หากพูดถึงเครื่องดื่มชาเพื่อสุขภาพ หลายคนคงนึกถึงกลุ่มผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นช่วงอายุใดก็ตาม ต่างหันมาดื่มชากันมากขึ้น เช่นเดียวกับ “กันต์โตะ” ที่เริ่มจากความหลงใหลชา เกิดการหาข้อมูล คิดค้น และพัฒนา จนกลายมาเป็นธุรกิจชาเพื่อสุขภาพเจ้าใหญ่เมืองเชียงใหม่
ณภัทรารัตน์ วิพุธกษมานนท์ เจ้าของธุรกิจชาแบรนด์ กันต์โตะ บริษัท KANTO HERBTECH CO.,LTD. เล่าว่า ธุรกิจนี้เริ่มจากแฟนหนุ่มของตน เริ่มสนใจในชา จึงเริ่มศึกษาและหาข้อมูล จึงเกิดความหลงใหล ทำให้พัฒนาและต่อยอดเป็นชาสูตรต่างๆ โดยใช้เวลาอยู่นานกว่า 2 ปี จึงต่อยอดไปในเชิงธุรกิจ ช่วงแรกจะเป็นการผลิตและขายเองในร้านขายของฝาก ในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมขายในช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ และหลังจากธุรกิจเริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โรงงานก็ได้รับการตรวจผ่านจากมาตรฐานการผลิต จึงสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มลูกค้าได้ พร้อมทั้งรับ OEM ให้กับรายอื่นๆ มากถึง 30 – 40 ราย กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้ปัจจุบันธุรกิจชา สามารถอยู่มาได้ถึง 15 ปี
ส่วนวัตถุดิบชาที่ใช้ในการผลิต จะเป็นการรับจากชาลูกไร่ในภาคเหนือ และภาคกลาง แต่จะมีบางส่วนที่ประเทศไทยไม่สามารถผลิตได้ จึงเริ่มรับมาจากประเทศจีน ส่วนวัตถุดิบที่ใช้จากภายในประเทศที่รับมา ก็จะรับมาจากลูกไร่ ที่สามารถปลูกตามเกณฑ์ที่ทางบริษัทได้กำหนดไว้ คือ ไม่ใช้ย่าฆ่าแมลง ทำให้วัตถุดิบที่ได้มาสวยงาม สีไม่ซีด ไม่ขึ้นรา ไม่มีความชื้น เป็นต้น ทางบริษัทจะคัดเลือกวัตถุดิบชามาจากลูกไร่เท่านั้น ไม่ได้รับซื้อจากตลาดทั่วไป ที่ควบคุมกระบวนการผลิตไม่ได้
“ก่อนที่เราจะมาเริ่มธุรกิจตรงนี้ มาจากแม่ขายแหนมหม้อ เป็นของฝากที่จังหวัดเชียงใหม่ แล้วแฟนก็ไปด้วย แล้วในช่วงนั้นตลาดชาที่สามารถหาดื่มได้ก็จะมีเพียง 3 ชนิดเท่านั้น คือชาเขียว ชาอู่หลง ชาโสม ที่มีขายในตลาดของฝากในเชียงใหม่ ประจวบเหมาะกับที่เป็นคนชอบดื่มชาอยู่แล้ว ก็เลยเริ่มศึกษารายละเอียด เกี่ยวกับชา และสมุนไพร และเริ่มพัฒนาชาในสูตรของตัวเอง ทั้งแบบชาอบกลิ่นต่างๆ ชาผสมสมุนไพร พร้อมทั้งทำสมุนไพรที่สามารถนำมาชงเป็นชาดื่มได้อีกด้วย”
ตลอด 15 ปีที่ทำเกี่ยวกับชามาทำให้ตอนนี้มีชา ที่พัฒนามาแล้วหลายชนิด แบ่งเป็นชาสมุนไพรมากกว่า 40 ชนิด ชาดอกไม้ประมาณ 16 ชนิด ชาสมุนไพรที่ขายดีจะเป็น ชาเจียวกู่หลาน เชียงดา ดอกคำฝอย ใบหม่อน ส่วนชาดอกไม้ที่เป็นที่นิยมจะเป็นดอกคาโมไมล์ ที่จะช่วยในการนอนหลับพักผ่อน และชาดอกกุหลาบ ส่วนชาดอกไม้ของไทยที่นิยมมากๆ จะเป็นชาดอกอัญชัน หรือแม้แต่ชาผลไม้ที่ร้านก็มีให้เลือก รวมถึงชาที่อบกลิ่นผลไม้ก็มีเช่นเดียวกัน
ปัจจุบันกลุ่มคนดื่มชาก็ถือว่าเป็นคนกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กลุ่มกาแฟ และสิ่งที่ทำให้กลุ่มลูกค้ายังเลือก ชากันต์โตะอยู่คงเป็นที่การดูแลลูกค้า พร้อมทั้งคุณภาพของชาที่เป็นมาตรฐาน จึงทำให้ลูกค้าบอกต่อกันไป กลุ่มลูกค้าที่ดื่มชาไม่เพียงแต่เป็นกลุ่มคนสูงอายุเท่านั้น กลุ่มคนดื่มชามีอยู่หลากหลายกลุ่มซึ่งมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
ในอนาคตคาดว่าจะเพิ่ม ไร่ชาและสวนวัตถุดิบเป็นของตัวเอง เนื่องจากต้องการดูแลและควบคุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่แปลงปลูก ปลูกสมุนไพรให้ได้คุณภาพ และขยายไปเป็นโรงานแปรรูปเองเพื่อที่จะได้ควบคุมคุณภาพของสมุนไพรให้ดีที่สุด ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี คงจะได้เห็นแบบครบวงจรมากขึ้น
สนใจติดต่อ เฟซบุ๊ก : ชาสมุนไพร ชาดอกไม้ เชียงใหม่
เว็บไซต์ : https://www.kantoherbtech.com/
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
