เมื่อกระแสการค้าในโลกออนไลน์แรงแบบฉุดไม่อยู่ ก็ส่งผลธุรกิจที่อยู่รอบข้างเติบโตตามไปด้วย โดยเฉพาะภาคการขนส่งสินค้า ที่ผู้ประกอบการภาคเอกชนขอเข้ามาแบ่งเค้กชิ้นโตนี้ ชูความต่างด้วยบริการ เน้นความคล่องตัว ลดขั้นตอนยุ่งยากด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ตอบโจทย์แม่ค้ายุคดิจิตอลได้เป็นอย่างดี กับ “Siam Outlet” ผู้ช่วยหลังบ้านขายของออนไลน์
โอกาสในธุรกิจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกอาชีพ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองเห็นก่อนกัน อย่างอดีต เจ้าของธุรกิจออแกไนซ์ “ชญาภัค สหัชอติเรกลาภ” ได้ผันตัวเองเข้าสู่วงการลอจิสติกส์ ภายใต้ชื่อ 'Siam Outlet' สร้างความต่างด้วยระบบบริการหลังร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจร โดยเน้นพัฒนาบริการต่างๆ ให้กลุ่ม Chat Commerce ร้านค้าที่ขายของอยู่บน Facebook Instagram หรือ LINE ซึ่งเป็นกลุ่มร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในตลาดออนไลน์ ณ เวลานี้
โดยที่มาของธุรกิจนี้เกิดจากความอยากรู้อยากลองของอดีตเจ้าของธุรกิจรับงานออแกไนซ์ หลังจากเห็นตัวเลขการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจออนไลน์ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ว่าเพิ่มขึ้นทุกปี จึงอยากลองศึกษาเส้นทางธุรกิจนี้ดูบ้าง กระทั่งได้รู้จักน้องคนหนึ่งที่ขายของออนไลน์อยู่ ก็อาสาเข้าไปช่วยเหลือ โดยเฉพาะการช่วยแพกสินค้าที่มีเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่ได้ช่วยอย่างเต็มที่ เพราะน้องคนดังกล่าวเกรงจะจัดสินค้าผิดพลาด ทำให้เธอกลับมาคิดว่าขั้นตอนการบรรจุสินค้า และจัดส่งเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเสียเวลามาก ทำให้บางครั้งเจ้าของธุรกิจพลาดโอกาสในการขายสินค้า และเฝ้าหน้าเว็บเพจเพื่อสนทนากับลูกค้าที่พฤติกรรมส่วนใหญ่ของคนไทยต้องการจะสนทนากับเจ้าของธุรกิจโดยตรงก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า
ทำให้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาธุรกิจที่ชื่อว่า “Siam Outlet” จึงเกิดขึ้น ด้วย 6 บริการหลัก ได้แก่
1. Pick up - บริการรับของจากต้นทาง ไม่ว่าจะเป็นโรงงานที่ผลิตสินค้าในประเทศหรือต่างประเทศ
2. Preparation - เตรียมสินค้าให้พร้อมขาย ด้วยทีมงานมีอาชีพที่จะมาช่วยคุณตรวจสอบคุณภาพสินค้าทุกชิ้นให้ได้ตรงตามมาตรฐาน
3. Store - พื้นที่โกดังมาตรฐานสำหรับสินค้าทุกชนิด ทั้งแบบห้องปรับอากาศ และห้องอุณหภูมิปกติ
4. Pick/Pack - บริการจัดของ และแพกของด้วยพนักงานมืออาชีพ
5. Delivery - กับพันธมิตรธุรกิจที่เน้นให้บริการจัดส่งของที่มีคุณภาพ เช่น ไปรษณีย์ไทย DHL และ Sendit ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทุกรูปแบบ
6. Return - มีบริการที่ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถรับคืนของได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนไซส์ต่างๆ หรือแม้แต่ไม่พอใจในสินค้านั้นๆ อีกด้วย
“ธุรกิจแชตคอมเมิร์ซและอีคอมเมิร์ซกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชีย เราดำเนินธุรกิจได้ขวบปีเศษ แต่บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตกว่า 40 เท่า ภายในระยะเวลาเพียง 7 เดือน จึงเล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตด้านการให้บริการคลังสินค้าและลอจิสติกส์สำหรับร้านค้าออนไลน์ โดยวางงบลงทุน 20 ล้านบาท ขยายบริการให้ครอบคลุมความต้องการในทุกด้าน และขยายพื้นที่คลังสินค้าเพื่อรองรับตลาดแชตคอมเมิร์ซและอีคอมเมิร์ซที่มีมูลค่าตลาดกว่า 200,000 ล้าน”
ปัจจุบัน Siam Outlet มีคลังสินค้าอยู่ที่ สาธุประดิษฐ์ 58 มีพื้นที่ 100 ตารางเมตร โดยมีร้านค้าออนไลน์ที่ให้ความเชื่อมั่นและใช้บริการของ Siam Outlet กว่า 80 ราย มีจำนวนสินค้าที่ส่งออกจากโกดังเดือนละกว่า 10,000 ชิ้น นอกจากการให้บริการโกดังสำหรับร้านค้าออนไลน์แล้ว Siam Outlet ยังมีแผนพัฒนาบริการใหม่ที่จะเริ่มเปิดให้บริการภายในปี 2559 นี้อีกด้วย นั่นก็คือ บริการรับฝากส่งสินค้า โดยร้านค้าเพียงแค่นำสินค้ามาฝากส่งไว้ที่จุดให้บริการของ Siam Outlet ที่จะกระจายอยู่ทั่วประเทศ 100 แห่ง ภายในปี 2560 โดยจะทดลองเริ่มเปิดให้บริการนี้ในส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อนในช่วงเดือนธันวาคม 2559
ล่าสุด Siam Outlet ได้ร่วมมือกับ บริษัท อีโลจิส (e-LogiT) ยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น เพื่อขยายตลาดส่งออกสินค้าไทยขายที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทลอจิสติกส์ด้านอีคอมเมิร์ซอันดับ 1 ของญี่ปุ่น (No1 eCommerce logistics company) เพื่อส่งออกสินค้าจากกลุ่มผู้ประกอบการไทยที่มาใช้บริการคลังสินค้าและลอจิสติกส์กับสยาม เอาท์เลต ไปจำหน่ายในญี่ปุ่น ช่วยเปิดโอกาสให้ร้านค้าออนไลน์ไทยได้เปิดตลาดยังต่างประเทศ
***สนใจติดต่อ 0-2683-5846 หรือที่ www.siamoutlet.com***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *