ไก่พื้นเมืองเป็นวัตถุดิบหลัก ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจากความต้องการของตลาดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงได้เป็นที่มาของ การทำงานร่วมกันระหว่าง กลุ่มนักวิจัย เกษตรกร ผู้นำชุมชน และผู้ประกอบการ ในการคิดค้นไก่สายพันธุ์พื้นบ้าน ที่เลี้ยงง่าย รสชาติอร่อย และเกษตรกรขายได้ราคา
สุดท้าย ก็ได้มาเป็น "ไก่เนื้อโคราช" ไก่สายพันธุ์ลูกผสม ที่สามารถตอบโจทย์ทุกข้อของเกษตกรผู้เลี้ยงไก่ และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค สร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำให้กับเกษตรกร เนื่องจากเลี้ยงง่ายลงทุนไม่สูง เลี้ยงเพียง 2 เดือน ก็สามารถส่งขายได้
นายสมบัติ เทศทอง เจ้าของฟาร์มไก่เทศทอง เล่าว่า ได้เลี้ยงไก่โคราชมานานกว่า 4 ปี โดยมีไก่ที่เลี้ยงทั้งหมด 11 โรงเรือน แต่ละโรงเรือนเลี้ยงไก่จำนวน 600 ตัว สลับหมุนเวียน กัน เพื่อจะได้มีไก่ออกจำหน่ายทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละ 600 ตัว โดยราคาไก่เป็นจะแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ ไก่เป็นๆ ขายกิโลกรัมละ 75 บาท ส่วนไก่สดถอนขนพร้อมนำไปปรุงอาหาร จะส่งขายร้านไก่ย่าง ในราคากิโลกรัมละ 140 บาท (ข้อดีของไก่โคราช กรณีนำมาทำเป็นไก่ย่าง คือไขมันน้อย เนื้อไม่เหนียว และไม่เหละ เมื่อนำมาย่างทิ้งไว้ค้างคืน หนังไก่ยังคงชุ่มน้ำไม่แห้ง
"ในแต่ละเดือนผมมีรายได้ประมาณ 170,000 บาทถึง 180,000 บาท ส่วนต้นทุนที่ใช้ในการเลี้ยงไก่โคราชแต่ละเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 120,000 -140,000 บาท แบ่งเป็นต้นทุนราคาลูกไก่อายุ 1 วัน ตัวละ 19 บาท ซึ่งเราจะลงลูกไก่ทุกสัปดาห์ๆละ 600 ตัว ที่เหลือจะเป็นค่าอาหาร ค่าวัคซีน ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ส่วนต้นทุนในช่วงเริ่มต้น จะมีค่าโรงเรือนๆละ 90,000 บาท การลงทุนเริ่มต้นหลักล้านบาท โดยเงินทุนเบื้องต้น ของผมมาจากเงินกู้ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ”
เจ้าของฟาร์มไก่เทศทอง เล่าว่า ที่มาของไก่โคราช มาจาก "ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อมรรัตน์ โมฬี" จากสาขาเทคโนโลยีการผลิตสัตว์ สำนักวิชาการเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) จังหวัดนครราชสีมา ได้ทำการพัฒนาสายพันธุ์ไก่ชนิดนี้ ขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เพราะในช่วงที่เกิดภัยแล้ง เกษตรกรไม่สามารถที่จะเพาะปลูกได้ ดังนั้น การเลี้ยงไก่เป็นทางเลือกหนึ่ง โดยทางมทส. ได้นำข้อดีของไก่พื้นเมือง หรือ ไก่บ้าน คือ รสชาติอร่อย กว่าไก่พันธุ์ แต่ปัญหาของไก่บ้าน คือ ต้องใช้ระยะเวลาเลี้ยงนาน 5-6 เดือน แต่ข้อดีของไก่พันธุ์ คือ ระยะเวลาการเลี้ยงสั้น นำข้อดีของทั้ง 2 แบบมาใช้ และออกมาเป็นไก่โคราช ที่รสชาติอร่อย เนื้อไม่เละ และใช้ระยะเวลาการเลี้ยงสั้น เพียง2 เดือน
ทั้งนี้ การเลี้ยงไม่ได้ยุ่งยาก ให้วัคซีนตามระยะเวลา หรือ ดูแลเหมือนการเลี้ยงไก่ทั่วไป ส่วนอาหารใช้เหมือนอาหารเลี้ยงไก่ที่ขายตามท้องตลาด หรือ ถ้าเลี้ยงกินอาหารตามธรรมชาติ จะใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงนานขึ้น โดยไก่ที่เลี้ยงพร้อมจำหน่ายได้จะมีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 1 กิโลกรัมไปจนถึง 1.4 กิโลกรัม เฉลี่ยตัวละ 1.2 กิโลกรัม กำไรที่ได้ต่อตัวประมาณ 15-18 บาท แต่ผุู้เลี้ยงบางรายมีเทคนิคการเลี้ยงสามารถประหยัดค่าอาหารได้ สามารถทำกำไรต่อตัวได้ถึง 20 บาทถึง 30 บาท
สำหรับไก่เนื้อโคราช สามารถเลี้ยงในทุกพื้นที่ของประเทศไทย แม้ในพื้นที่ที่มีความแห้งแล้ง เพราะใช้น้ำเพียง 1-1.5 ลิตรต่อตัว ตั้งแต่อายุ 1 วัน ถึงส่งขาย ปัจจุบันมีผู้เลี้ยงไก่เนื้อโคราช กระจายอยู่หลายอำเภอในจังหวัดนครราชสีมา และการเลี้ยงกระจายไปในจังหวัดยโสธร และจังหวัดศรีสะเกษ
สำหรับเกษตกรที่สนใจ ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ฐานะเจ้าของ และผู้จัดจำหน่ายลูกไก่ ยินดีที่จะให้เกษตรกรเข้าร่วมเป็นเครือข่ายโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ มารับไก่ไปเลี้ยงได้เลยพร้อมคำแนะนำ ในราคาตัวละ 19 บาท (ลูกไก่อายุ 1 วัน) แต่การเพาะพันธุ์ไก่เอง ในขณะนี้ เกษตกรผู้เลี้ยงยังไม่สามารถเพาะเองได้ เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยยังไม่ได้ปล่อยพ่อ แม่พันธุ์ ที่ผ่านมา เคยมีเกษตกรเคยลองผสมไก่โคราชเอง แต่ไก่ที่ได้มายังไม่แข็งแรง ไม่ทนต่อโรค เลี้ยงไม่โต และการซื้อลูกไก่จากทางมหาวิทยาลัย ได้ไก่โคราชแท้ ราคาไม่แพง เมื่อเที่ยบกับการซื้อผ่านบริษัทเอกชน และได้ไก่ที่แข็งแรง เพราะผ่านการเพาะพันธุ์อย่างถูกวิธี
คุณสมบัติ เล่าว่า ก่อนที่เขาจะมาเปิดฟาร์มไก่โคราช เขาได้ทดลองเลี้ยงหมูมาก่อน แต่ปัญหาของหมู ตัวใหญ่ดูแลยาก กินเยอะ และการแข่งขันสูง คนเลี้ยงกันเยอะ และลูกหมูที่รับมาเลี้ยงจากบริษัทเอกชนราคาแพง ช่วงนั้นประสบปัญหาขาดทุนมาตลอด และพอรู้ว่า มทส.เปิดให้อบรมเรื่องไก่โคราช ได้เข้าไปอบรม และรับไก่มาทดลองเลี้ยง 100 ตัว เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ตนเองถือว่าเป็นเกษตรกรกลุ่มแรกๆที่เลี้ยงไก่โคราช ซึ่งเห็นว่า ไก่เลี้ยงง่าย และได้เงินเร็ว ราคาดี และตลาดความต้องการสูง และตั้งแต่เปลียนมาเลี้ยงไก่โคราช เหนื่อยน้อยลง และมีรายได้มากขึ้น วันนี้ถือว่า ประสบความสำเร็จ ในระดับที่ตนเองน่าพอใจ
สนใจต้องการเลี้ยงไก่โคราชสามารถติดต่อได้ที่ "คุณณัฐวัฒน์ ตันพล" โทร. 087-253-7975
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
