“ทานไทย” เป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่เจาะกลุ่มลูกค้า ที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยแนวคิด ให้ความสำคัญ กับที่มาของวัตถุดิบในการทำอาหาร plant-based food
“นางสาวอรณา อนันตชินะ” เจ้าของร้าน ทานไทย เล่าว่า เริ่มต้นการทำ ร้านอาหารทานไทย โดยมีเพื่อนที่เป็นทีมทำร่วมกันเป็นคนรุ่นใหม่ อีก 3 คน ได้แก่ "กวิสรา อนันต์ศฤงคาร" (Experience Designer, co-founder) "ชนิกา พุดหอม" และ "ขุนกลาง ขุนขันธิน" (Head Chef) ซึ่งจุดขายของร้าน คือ เลือกให้ความสำคัญกับ plant-based food ด้วยเหตุผลสองข้อหลักๆ คือ ปัญหาที่สิ่งแวดล้อมที่เกิดจากที่มาของการผลิตเนื้อ และถ้าสามารถลดการกินเนื้อสัตว์ได้ จะเป็นทางเลือกที่ช่วยให้สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์ดีขึ้น และปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการบริโภค ทำให้คนไทยหันมาเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น ซึ่งเรามองว่าการเลือกทำอาหาร โดยให้ความสำคัญกับ plant-based food น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยแก้ปัญหาดังที่กล่าวมาข้างต้นได้
สำหรับเมนูอาหารทุกเมนู จะต้องผ่านการวิเคราะห์ และคิดค้นสูตรเพื่อให้ลงตัวทั้งรสชาติ และวัตถุดิบที่เลือกใช้ ซึ่งแหล่งที่มาของวัตถุดิบ มาจากฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ หรือ การปรุงรส ก็ให้ความสำคัญเช่นกัน จึงต้องหาเครื่องปรุงที่ ทำอย่างไรให้อาหารมังสวิรัติ ที่หลายคนอยากรับประทานมีรสชาติอร่อย เหมือนกับการรับประทานอาหารเมนูที่มีเนื้อสัตว์ ช่วงเริ่มต้น เปิดตัวด้วย 2 เมนู คือ ลาบทอด และกระเพรา
“ทั้งนี้ ที่ให้ความสำคัญกับรสชาติ เพราะจากการค้นหาข้อมูลทางออนไลน์ พบว่า คนหันมาให้ความสำคัญกับการลดการกินเนื้อสัตว์มากขึ้นในบางมื้อ หรือบางวัน เพื่อสุขภาพที่ดีมากขึ้น แต่ปัญหาที่เจอ คือ อาหารที่ขายในท้องตลาดหารสชาติถูกใจไม่ได้ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่ยังติดในรสชาติ ก็หาอาหารถูกปากไม่ได้ ประกอบกับคนรุ่นใหม่ที่สนใจ ยังหาร้านที่เข้ากับไลฟสไตล์ของเขาไม่ได้ ส่วนมากจะเป็นทางเลือกที่เป็นอาหารมังสวิรัติหรืออาหารเจไปเลย ซึ่งก็อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ร้อยเปอร์เซนต์”
ทั้งนี้ เราจึงเห็นโอกาสในการหยิบแนวคิดของอาหารไทยสตรีทฟู้ดส์ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอยู่แล้ว มาสร้างแนวคิดแบรนด์เรื่อง Specialty plant-based Thai street food จุดเด่นคือเราจะ collaborate กับผู้ผลิตเนื้อที่ทำจากพืชในไทยเป็นหลัก มาสร้างจานอาหารรสชาติจัดจ้านแบบสตรีทฟู้ด โดยเราตั้งใจจะไม่ compromise กับรสชาติจัดจ้านเลย แต่ยังดีต่อสุขภาพอยู่ และที่สำคัญคือเราพิถีพิถันสร้างสูตรเฉพาะสำหรับวัตถุดิบที่มีคุณสมบัติที่ต่างกัน เช่นคุณสมบัติของเนื้อที่ทำจากพืชบางเจ้า อาจจะต้องปรับสูตรให้มีรสชาติมากกว่าอีกเจ้าหนึ่ง ส่วนในเรื่องของวัตถุดิบ เราก็ใช้วัตถุดิบที่มาจาก local farmers และเลือกใช้วัตถุดิบออแกนิกเป็นหลัก
เนื่องจากเราอยากจะทำให้การทาน plant-based เป็นเรื่องเข้าถึงง่าย สนุก และ สมบูรณ์แบบ เหมาะกับคนรุ่นใหม่ กลุ่มลูกค้าหลักๆของเราเป็นคนช่วงอายุ 25-40 ในวัยทำงานที่อยากจะทดลองลดทานเนื้อสัตว์ มีความใส่ใจเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ก็มีมาเริ่มจากทดลองทานไทย แต่พอเริ่มทดลองขายผ่านหน้าเพจ ก็จะไม่ได้มีลูกค้าเฉพาะ รุ่นใหม่ แต่มีกลุ่มคนอายุ 40-50 ปี เข้ามาเป็นลูกค้าด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันเราเพิ่งเริ่มทดลองขายผ่านเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ thaanthai ลูกค้าสามารถสั่งแบบ pre-reder ได้ทุกๆวันจันทร์ ยังไม่มีหน้าร้าน แต่ในอนาคต เราอยากจะมีหน้าร้าน ให้คนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ ได้มากินอาหารของเรา และต้องการที่จะผลักดันให้ plant-based Thai street food เป็น Lifestyle มากขึ้น สนุกและเข้าถึงง่ายมากขึ้น เพื่อสร้างความหมายใหม่ของการทาน plant-based ที่ไม่ยึดติดกับการทานอาหารมังสวิรัติ หรือเจ แบบเดิม ด้วยเป้าหมายนี้ เราเลยมองว่าการสร้าง physical store ก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าเข้ามารู้จักเราและได้รับประสบการณ์ความเป็น Specialty plant-based Thai street food ผ่าน sense อื่นๆ ที่ไม่ใช่การอ่านหรือเห็นจากหน้าจออย่างเดียว พร้อมกับเราจะได้สร้าง human touch ระหว่างแบรนด์เรากับลูกค้าด้วย
ส่วนในอนาคตเราก็หวังตั้งใจว่าจะทำให้แบรนด์นี้ไปต่างประเทศ เพราะอาหารไทยสตรีทฟู้ดเป็นที่ชื่นชอบอยู่แล้วจากต่างชาติ และ adoption rate ของการทาน plant-based ในต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นมากอย่างรวดเร็ว
ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดี มีหลายๆคนที่ประทับใจทั้งการออกแบบแบรนด์และรสชาติอาหาร พอมีเมนูใหม่ก็มีลูกค้าเก่ามาลองทานอีก และที่สำคัญคือเป็นกลุ่มคนทานเนื้อปกติและคนที่ทาน flexitarian ซึ่งก็ถือว่าเราตอบโจทย์ได้เลย เพราะเราหวังตั้งใจที่จะช่วยกลุ่มคนเหล่านี้ทานเนื้อน้อยลงได้ แต่ยัง enjoy กับรสชาติอยู่
สนใจ FB: thaanthai
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
