กระทรวงพาณิชย์ลงนาม MOU ร่วมกับ SME Development Bank และธุรกิจแฟรนไชส์ปล่อยสินเชื่ออัดฉีดเงินลงทุนให้แฟรนไชซอร์ขยายธุรกิจ พร้อมคัด 12 แฟรนไชส์คุณภาพนำร่อง เผยสามารถนำแฟรนไชส์ที่ซื้อมาค้ำประกันเพื่อขอสินเชื่อได้
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ทางกรมฯ ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือภายใต้ “โครงการสินเชื่อสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชน” ระหว่าง 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) และธุรกิจแฟรนไชส์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักที่จะร่วมมือกันพัฒนาศักยภาพ SMEs ไทย ใน 'ธุรกิจแฟรนไชส์' ให้สามารถเข้าถึงเงินทุนเพื่อใช้หมุนเวียนในกิจการ ไม่ว่าจะเป็นการต่อยอดธุรกิจ การพัฒนาองค์ความรู้ ด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมตลอดจนการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์กับนายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ในพิธี
ทั้งนี้ การดำเนินงานภายใต้โครงการดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมาได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมกันคัดเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่อยู่ในการส่งเสริมและพัฒนาของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อเป็นธุรกิจนำร่องสำหรับปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้สนใจลงทุน (Franchisee) ในธุรกิจแฟรนไชส์ โดยจะต้องเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchisor) ที่มีค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์และการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท และมีคุณสมบัติต่างๆ ตรงตามที่ SME Development Bank กำหนด โดยได้คัดเลือกแฟรนไชส์นำร่องจำนวน 12 ราย แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 7 ธุรกิจ ได้แก่ N&B Pancake, กาแฟดอยช้าง, FUJIYAMA GOGO, Billion Coffee, ยูนนาน/แซ่บ Classic by ส.ขอนแก่น, โชคดีติ่มซำ และ Hokkaido Milk ธุรกิจบริการ 3 ธุรกิจ ได้แก่ OTTERI Wash & Dry, โมลีแคร์ และ PD House ธุรกิจการศึกษา 1 ธุรกิจ ได้แก่ โรงเรียนกวดวิชาและภาษาบ้านวิชากร และธุรกิจค้าปลีก 1 ธุรกิจ ได้แก่ Teddy House
“ธุรกิจแฟรนไชส์ในข้างต้นได้ผ่านการพิจารณาแล้วว่าเป็นธุรกิจที่มีแผนธุรกิจชัดเจน และประสบผลสำเร็จในการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมาเป็นอย่างดี ดังนั้นแฟรนไชซีที่สนใจเลือกซื้อธุรกิจนี้จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถพาเงินทุนของท่านไปสู่ความสำเร็จได้ ลดความเสี่ยงในการลงทุนด้วยตนเอง และมีที่ปรึกษาช่วยวางแผนธุรกิจแบบมืออาชีพ และที่สำคัญจะได้รับการพิจารณาจากโครงการฯ ปล่อยสินเชื่อสำหรับนำมาลงทุนซื้อ แฟรนไชส์ 12 ธุรกิจดังกล่าว โดยมีแผนการใช้ธุรกิจแฟรนไชส์ที่ซื้อมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งแฟรนไชส์นับเป็นธุรกิจแรกที่จะใช้หลักประกันทางธุรกิจประเภทกิจการมาค้ำประกันสินเชื่อตามพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558” อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าว
นอกจากนี้ ภายหลังการได้รับสินเชื่อแล้ว ทางกรมฯ และ SME Development Bank จะมีการประเมินติดตามการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และเป็นพี่เลี้ยงธุรกิจคอยให้คำปรึกษาทั้งด้านการเงิน การบัญชี และการขยายกิจการ พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายให้เกิดความเข้มแข็งแก่ธุรกิจต่อไป และหลังจากนี้จะพิจารณาแฟรนไชส์ขนาดเล็กเพื่อให้ผู้สนใจในระดับท้องถิ่นที่ต้องการมีอาชีพเป็นของตนเองสามารถลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ได้อย่างมั่นใจและง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการดันเศรษฐกิจฐานรากให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์
ด้านนายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank หรือ ธพว.) กล่าวว่า ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อยกระดับผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์ ภายใต้โครงการ “สินเชื่อเพื่อสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชน” วงเงิน 7,500 ล้านบาท เพื่อสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่ หรือกลุ่ม Start Up ที่ต้องการทำธุรกิจแฟรนไชส์สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนนำไปเริ่มต้นธุรกิจในชุมชนแหล่งท่องเที่ยว หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) หรือภูมิลำเนา กระตุ้นให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ตามนโยบาย Local Economy ของรัฐบาล สำหรับสินเชื่อเพื่อสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชน ผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดา วงเงินสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 2 ล้านบาท กรณีจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) วงเงินต่อรายไม่เกิน 5 ล้านบาท นิติบุคคลสูงสุดต่อรายไม่เกิน 15 ล้านบาท โดยวงเงิน 5 ล้านบาทแรกไม่ต้องใช้หลักประกันสามารถใช้ บสย.ค้ำประกัน ซึ่งจะได้รับการชดเชยค่าธรรมเนียม บสย.ใน 4 ปีแรก ระยะเวลาการกู้ยืมรวม 7 ปี กรณีใช้หลักประกันตามเกณฑ์ธนาคาร คิดอัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MLR - 1.5 ต่อปี ปีที่ 2 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MLR - 1.0 ต่อปี กรณีใช้หลักประกัน บสย. คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี ลูกค้าจะได้รับการช่วยเหลือค่าธรรมเนียม บสย. ฟรี 4 ปี ปีละ 1.75% รวม 7% โดยรัฐบาลช่วยเหลือ 4% และอีก 3% เป็นการช่วยเหลือจากธนาคาร ทั้งนี้ ต้องเป็นผู้ประกอบการที่ชำระหนี้ปกติตามเกณฑ์ของธนาคาร
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *