“พี.พี.สยามลาเท็กซ์ ทุ่ม 300 ล้านบาท ต่อยอดธุรกิจผลิตภัณฑ์ยางพารา เปิดตัว “RubberLand” ณ เมืองพัทยา อุทยานการเรียนรู้เรื่องยางพาราแห่งแรกในเอเชีย ปั้นสู่แหล่งท่องเที่ยว ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์ยางพาราระบุเปิดให้คนไทยชมฟรี ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายนนี้
นายธนายุทธ ทองจินดาวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.พี. สยามลาเท็กซ์ จำกัด เผยว่า บริษัท พี.พี. สยามลาเท็กซ์ จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์ยางพาราโดยผลิตเป็นที่นอนและหมอนเพื่อสุขภาพ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่คือกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยภายหลังทำธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ยางพาราจนเป็นที่ยอมรับจึงเกิดแนวความคิดในการส่งเสริมธุรกิจสินค้ายางพาราเพื่อให้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น ประกอบกับในยุคปัจจุบันการทำธุรกิจไม่ใช่หมายถึงการขายอย่างเดียว แต่จะต้องเน้นการให้ความรู้และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ซื้อ จึงเป็นที่มาของการสร้าง “RubberLand” (รับเบอร์แลนด์) หรือดินแดนยางพารา เพื่อจะเป็นอุทยานการเรียนรู้เรื่องยางพาราและแหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ อยู่ที่พัทยากลาง บนพื้นที่กว่า 4,400 ตร.ม.ด้วยงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท
“ปัจจุบันการขายสินค้าหรือการให้บริการแบบทั่วๆ ไปไม่เพียงพอแล้ว โดยลูกค้าให้ความสำคัญของคอนเท็นน์และประสบการณ์ ที่จะได้รับมากขึ้น เพื่อให้เกิดความจดจำและความเชื่อมั่นในสินค้า อีกทั้งกลุ่มลูกค้าหลักของเราคือกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งแน่นอนคนกลุ่มนี้ต้องการเข้ามาท่องเที่ยวและชอปปิ้ง เราจึงเกิดไอเดียในการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวเฉพาะทางในเรื่องของยางพาราโดยเฉพาะ” นายธนายุทธกล่าว
ด้านนายฐวัฒน์ สมนะโนพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2558 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีรายได้สูงถึง 1,200 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละกว่า 30% และในอนาคตมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ RubberLand สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเป้าหมายสำคัญเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ครบทั้งสาระและบันเทิงสำหรับทุกคนในครอบครัว ด้วยเนื้อหาสาระที่ถูกนำเสนอครบทั้งสาระและความบันเทิง (Edutainment) ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ความบันเทิงแบบโต้ตอบผ่านเทคนิคมัลติมีเดีย และภาพสามมิติเสมือนจริง 3D Project Mapping โดยพื้นที่กว่า 80% เป็นพื้นที่ของอุทยานการเรียนรู้ และอีก 20% เป็นพื้นที่สำหรับชอปปิ้งสินค้ายางพาราและของที่ระลึก
สำหรับ RubberLand ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 4,400 ตร.ม. บนถนนสุขุมวิท พัทยากลาง รวบรวมเรื่องราวของ “ยางพารา” พืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย ผ่านสื่อการเรียนรู้เพื่อความบันเทิงแบบโต้ตอบ (3D Mapping) ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตวัฒนธรรม และภูมิปัญญาของคนไทยได้เป็นอย่างดี โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนหลักๆ คือ โซนศูนย์การเรียนรู้ แบ่งเป็น โซนป่ายาง, โซนแปรรูปยาง, โซนยางกับชีวิตประจำวัน, โซนมหัศจรรย์ยางพารา และโซนที่ 2 ที่เป็นโซนจำหน่ายสินค้ายางพาราและของที่ระลึก
สำหรับอัตราค่าเข้าชม คนไทยราคา 100 บาท เด็กความสูงตั้งแต่ 90-135 ซม. ราคา 60 บาท ผู้ใหญ่อายุ 60 ปีขึ้นไป และเด็กสูงต่ำกว่า 90 ซม.ไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นการฉลองการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เปิดให้คนไทยทุกคนได้เข้าชมฟรีตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายนนี้
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *