต่างชาติแต่ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมแห่งถนนสายมังกรไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
สร้างความฮือฮาไม่น้อยสำหรับ 'ห้าง' แห่งแรกใจกลางเยาวราชของทายาทลูกหลานมังกรที่เกิดและเติบโตในย่านนี้ อย่าง "นายสุวรรณ เลิศปัญญาโรจน์" กรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งโครงการแอมไชน่าทาวน์ บริษัทไอแอมไชน่าทาวน์จำกัด "นายกฤษดา กวีญาณ" กรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งโครงการไชน่าทาวน์ และ CEO ผู้ก่อตั้ง บริษัท อัลทัส แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ส จำกัด และ "นายพาวัน กิดวะนิ" กรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งโครงการแอมไชน่าทาวน์ และผู้ก่อตั้ง บริษัท อัลทัสแคปปิตอล พาร์ทเนอร์ส จำกัด ขอร่วมพัฒนาถิ่นฐานบ้านเกิด พัฒนาศักยภาพด้านเศรษฐกิจให้คึกคักกับโครงการแอมไชน่าทาวน์
หากย้อนไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ไลฟ์สไตล์ของผู้คน ในย่านเยาวราช ได้เปลี่ยนแปลงไป อย่างเห็นได้ชัด ทั้งคนรุ่นใหม่ที่กลับมาช่วยครอบครัวค้าขาย รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้นในขณะที่เยาวราชยังไม่มี ‘จุดนัดพบ’หรือสถานที่ ให้นักท่องเที่ยว ได้นั่งพัก ผ่อนคลายหลังการชอปปิ้ง รวมถึงยังไม่มีร้านอาหารที่หลากหลายให้เลือกสรร ซึ่งห้างหรือศูนย์การค้าจึงเป็นคำตอบที่ใช่ที่สุด
นายสุวรรณ เผยว่า เยาวราชถือเป็นทำเลศักยภาพอันดับต้นๆ ของเมืองไทยซึ่งนอกจากจะมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมีวิถีชีวิตที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวแล้ว ยังเป็นแหล่งธุรกิจที่มีเอกลักษณ์จนได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนสายมังกรของเมืองไทย ดังนั้นจึงมีดีมานด์สูงทั้งในด้านที่อยู่อาศัยการค้าขายตลอดจนเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจมาพักอาศัยอยู่ในย่านนี้เป็นจำนวนมากประกอบกับในปัจจุบันการเดินทางมายังเยาวราชได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นจากการ เปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค ถือเป็นการเปิดประตูใหม่ ให้ผู้คนสามารถเข้าถึงเยาวราชได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจัยที่กล่าวมาล้วนเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ศูนย์การค้าแอมไชน่าทาวน์จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นอย่างดีและกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของย่านเยาวราชในอนาคตอันใกล้นี้ได้ไม่ยาก
"จุดเด่นของแอมไชน่าทาวน์ ผมพูดได้เลยว่าคือทำเลหรือโลเคชั่น เพราะเราไม่ต้องไปหาลูกค้าแต่ลูกค้ามีมาถึงหน้าบ้านดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ หาสิ่งที่ตอบโจทย์กับพฤติกรรมลูกค้าให้ตรงจุด ผมจึงใช้ความได้เปรียบของการเป็นทายาทมังกรที่เกิดและเติบโตในย่านนี้ เห็นความเปลี่ยนแปลง และพฤติกรรมผู้บริโภคมาโดยตลอดนำมาปรับใช้จนก่อเกิดเป็นแอมไชน่าทาวน์"
สำหรับโครงการแอมไชน่าทาวน์ นายกฤษฎา ให้ข้อมูลว่า เป็นโครงการมิกซ์ยูสสไตล์ Modern Chinese แห่งใหม่ของย่านเยาวราชที่รวมทั้งศูนย์การค้าคอนโดมิเนียม และโรงแรมแนวคิดใหม่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ภายใต้การบริหารงานโดยเครือโรงแรมชั้นนำเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์พร้อมเชื่อมทุกชีวิตสู่ไชน่าทาวน์อย่างมีสีสันในหลากหลายมิติ กลายเป็นมนต์เสน่ห์แห่งเยาวราช ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์ย่านเยาวราชอย่างใกล้ชิด สร้างสีสันด้วยความแปลกใหม่จากตัวเลือกร้านค้าชั้นนำพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐาน
เริ่มจาก "ศูนย์การค้าแอมไชน่าทาวน์" ตั้งอยู่ในโครงการมิกซ์ยูสบนพื้นที่ขนาด 400 ตารางเมตรหรือ กว่า 3 ไร่ บนถนนเจริญกรุง และมีที่ตั้งโดดเด่นห่างจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT วัดมังกรกมลาวาส เพียงแค่ 1 นาที ออกแบบในสไตล์ Modern Chinese ที่ยังคงอัตลักษณ์ของย่านเยาวราชไว้อย่างเหนียวแน่น แต่เพิ่มความทันสมัยให้สอดคล้องกับสังคมยุคใหม่มากยิ่งขึ้น
โดยคัดสรรร้านค้าคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำและเน้นการผสมผสานสินค้าและบริการให้มีความหลากหลายในแบบ Asian Modern Design รวมถึงนำร้านอาหารสตรีทฟู้ดมาไว้ในศูนย์การค้าแห่งนี้ด้วย เพื่อตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่เป็นทั้งคนที่มาเที่ยวหรือช้อปปิ้งในย่านเยาวราช บรรดาพ่อค้าแม่ค้า นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจชาวต่างชาติ ครอบคลุมพื้นที่ตลอด 4 ชั้นโดยมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 80 ล้านค้าคิดเป็นพื้นที่พาณิชย์กว่า 10,000 ตารางเมตร
นอกจากนี้ ยังมีความโดดเด่นในเรื่องพื้นที่ของอาคารจอดรถที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้บริการของโครงการและประชาชนที่จะเดินทางมาไชน่าทาวน์ โดยเป็นอาคารจอดรถขนาดใหญ่ และทันสมัยที่สุดในย่านไชน่าทาวน์ เป็นอาคารจอดรถชั้นใต้ดิน ลึกลงไป 6 ชั้นรองรับ การให้บริการที่จอดรถจำนวน 300 คัน
ในส่วนของ "คอนโดมิเนียม" ซึ่งใช้ชื่อว่า "แอมไชน่าทาวน์เรสซิเดนซ์" เป็นโครงการคอนโดมิเนียมตกแต่งพร้อมเข้าอยู่สูง 8 ชั้นมีขนาดพื้นที่ใช้สอย 20-25 ตารางเมตรจำนวน 43 ยูนิต ปัจจุบันสามารถปิดการขายโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 63 โดยพบว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นนักลงทุนและ ลูกหลานชาวเยาวราช ที่เมื่อครอบครัวขยายขึ้นก็ต้องการที่อยู่อาศัยตามมา ดังนั้นคอนโดมิเนียมถือว่าตอบโจทย์ได้ตรงจุด
ขณะที่ในส่วน "โรงแรม" เป็นโครงการร่วมมือกันระหว่างโรงแรม เครือ 'ดุสิต' เป็นโรงแรมเจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ เน้นการเข้าถึงวิถีชุมชน หรือ ‘Live Local’ มีจำนวนห้องทั้งสิ้น 224 ห้องให้บริการตั้งแต่ชั้น 4-8 ของศูนย์การค้า โดยคาดว่า 40% จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน รองลงมาจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี และยุโรป
แม้จะเป็นสิ่งใหม่ที่เข้ามา เป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของคนชุมชนชาวเยาวราชแต่ก็ดูไม่เคอะเขินเพราะหลังจากที่ได้ทดลองเปิดให้บริการ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 62 ที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับดีจากผู้คนในชุมชน แม้พื้นที่บางส่วนยังไม่ได้เปิดให้บริการเต็ม 100 % แต่ก็มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 10,000 คน/วัน คาดว่าเมื่อโครงการมิกซ์ยูสแห่งนี้เปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบจะลูกค้าเข้ามาบริการกว่า 20,000 คน/วัน
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
