กระดาษโน้ตใช้แล้วอย่าทิ้ง นำไปปลูกผักไว้รับประทานกันเถอะ เพียงรดน้ำให้ชุ่ม 3 วันต้นอ่อนก็งอกออกมาให้เชยชม ผลงานนี้เป็นการหยิบจับผลผลิตทางการเกษตรที่ถูกมองข้ามนำมาเพิ่มมูลค่า อย่าง “ฟางข้าว” ที่มีเป็นจำนวนมาก มีค่าเป็นเพียงปุ๋ย หรือนำไปคลุมดินกักเก็บความชุ่มชื้น ล่าสุดถูกนำมาทำเป็นกระดาษโน้ตที่มีเมล็ดพืชผักฝังอยู่ในเนื้อกระดาษ สามารถนำไปปลูกได้จริง ไม่ต้องกลายเป็นขยะ
ในเมื่อกระดาษสา ก็ถือกำเนิดขึ้นจากต้นปอสาพืชที่มีเส้นใย ดังนั้นทำไม “ฟางข้าว” จะนำมาเป็นกระดาษบ้างไม่ได้ “กระดาษโน้ตปลูกผักได้” จึงเกิดขึ้น จากไอเดียของ 'คุณนุ๊ก-จารุวรรณ คำเมือง' กรรมการผู้จัดการ หจก.ฟางไทย แฟคตอรี่ อดีตครูสอนภาษาอังกฤษ ในชุมชนบ้านสามขา อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ที่ต้องการหาอาชีพที่ยั่งยืน พร้อมกับสร้างประโยชน์ให้ชุมชนควบคู่กันไปด้วย
“หลายคนอาจมองว่าอาชีพครูเป็นอาชีพที่ยั่งยืน แต่สำหรับเรามันไม่ใช่ เพราะไม่ได้จบในสายวิชาชีพครูมาโดยตรง แต่จบจากคณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ทำให้คิดว่าหากยึดอาชีพนี้อาจจะไปได้ไม่ไกล จึงต้องการหาอาชีพที่มั่นคง ก็เริ่มมองหาสิ่งรอบตัวที่อยู่ในชุมชน พบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ยึดอาชีพทำนา แต่ครั้นจะให้เราไปทำนาก็คงไม่ใช่ ดังนั้นในฐานะคนรุ่นใหม่ จึงเลือกหาวิธีแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรมาเพิ่มมูลค่า ก็พบว่าฟางข้าวมีเยอะ ถูกทิ้งอย่างไร้ค่าจึงคิดนำมาทำกระดาษเหมือนกระดาษสาซึ่งน่าจะทำได้”
เธอลงมือศึกษาวิธีทำกระดาษด้วยตัวเอง อาศัยการทำกระดาษสาเป็นต้นแบบ ซึ่งมีคนทำกระดาษสาใน จ.ลำปางเป็นจำนวนมาก จากนั้นก็มองหาพันธมิตรเพื่อมาช่วยเติมเต็มแนวคิดดังกล่าว ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ ITAP ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งทางทีมงานได้ให้โจทย์ในเรื่องของเมล็ดพันธุ์พืชว่ามีเป็นจำนวนมาก ต้องการมาทำให้เกิดประโยชน์ และให้ผู้คนเห็นคุณค่า เธอนำมาขบคิดถึงความเป็นไปได้หากนำมารังสรรค์ผลงานร่วมกับกระดาษฟางข้าว
“เรามองว่าปกติฟางข้าวกับผลผลิตทางการเกษตรเป็นของคู่กัน เพราะเมื่อชาวบ้านจะปลูกกระเทียมก็ต้องนำฟางข้าวมาคลุมดินเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น ดังนั้นทำไมต้นไม้จะเจริญเติบโตบนกระดาษฟางข้าวไม่ได้ จึงลองนำเมล็ดพืชมาใส่ลงในกระบวนการผลิตกระดาษฟางข้าวซะเลย”
วิธีการปลูกผักจากกระดาษฟางข้าวนั้นแสนง่าย เพียงนำกระดาษโน้ตที่ใช้แล้วเตรียมทิ้งเป็นขยะนำไปวางในภาชนะ หรือวางบนดินโดยไม่ต้องเสียเวลาขุดหลุมแต่อย่างใด ขอเพียงหมั่นรดน้ำให้ชุ่มทุกวัน เพียง 3 วัน ก็จะเริ่มเห็นต้นอ่อนงอกขึ้นมาแล้ว ส่วนกระดาษฟางข้าวก็จะย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยตามธรรมชาติ ไม่เหลือขยะให้รกโลก โดยเมล็ดพันธุ์ผักที่เธอเลือกมานั้น จะเน้นไปที่ผักที่โตเร็ว งอกไว เพราะเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าที่ใจร้อน อยากจะเห็นผลงานของตนเองเร็วๆ ดังนั้นเมล็ดผักกวางตุ้ง คะน้า มะเขือเทศ ผักสลัด ข้าวสาลี ต้นอ่อนทานตะวัน เป็นต้น
ปัจจุบันกระดาษโน้ตฟางข้าวรับผลิตแบบ Made to Order เช่น การ์ดแต่งงาน ใส่ดอกดาวเรือง หรือองค์กรเอกชนต่างๆ ก็สั่งทำเป็นของขวัญแจกลูกค้าในเทศกาลสำคัญต่างๆ ส่วนผลิตภัณฑ์ของตัวเองที่ตั้งชื่อให้เข้าใจง่ายๆ ว่า “Eco Garden” จะทำเป็นสมุดโน้ตภายในเป็นกระดาษปกติถนอมสายตา ส่วนปกหน้าและปกหลัง จะเป็นกระดาษฟางข้าวนำไปปลูกได้ ราคาเล่มละ 85 บาท ส่วนกระดาษโน้ต ขนาด 5x6 ซม.ใน 1 กล่องมี 25แผ่น ราคา 110 บาท และล่าสุดเป็นผลิตภัณฑ์ “กระถางปลูกต้นอ่อน” ขายในราคาเซตละ 85 บาท ประกอบด้วย กระดาษฟางข้าว และเมล็ดต้นอ่อนข้าวสาลี และต้นอ่อนทานตะวัน ปลูกโดยไม่ต้องใช้ดิน เพราะในกระถางฟางข้าวได้ถูกแบบไว้อย่างเหมาะสมแล้ว สามารถนำไปปลูกที่ออฟฟิศ ห้องครัว ห้องน้ำ รดน้ำเพียงวันละ 1 ฝาขวดน้ำก็พอแล้ว เพราะฟางข้าวมีคุณสมบัติช่วยอุ้มน้ำ และเก็บความชื้นได้ดี มีจำหน่ายที่ห้างสยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น 4
อนาคตเขาเตรียมวางตำแหน่งเป็นผู้ผลิต เน้นการทำธุรกิจแบบ B2B และเตรียมขยายตลาดไปยังต่างประเทศ เนื่องจากมีโอกาสเติบโตได้ แต่ยังติดปัญหาในเรื่องการขอใบรับรองเรื่องเมล็ดพันธุ์พืช ที่หลายประเทศต้องการเป็นออร์แกนิก ซึ่งประเทศที่ให้ความสนใจ คือ เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และอีกหลายประเทศในยุโรป
การเดินทางของกระดาษโน้ตฟางข้าว เรียกว่ามาไกลมากกว่าที่ฝันไว้มาก แต่ก็ไม่ถือว่าหลุดคอนเซ็ปต์ที่ตั้งใจไว้ เพราะวันนี้กระดาษฟางข้าวสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ ทำให้ผู้คนเห็นคุณค่าของสิ่งไร้ค่า และยังเป็นความภาคภูมิใจที่เมื่อเธอพยายามหาโอกาสให้ตัวเอง และยังส่งต่อโอกาสเหล่านั้นให้กับผู้อื่นด้วย โดยเฉพาะผู้พิการก็ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพแถมยังช่วยรักษ์โลกถึงมือลูกค้า
***สนใจติดต่อ 08-9556-6789***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *