พาณิชย์’ เร่งส่งเสริม “ธุรกิจบริการก่อสร้างและวิศวกรรม” ให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล หลังธุรกิจก่อสร้างไทยเติบโตต่อเนื่อง รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษติดชายแดน พร้อมผลักดันสู่ตลาดอาเซียนที่ทุกประเทศกำลังให้ความสำคัญต่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ แนะพัฒนาการบริหารจัดการเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ และใช้ไอทีในการบริหารจัดการโครงการ บริหารงานการตลาด สร้างนวัตกรรมเพื่อขยายฐานลูกค้า เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางอภิรดี ตันตราภรณ์) มีนโยบายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งส่งเสริมธุรกิจบริการของไทยทุกประเภทให้มีความเข้มแข็ง มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อให้ภาคธุรกิจบริการของไทยมีความพร้อมในการแข่งขันและสามารถส่งออกภาคบริการสู่ตลาดต่างประเทศ เพราะประเทศไทยมีศักยภาพและจุดแข็งด้านการให้บริการที่เป็นเลิศจนเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ โดยมีความชำนาญ เชี่ยวชาญ ฝีมือและหัวใจบริการที่ยึดการตอบสนองลูกค้าเป็นหลัก จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะสร้างธุรกิจบริการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ จะเห็นว่าตัวเลข GDP ในไตรมาสแรกของปี 59 มีสัดส่วนของภาคบริการ 62% เติบโต 6.6% ในทุกกลุ่ม รวมทั้งกลุ่มธุรกิจก่อสร้าง
“กรมฯ ได้ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจบริการก่อสร้างและวิศวกรรมมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นพัฒนาด้านการบริหารจัดการธุรกิจให้มีมาตรฐาน เพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะเป็นแรงสนับสนุนให้การประกอบธุรกิจบริการก่อสร้างฯ เติบโตอย่างเข้มแข็งและมั่นคง
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่รอบแนวชายแดนของประเทศให้เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ จะยิ่งช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจบริการก่อสร้างฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังมีนโยบายส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการก่อสร้างฯ ขยายตลาดสู่กลุ่มประเทศอาเซียนด้วย โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังให้ความสำคัญต่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาประเทศ ซึ่งธุรกิจบริการก่อสร้างฯ เป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานฯ ธุรกิจบริการก่อสร้างฯ ของไทย จึงควรเร่งสร้างมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และเตรียมความพร้อมของธุรกิจอย่างเต็มที่เพื่อให้พร้อมขยายธุรกิจสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และคาดว่าธุรกิจบริการก่อสร้างฯ ของไทยจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากเทคโนโลยี/แรงงานก่อสร้างและวิศวกรรมของไทยมีฝีมือดีเป็นที่ยอมรับ จึงมั่นใจว่า “ธุรกิจบริการก่อสร้างฯ ของไทยเป็นที่ต้องการของตลาดเพื่อนบ้านและตลาดโลกอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มด้านตลาดที่ขยายเพิ่มมากขึ้น แต่แนวโน้มด้านนวัตกรรมวัสดุและเทคโนโลยีการก่อสร้างใหม่ๆ ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างต้องมีการเรียนรู้และปรับตัว จากการก่อสร้างโดยใช้แรงงานจำนวนมาก มาเป็นวิธีการประกอบจากวัสดุก่อสร้างสำเร็จรูป รวมถึงการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ ซอฟต์แวร์ และแอปพลิเคชันต่างๆ เข้ามาใช้ตั้งแต่การออกแบบ การบริหารโครงการก่อสร้าง จนกระทั่งการบริการหลังการขาย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าให้กว้างขวางมากขึ้น และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจให้มีความเข้มแข็งรองรับการขยายตัวภาคเศรษฐกิจของประเทศ
ดังนั้น นอกจากการให้ความสำคัญที่จะยกระดับมาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจบริการก่อสร้างและวิศวกรรม โดยเข้าไปให้คำปรึกษาแนะนำในการปรับปรุงและวางระบบการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งแก้ไขปัญหา อุปสรรค เพื่อพัฒนาและปรับปรุงระบบการบริหารจัดการ ณ สถานประกอบธุรกิจแล้ว ยังให้ความสำคัญต่อการเชื่อมโยงให้มีการนำเทคโนโลยี นวัตกรรมทางธุรกิจเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการ และสร้างโอกาสทางการตลาดให้ทันกับโลกยุคดิจิตอล และการเดินหน้าประเทศไทย 4.0 ที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์มาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ ซึ่งในวันที่ 16 มิถุนายน 2559 กรมฯ จะมีการพัฒนาความรู้ “การใช้ IT เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการธุรกิจก่อสร้างฯ” ณ ห้องม่วงนที กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยผู้เชี่ยวชาญการบริหารจัดการ ERP ซอฟต์แวร์การบริหารจัดการธุรกิจก่อสร้าง และการบริหารจัดการด้านบัญชี
ผู้ประกอบธุรกิจบริการก่อสร้างและวิศวกรรม สนใจที่จะพัฒนาองค์ความรู้การประกอบธุรกิจให้ก้าวทันโลกยุคใหม่ สามารถสมัครได้ที่ www.dbd.go.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ กองส่งเสริมธุรกิจชุมชน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร. 0-2547-5950 และ e-Mail : Researchdbd@gmail.com
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *