xs
xsm
sm
md
lg

ไขรหัส ‘3C’ สูตรสำเร็จปั้นธุรกิจ SME ซักอบรีด ‘CLEANMATE’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ด้วยไลฟ์สไตล์คนเมืองในปัจจุบัน ต้องการความสะดวกสบาย มีข้อจำกัดเรื่องเวลา และที่พักอาศัย ส่งผลให้ธุรกิจร้าน “ซักอบรีด” ได้รับอานิสงส์เติบโตอย่างสูง สร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้าสู่วงการธุรกิจร้านซักอบรีดจำนวนมาก

ผู้ที่จะประสบความสำเร็จได้ย่อมต้องมีจุดแข็งเฉพาะตัว “คลีนเมท” (CLEANMATE) เป็นหนึ่งในเอสเอ็มอีที่มุ่งสร้างธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ ‘3C’ สูตรการเอาชนะใจลูกค้า ช่วยทำให้ธุรกิจแข็งแกร่งอยู่ได้อย่างยั่งยืน จนได้รับรางวัลชนะเลิศจากรายการ SME ตีแตกเมื่อปี 2554 ได้ตีแผ่กลยุทธ์ที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จเพื่อจุดประกายความคิดให้เอสเอ็มอีทั่วประเทศ

วรนุช พงษ์พานิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลีนเมท เซอร์วิส จำกัด เจ้าของธุรกิจร้านซักอบรีด แบรนด์ “คลีนเมท” (CLEANMATE) บอกว่าวิสัยทัศน์ของคลีนเมทก็คือเป็นแบรนด์ที่ให้บริการซักอบรีดยอดเยี่ยมที่สุด โดยใช้นโยบาย ‘3C’ เป็นหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ รวมถึงเป็นแนวทางให้พนักงานองค์กรยึดมั่นในการทำงาน

“3C” ของคลีนเมท ประกอบด้วย C ตัวแรก คือ“Clean” หมายถึง ต้องทำความสะอาดเสื้อผ้าของลูกค้าให้ดีที่สุด พยายามเฟ้นหาวิธีการ และเทคโนโลยีและเครื่องจักรสมัยใหม่ มาใช้พัฒนางานซักอบรีดเสมอ โดยปัจจุบัน ได้ใช้ “เทคโนโลยีซักแห้ง ซิลิโคน” จากประเทศญี่ปุ่น มูลค่าเฉพาะค่าเครื่องไม่รวมน้ำยากว่า 3 ล้านบาท ถูกจัดลำดับจากคนในวงการให้เป็นเทคโนโลยีการซักที่ดีที่สุด

คุณสมบัติเด่นของเทคโนโลยีดังกล่าว ทำความสะอาดเสื้อผ้าได้หมดจด ในเวลารวดเร็ว ประมาณ 45-50 นาทีต่อรอบ หนึ่งรอบซักได้ถึง 18 กิโลกรัม เป็นมิตรต่อเสื้อผ้า ผู้สวมใส่ และสิ่งแวดล้อม ได้รับการพิสูจน์ว่าไม่ทำให้เสื้อผ้าเสียรูปทรง แถมยังช่วยเคลือบเส้นใยให้ดูใหม่ ยืดอายุการใช้งาน โดยสารซิลิโคนที่ใช้ซักแห้ง เป็นส่วนผสมที่ใช้ในเครื่องสำอางชั้นสูง จึงไม่เกิดความระคายเคืองต่อผู้สวมใส่ นอกจากนั้น ยังซักได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเส้นใยต่างประเทศ ผ้าไหมทุกชนิด ผ้าขนสัตว์ทุกชนิด และเครื่องหนังต่างๆ เป็นต้น

อีกทั้ง ยังได้นำเข้าเครื่องรีดเสื้อเชิ้ตอัตโนมัติ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ซึ่งช่วยยกระดับการบริการได้อีกขั้นหนึ่ง เพราะมีศักยภาพในการรีดได้ 1 ตัวต่อนาที และสามารถรีดได้เรียบ ช่วยให้เสื้อผ้าของลูกค้า สะอาดน่ามอง

C ตัวที่ 2 คือ “Care” หมายถึง การดูแลให้บริการลูกค้าด้วยความเอาใจใส่ วรนุช อธิบายเสริมว่าเราจะให้พนักงานดูแลลูกค้าเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เสื้อผ้าที่ซักรีดให้ลูกค้าต้องคิดว่าเป็นเสื้อผ้าของตัวเอง ซึ่งความใส่ใจดังกล่าว จะสะท้อนออกมาเป็นผลงานที่ดีจนลูกค้าสัมผัสได้

นอกจากนั้น งานบริการที่จะเอาชนะใจลูกค้าได้อย่างดี คือใส่ใจในรายละเอียดพิเศษของลูกค้าแต่ละบุคคล เช่น บางรายไม่ชอบให้รีดเรียบเกินไป บางรายไม่ชอบกลิ่นน้ำหอม เป็นต้น ถ้าสามารถบริการให้ได้เป็นกรณีพิเศษ ลูกค้าจะเกิดความประทับใจอย่างสูง ตามมาด้วยความไว้วางใจที่จะเป็นขาประจำไปตลอด

ส่วนกรณีเกิดความเสียหายต่อเสื้อผ้าจากการทำงาน ต้องพร้อมแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ และจริงใจ “จากประสบการณ์ส่วนตัวก่อนจะมาทำธุรกิจนี้ เสื้อผ้าราคาแพงของเราที่ส่งไปซักแล้วเสียหาย แต่หากร้านไม่แสดงความรับผิดชอบ เราจะไม่กลับไปใช้บริการร้านนั้นอีกเลย ดังนั้น คลีนเมทพยายามสร้างมาตรฐานงานบริการ โดยจะมีเงื่อนไขกำหนดความรับผิดชอบชัดเจนให้ลูกค้ารับทราบก่อนจะส่งซักรีด และในกรณีที่เกิดความเสียหายขึ้น พิสูจน์ได้ว่า มาจากการความผิดพลาดของเราจริงๆ ก็ยินดีจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจาก ดำเนินธุรกิจนี้มายาวนาน จนมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญ และใช้เทคโนโลยีการซักที่มีความปลอดภัยสูง เท่าที่ผ่านมา จึงเกิดปัญหาเสื้อผ้าลูกค้าเสียหายน้อยมาก” เจ้าของธุรกิจ เผย

สำหรับ C ตัวที่ 3 คือ “Convenient” หมายถึง ความสะดวกสบาย คลีนเมทมุ่งอำนวยความสะดวกต่อลูกค้าให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ มีบริการรับซักอบรีดสินค้าทุกชนิด ตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋าหนัง ตุ๊กตา รองเท้า ฯลฯ ตามด้วย มีบริการเดลิเวอรี่ รับส่งสินค้าถึงสถานที่

นอกจากนี้ยังมีจุดให้บริการกว้างขวาง และครอบคลุม ทั้งในเขตที่พักอาศัย คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนท์ สถานศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รวมไปถึงการเช่าพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต, บิ๊กซี, เซเว่น อีเลฟเว่น, โกลเด้น เพลส, จามจุรีสแควร์ และอาคารสำนักงานต่างๆ ฯลฯ เพื่อขยายพื้นที่บริการให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า โดยมีสาขาที่บริษัทเปิดเอง จำนวน 5 สาขา เครือข่ายแฟรนไชส์ ที่ปัจจุบันมีถึง 45 สาขา



ทั้งนี้ วรนุช อธิบายว่า จากแนวคิดที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงบริการมากที่สุด ซึ่งหน้าร้านต่างๆ จะมีข้อจำกัดเรื่องเวลาปิด-เปิด จึงมองหาพื้นที่ที่จะตอบโจทย์ลูกค้า ก็เห็นว่าร้านเซเว่นฯ มีศักยภาพสอดคล้องกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเพราะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้าสามารถนำเสื้อผ้ามาฝากส่งซักรีดเวลาใดก็ได้ จึงติดต่อขอเช่าพื้นที่ในร้านเซเว่นฯ โดยเลือกร้านที่อยู่ใกล้ๆ คอนโดมิเนียม ใช้เป็นจุดรับ-ส่งสินค้า โดยวางเป็นระบบเครื่องอัตโนมัติ บนตู้รับเสื้อผ้าจะมีหน้าจอทัชสกรีน ให้ลูกค้ากดเลือกความต้องการต่างๆ ด้วยตัวเอง หลังจากนั้น เครื่องจะพิมพ์ใบสลิปออกมาเป็นหลักฐาน สำหรับใช้เป็นหลักฐานรับเสื้อผ้าหลังซักเสร็จแล้ว โดยราคาค่าบริการจะอยู่ที่ 30 บาท/ชิ้น ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ทำให้ขณะนี้คลีนเมทมีจุดให้บริการในร้านเซเว่นฯ จำนวน 8 แห่ง

เนื่องจากลูกค้าของคลีนเมท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหนุ่มสาวมนุษย์เงินเดือน อายุ 25-40 ปี ที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมและอพาร์ทเมนต์ และด้วยการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม จึงเชื่อมั่นว่าแนวโน้มธุรกิจซักอบรีดจะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอัตราเฉลี่ยลูกค้าเข้าให้บริการซักอบรีด ประมาณ 200-400 ชิ้นต่อสาขา

“ทุกวันนี้ ธุรกิจซักอบรีดมีการแข่งขันสูง ผู้ใช้บริการจะเปรียบเทียบคุณภาพเรื่องความสะอาด และบริการของแต่ละร้าน แล้วเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ซึ่งจากนโยบาย 3C ที่เรายึดมั่นมาตลอด สามารถตอบสนองความต้องการได้ครบถ้วน ทำให้ลูกค้าประทับใจ และกลับมาเป็นลูกค้าประจำ” เจ้าของธุรกิจ ระบุถึงปัจจัยความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ

ระยะเวลา 10 กว่าปีของธุรกิจ “คลีนเมท” ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้นโยบาย “3C” เป็นสูตรสำเร็จที่พิสูจน์มาแล้วว่า ใช้ได้ผลจริง และเหมาะที่ธุรกิจรายอื่น จะนำไปประยุกต์ เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จได้เช่นกัน



กำลังโหลดความคิดเห็น