xs
xsm
sm
md
lg

กรมพัฒน์ เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจ ม.ค.- พ.ย.62 เลิกกิจการ16,463 ราย จัดตั้งใหม่กว่า 6 หมื่นราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยตัวเลขจดทะเบียนธุรกิจ ม.ค.-พ.ย.2562 จัดตั้งใหม่ 68,327 ราย เพิ่มขึ้นช่วงเดียวกันปี 2561 จำนวน 68,007 ราย มูลค่าธุรกิจจัดตั้งใหม่ ม.ค.-พ.ย.62 จำนวน 306,013 ล้านบาท ส่วนธุรกิจที่เลิกกิจการ ม.ค.-พ.ย.62 จำนวน 16,463 รายมูลค่าเลิกกิจการจำนวน 90,368 ล้านบาท ธุรกิจเลิกกิจการสูงสุด ธุรกิจก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ร้านอาหารภัตตาคาร

นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือนพฤศจิกายน 2562 จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ ในเดือนพฤศจิกายน 2562 จำนวน 4,968 ราย รวมจำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – พ.ย. 62 มีจำนวน 68,327 ราย โดยเพิ่มขึ้นใกล้เคียงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – พ.ย. 61) จำนวน 68,007 ราย

สำหรับ ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 486 ราย คิดเป็น ร้อยละ 10 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 334 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร จำนวน 174 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 ตามลำดับโดย มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ ในเดือนพฤศจิกายน 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 21,395 ล้านบาท รวมมูลค่าทุน จดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – พ.ย. 62 มีจำนวน 306,013 ล้านบาท

ในส่วน ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 3,366 ราย คิดเป็นร้อยละ 67.76 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,487 ราย คิดเป็นร้อยละ 29.93 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 99 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.99 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 16 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.32 ตามลำดับ

ทั้งนี้ ธุรกิจเลิกประกอบกิจการ เดือนพฤศจิกายน มีจำนวน 2,393 ราย รวมจำนวนธุรกิจเลิกสะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – พ.ย. 62 มีจำนวน 16,463 ราย ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – พ.ย. 61) ซึ่งมีจำนวน 16,264 ราย ส่วนประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 203 ราย คิดเป็นร้อยละ 8 รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 148 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 62 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ตามลำดับ

สำหรับ มูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ในเดือนพฤศจิกายน 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 7,409 ล้านบาท รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนธุรกิจเลิกสะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – พ.ย. 62 มีจำนวน 90,368 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1,651 ราย คิดเป็นร้อยละ 68.99 รองลงมาคือช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 628 ราย คิดเป็นร้อยละ 26.24 ลำดับถัดไปคือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 104 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.35 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 10 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.42 ตามลำดับ

สำหรับธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนพฤศจิกายน ธุรกิจที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน748,942 ราย มูลค่าทุน 18.24 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด / ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 184,855 ราย คิดเป็นร้อยละ 24.68 บริษัทจำกัด จำนวน 562,828 ราย คิดเป็นร้อยละ 75.15 และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,259 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.17 ตามลำดับ

ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 442,960 ราย คิดเป็นร้อยละ 59.15 รวมมูลค่าทุน 0.39 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.14 รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 219,698 ราย คิดเป็นร้อยละ 29.33 รวมมูลค่าทุน 0.72 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.95 รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 70,821 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.46 รวมมูลค่าทุน 1.92 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.52 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 15,463 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.06 รวมมูลค่าทุน 15.21 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 83.39 ตามลำดับ


แนวโน้มของการจัดตั้งธุรกิจตลอดปี 2562 เมื่อประเมินจากสถานการณ์การจดทะเบียนและ สภาพเศรษฐกิจ คาดว่า สถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจจะมีจำนวนใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา (ประมาณ 72,000 ราย) เดือนพฤศจิกายน 2562 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 56 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 22 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 34 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 18,011 ล้านบาท


นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 21 ราย เงินลงทุน 8,534 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 11 ราย เงินลงทุน 567 ล้านบาท และมาเลเซีย 4 ราย เงินลงทุน 126 ล้านบาท โดย เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2562 คนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ จำนวน 561 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 185,829 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปรากฏว่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 73,283 ล้านบาท (65%) เนื่องจากใน ปี 62 มีต่างชาติลงทุนประกอบธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง อาทิ บริการขุดเจาะปิโตรเลียม บริการออกแบบทางวิศวกรรมและบริหารจัดการโครงการรื้อถอนแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในทะเล บริการออกแบบติดตั้ง ตรวจสอบ ทดสอบ และบริหารจัดการโครงการประตูกั้นชานชาลาแบบครึ่งความสูง เป็นต้น



* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *



กำลังโหลดความคิดเห็น