เย็นตาโฟเครื่องทรง โดย อ.มัลลิการ์ ตัดสินใจขายแฟรนไชส์ครั้งแรกให้ “ไมเนอร์ กรุ๊ป” ปักธงรบในสิงคโปร์ หลังขยายสาขาเองในไทยและลาวนานกว่า 10 ปี เผยมั่นใจความเป็นมืออาชีพ และการตลาดของบริษัทระดับโลก นำร่อง 3 สาขาแรกในปีนี้ และอีก 4 สาขาในปี 60
นางมัลลิการ์ ธรรมวัฒนะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มัลลิการ์ แฟรนไชส์ จำกัด เปิดเผยว่า การตัดสินใจร่วมลงนามว่าด้วยการขยายแผนธุรกิจแฟรนไชส์ร้านเย็นตาโฟเครื่องทรง โดย อ.มัลลิการ์ ในประเทศสิงคโปร์นั้นเป็นการตัดสินใจนร่วมกับระหว่างบริษัทฯ และไมเนอร์ กรุ๊ป ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารและการตลาดในการขยายธุรกิจอาหารทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงขยายแบรนด์ของตัวเองด้วย ซึ่งการขยยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ของร้านเย็นตาโฟเครื่องทรงถือเป็นครั้งแรกที่มีการขยายสาขาโดยบริษัทอื่น หลังจากที่มีการขยายสาขาเองทั้ง 29 สาขา (ไทย 27 สาขา, สปป.ลาว 2 สาขา)
ทั้งนี้ ในการของการควบคุมการผลิตและรสชาติจะยังคงรสชาติดั้งเดิมเหมือนรับประทานในไทยทุกอย่าง โดยเฉพาะรสเผ็ดจัดจ้านที่ชาวสิงคโปร์มีไลฟ์สไตล์การรับประทานอาหารรสจัดไม่แตกต่างจากคนไทยมากนัก ขณะที่วัตถุดิบจะนำเข้าจากไทยประมาณ 50% และอีก 50% จะต้องใช้ในสิงคโปร์ ส่วนใหญ่เป็นของสด และนอกจากเมนูชูโรงอย่างเย็นตาโฟแล้วยังมีการนำเมนูอื่นๆ ในร้านไปด้วยทั้งหมด เช่น ลูกชิ้นปลาลวกจิ้ม ข้าวน้ำพริกลงเรือ ยำหนังปลาแซลมอนทอดกรอบ และขนมถ้วยสูตรโบราณ
“ความร่วมมือกับไมเนอร์ กรุ๊ป ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ขยายธุรกิจแฟรนไชส์ของบริษัทฯ เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหลายรายที่ขอซื้อแฟรนไชส์ แต่ด้วยความไม่พร้อมของทั้งสองฝ่าย จึงดำเนินแนวทางการขยายธุรกิจด้วยตัวเองมาโดยตลอด จนกระทั่งไมเนอร์ กรุ๊ป ได้ติดต่อขอร่วมขยายธุรกิจร้านเย็นตาโฟเครื่องทรงในประเทศสิงคโปร์ก็รู้สึกดีใจที่จะทำให้แบรนด์ร้านอาหารไทยไปแจ้งเกิดในต่างประเทศตามที่เคยวาดฝันไว้ หลังแบรนด์ธุรกิจอาหารจากต่างประเทศเข้ามาโกยรายได้จากไทยมาหลายสิบปี” อ.มัลลิการ์กล่าว
นายชยพล หลีระพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท มัลลิการ์ แฟรนไชส์ จำกัด กล่าวว่า การนำร้านเย็นตาโฟเครื่องทรงไปต่างประเทศ แม้จะมีบริษัทชั้นนำระดับโลกที่จะช่วยเข้ามาดูแลด้านการตลาด และการขยายสาขาแล้ว ในส่วนของร้านเย็นตาโฟเครื่องทรงก็ต้องมีการปรับระบบใหม่ทั้งหมด แม้ที่ผ่านมาทางร้านจะบริหารจัดการในส่วนของความสะอาด วัตถุดิบ ได้ตามมาตรฐานมาโดยตลอด แต่เมื่อไปประเทศก็ต้องทำให้มีมาตรฐานมากขึ้น โดยเฉพาะได้มาตรฐานของไมเนอร์ กรุ๊ป ถือเป็นสิ่งที่ดี ที่จะได้เรียนรู้ประสบการณ์การบริหารธุรกิจอาหารจากมืออาชีพที่มีแบรนด์อาหารไทยและเทศอยู่ทั่วโลก
ด้าน นางปัทมาวลัย รัตนพล ประเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และประเธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากประสบการณ์ของไมเนอร์ ที่ได้ลงทุนทำธุรกิจด้านร้านอาหารในประเทศสิงคโปร์มานั้น พบว่าชาวสิงคโปร์มีความชื่นชอบในอาหารไทยเป็นอย่างมาก และมีความรู้ ความคุ้นเคยเกี่ยวกับอาการไทยเป็นอย่างดี ซึ่งทางไมเนอร์มีความต้องการจะสร้างระดับมาตรฐานอาหารไทยเพื่อให้คนสิงคโปร์ได้รับประทานอาหารไทยที่ดีมีคุณภาพ
ทั้งนี้ บริษัท มัลลิการ์ แฟรนไชส์ ของ อ.มัลลิการ์ นั้นก็เป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพมาตรฐานและความอร่อย ขณะที่เย็นตาโฟในประเทศสิงคโปร์ก็มีให้ลิ้มลองและเป็นที่รู้จัก แต่รสชาติจะแตกต่างกันมาก ขณะที่เย็นตาโฟเครื่องทรง โดย อ.มัลลิการ์ มีเสน่ห์ความเป็นอาหารไทยที่อร่อย รับประทานง่าย เป็นอาหารจานเดี่ยวตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชาวสิงคโปร์ที่ต้องเร่งรับและนิยมรับประทานอาหารจานเดี่ยวเป็นทุนเดิม ซึ่งการขยายสาขาไปสิงคโปร์จะให้บริการแบบให้ลูกค้าบริการตัวเอง (Self Service) ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับดี โดยเบื้องต้นภายในปี 59 จะขยาย 3 สาขา ในเดือน พ.ย.ที่จะถึงนี้ในย่านใจกลางเมืองสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม ทางไมเนอร์ฯ มีแผนที่จะลงทุนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศสิงคโปร์ยังเป็นตลาดที่น่าลงทุนทางด้านอาหาร โดยวางแผนจะขยายร้านเย็นตาโฟเครื่องทรง โดย อ.มัลลิการ์ ในประเทศสิงคโปร์รวม 7 สาขา ภายในปี 2017 และไมเนอร์เชื่อว่าจะเติบโตในตลาดประเทศสิงคโปร์ได้เป็นอย่างดี
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *