ด้วยมูลค่าตลาดขนมขบเคี้ยวในเมืองไทย หรือสแน็ก (SNACK) ต่อปีกว่า 2 หมื่นล้านบาท เฉพาะทำจากมันฝรั่งกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท นับเป็นขุมทรัพย์มหาศาลดึงดูดผู้ประกอบการหลายรายอยากเข้ามาขอแบ่งเค้ก
ทว่า ในยุทธจักรนี้เจ้าตลาดล้วนเป็นยักษ์ใหญ่ หน้าใหม่ที่จะแจ้งเกิดต้องมีจุดเด่นเฉพาะตัว อย่างแบรนด์ ‘คิวบ์ ครันซ์’ (CUBE CRUNCH) พลิกโฉมสแน็กมันฝรั่ง มาในรูปทรงเหลี่ยม “ลูกเต๋า” พร้อมกระบวนการผลิตที่เอาใส่ใจสุขภาพมากกว่า สร้างทางเลือกใหม่แก่ผู้บริโภค
เจ้าของผลิตภัณฑ์คือเอสเอ็มอีรุ่นใหม่จาก จ.เชียงใหม่ “ปอม-กฤตภาส โตไพบูลย์” วัย 30 ปี และ “เจี่ย-ศรัณยพงศ์ เจียรสาธิต” วัย 31 ปี ดำเนินธุรกิจภายใต้ บริษัท วังสิงห์คำ ฟู้ดส์ จำกัด
“จากที่เห็นมูลค่าตลาดสแน็กสูงมาก และเราได้เปรียบอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบ ซึ่งมันฝรั่งแทบทั้งหมดจะปลูกทางภาคเหนือตอนบน สร้างความได้เปรียบด้านประหยัดต้นทุนค่าขนส่ง ทำให้ผมเห็นว่านี่คือโอกาสสำหรับหน้าใหม่รายเล็กๆ อย่างเราจะแทรกตัวชิงส่วนแบ่งตลาดจากรายใหญ่ได้บ้าง ทว่า ต้องสร้างจุดเด่นที่แตกต่าง เป็นทางเลือกใหม่แก่ลูกค้า” กฤตภาสเล่าแรงจูงใจที่กระโดดเข้าสู่วงการ
ความพิเศษของสแน็กมันฝรั่ง‘คิวบ์ ครันซ์’ จะเป็นทรงเต๋าเล็กๆ ซึ่งการหั่นลักษณะเช่นนี้จะมีเฉพาะสินค้าท้องถิ่นในประเทศญี่ปุ่น กับสินค้านำเข้าจากจีน ส่วนในเมืองไทยยังไม่เคยมีมาก่อน จุดเด่นของทรงเต๋าเวลากัดจะได้รสสัมผัสของเนื้อมันฝรั่งมากกว่าแบบแผ่น อีกทั้งกระบวนการผลิตใช้วิธีสลัดน้ำมันสุญญากาศ (Vacuum Fryer) ซึ่งวิธีนี้ช่วยคงรสชาติและเนื้อสัมผัสของมันฝรั่งไว้ได้ดีกว่าการทอดปกติ รวมถึงยังมีน้ำมันเหลือตกค้างประมาณ 8% ในขณะที่การทอดแบบทั่วไปจะเหลือ 14%
นอกจากนั้น ทอดโดยน้ำมันรำข้าวแทนน้ำมันปาล์ม จึงมีคอเลสเตอรอลต่ำ ส่วนมันฝรั่งเจาะจงเป็นสายพันธุ์ “แอตเลนติก” เท่านั้น ซึ่งมีรสชาติค่อนข้างหวาน รวมถึงไม่ใส่ผงปรุงรสจากสารเคมีเลย (No MSG) แต่จะใช้ผงปรุงรสที่สกัดจากธรรมชาติล้วนๆ
ทั้งหมดประกอบกันทำให้ ‘คิวบ์ ครันซ์’ เป็นสแน็กมันฝรั่งที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าสินค้าประเภทเดียวกันในท้องตลาด
สำหรับความพิเศษต่างๆ ดังกล่าวนั้น กฤตภาสเผยว่า มาจากการวิจัยและพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วางตำแหน่งสินค้าให้เป็นสแน็กทางเลือกใหม่เพื่อผู้บริโภคที่นิยมขนมขบเคี้ยวแต่ก็ยังใส่ใจสุขภาพอยู่ด้วย โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก วัยรุ่น และคนรุ่นใหม่ ที่ปัจจุบันหันมาให้ความสำคัญต่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ
เงินกว่า 1 ล้านบาทถูกใช้เป็นทุนพัฒนาสินค้า กว่าจะสำเร็จกินเวลาเกือบ 1 ปี จากนั้นลงทุนอีกกว่า 10 ล้านบาทก่อสร้างโรงงาน ด้านแหล่งวัตถุดิบจะรับซื้อจากเกษตรกรในท้องถิ่นภาคเหนือตอนบน โดยให้ราคาเดียวกับราคากลางของตลาด เบื้องต้นมีสินค้า 3 รายการ ได้แก่ 1. มันฝรั่งอบกรอบ รสดั้งเดิม 2. มันฝรั่งอบกรอบ รสชีส และ 3. ฟักทองอบกรอบ ขายปลีกซองละ 20 บาท สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 1 ปี
เขาระบุด้วยว่า เบื้องต้นทำตลาดผ่านการขายในงานแสดงสินค้า จ.เชียงใหม่ ตามด้วยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน THAIFEX 2016 ที่ผ่านมา เพื่อจะหาตัวแทนขายจากทั่วประเทศ นอกจากนั้น กำลังติดต่อวางขายตามร้านสะดวกซื้อชั้นนำ และห้างสรรพสินค้าต่างๆ และก้าวต่อไปต้องการส่งออกต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดอาเซียน และเอเชีย
แผนธุรกิจที่วางไว้ นักธุรกิจหนุ่มระบุว่ายอดขายในปีแรกตั้งไว้ประมาณ 5 แสนบาทต่อเดือน และคืนเงินลงทุนภายใน 3 ปี ขณะเดียวกัน เตรียมนำสินค้าเกษตรอื่นๆ ในท้องถิ่นมาใส่นวัตกรรมเพื่อสร้างสรรค์เป็นสินค้าใหม่ เช่น ทำมันบดแช่แข็งพร้อมกิน เป็นต้น ควบคู่กับการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำในฐานะสแน็กใส่ใจสุขภาพเพื่อคนรุ่นใหม่
“ผมต้องการให้แบรนด์ของเราเป็นทางเลือกใหม่ของสแน็ก นอกเหนือจากสินค้าของแบรนด์ใหญ่ๆ ซึ่งในอนาคต ถ้าพูดถึงสินค้าจากวังสิงห์คำ ฟู้ดส์ ผมอยากให้ผู้บริโภคจดจำในฐานะผู้ผลิตขนมที่ทั้งอร่อย ทันสมัย และใส่ใจสุขภาพ นอกเหนือจากมันฝรั่งทรงเต๋าแล้ว เรายังมีสินค้าอื่นๆ ที่เตรียมไว้จะออกใหม่อีกหลายตัว” กฤตภาสกล่าวในตอนท้าย
โทร. 09-8747-2356
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *