สสว.เฟ้นเอสเอ็มอีไทยหัวกะทิ 125 รายยกทัพร่วมงานแฟร์ ณ กรุงพนมเปญ หนุนสร้างโอกาสเจรจาการค้ากับธุรกิจกัมพูชา ชี้เป็นตลาดใหม่สุดเนื้อหอม เศรษฐกิจขาขึ้นแถมนิยมสินค้าแดนสยาม คาดเกิดเงินสะพัด 200 ล้านบาท พร้อมเสริมศักยภาพ สร้างประสบการณ์ แนะศึกษาข้อมูลก่อนเดินลงสนาม
นายอัครพงศ์ ศรีสุพรรณดิฐ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)เปิดเผยว่า จากที่ สสว.ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต (SME Strong/ Regular Level Strong/Regular Level) วงเงินโครงการปี 2559 ได้รับจัดสรรจำนวน 200 ล้าน เพื่อมาช่วยส่งเสริมให้เอสเอ็มอีที่อยู่ในระดับเติบโตให้สามารถแข่งขันในระดับสากลได้ ซึ่งหนึ่งในแนวทาง คือการพาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไปทำการตลาดใหม่ รวมถึงศึกษาหาลู่ทางการค้า ผ่านการสนับสนุนให้ออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ
ทั้งนี้ การพาไปออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศนั้น ทาง สสว.จะคัดเลือกผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจากที่สมัครเข้าร่วมโครงการกว่าหนึ่งหมื่นราย โดยเฟ้นรายที่มีมาตรฐาน และมีความเหมาะสมที่จะขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศ ซึ่งในปี 2559 กำหนดจะพาไปทั้งหมด 12 ประเทศ ระยะเวลาที่ผ่านมาของปีนี้พามาแล้ว 8 ประเทศ เช่น อิหร่าน รัสเซีย ศรีลังกา เกาหลี เป็นต้น สร้างมูลค่าการเจรจาธุรกิจระหว่างเอสเอ็มอีไทยกับคู่ค้าต่างประเทศแล้วกว่า 1,540 ล้านบาท
และครั้งที่ 9 ซึ่งถือเป็นครั้งล่าสุด ได้พาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย จากโครงการ SME Strong/ Regular Level Strong/Regular Level 120 ราย และภายใต้โครงการปรับแผนธุรกิจ (SME Turn Around) จำนวน 5 ราย รวม 125 ราย มาร่วมงาน “Thai Business Council Trade Fair2016” ณ ศูนย์แสดงสินค้าเกาะเพชร กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จัดระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2559 โดยนอกจาก สสว.แล้วยังมีเอสเอ็มอีที่เป็นสมาชิกของสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา สภาหอการค้ากัมพูชา-ไทย และหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ มาร่วมด้วย รวมทั้งหมด 300 ราย มีกลุ่มสินค้า เช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าสุขภาพความงาม สปา เครื่องสำอาง อาหาร เครื่องใช้ในครัวเรือน ของตกแต่งบ้าน สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ วัสดุก่อสร้าง ของใช้สำนักงาน อุปกรณ์ด้านการเกษตร และท่องเที่ยว เป็นต้น โดยคาดจะมียอดขายปลีกตลอดงานกว่า 30 ล้านบาท และมูลค่าการค้าจากการเจรจาธุรกิจไม่น้อยกว่า 170 ล้านบาท รวมมูลค่าการค้าเป้าหมายกว่า 200 ล้านบาท
นายอัครพงศ์เสริมว่า เหตุที่เลือกจะพามาเปิดตลาดประเทศกัมพูชา เพราะโดยพื้นฐานชาวกัมพูชาชื่นชอบ และเชื่อมั่นสินค้าไทยมาก สามารถเป็นประตูเชื่อมต่อไปยังตลาดเวียดนาม รวมถึงเศรษฐกิจประเทศกัมพูชากำลังเติบโตอย่างสูง มีนักลงทุนจากทั้งจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีเข้ามาทำธุรกิจจำนวนมาก ทำให้ยังมีความต้องการซื้อสินค้าอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มเกี่ยวกับงานก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ขณะเดียวกัน ชาวกัมพูชารุ่นใหม่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์สูงมาก จึงมองว่านี่เป็นโอกาสในการสร้างตลาดใหม่ให้แก่เอสเอ็มอีไทย
ทั้งนี้ เอสเอ็มอีที่ได้รับคัดเลือกมาออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศทุกครั้งนั้นจะได้รับการสนับสนุนจาก สสว. โดยออกค่าบูทให้ 100% และช่วยออกค่าเดินทางและค่าที่พักให้ 60% เฉลี่ยแล้วตัวเอสเอ็มอีจะมีค่าใช้จ่ายน้อยมาก คุ้มค่าที่จะมาทดสอบหาตลาดใหม่ อย่างครั้งนี้ที่มาร่วมงาน ณ ประเทศกัมพูชา เฉลี่ยต่อคนมีค่าใช้จ่ายเพียงรายละ 11,000 บาท (ไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัว) โดยวัตถุประสงค์หลักที่ สสว.อยากให้เอสเอ็มอีได้รับจากการไปออกแฟร์ต่างประเทศ นอกเหนือจากสร้างโอกาสพบคู่ค้าเพื่อเกิดการเจรจาธุรกิจ ต้องการให้ได้ศึกษาตลาด และเสริมประสบการณ์ในการค้าขายกับต่างประเทศ เพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพของธุรกิจของตัวเองต่อไป
รอง ผอ.สสว.เผยด้วยว่า สำหรับการพาเอสเอ็มอีไทยไปออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศอีก 3 ครั้งนั้น จะประกอบด้วย ไต้หวัน ฮ่องกง และสิงคโปร์ ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2560 นี้ นอกจากนั้น ในปีงบประมาณ 2560 นั้น ทาง สสว.ยังได้รับจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล 140 ล้านบาทเพื่อสานต่อโครงการนี้ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี สำหรับเอสเอ็มอีไทยก่อนที่จะไปออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศใดๆ ก็ตามควรจะศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ตลอดจนกฎเกณฑ์ที่จำเป็นเสียก่อน รวมถึงเรียนรู้พฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละท้องถิ่น เพื่อจะช่วยเพิ่มโอกาสในการไปทำตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *