เมื่อโคมไฟไม่ได้เป็นเพียงเครื่องใช้ให้แสงสว่างเท่านั้น แต่ต้องการให้เป็นอุปกรณ์ตกแต่งสถานที่อันโดดเด่น จากดีไซน์เรียบแข็งแรง สวยงามข้ามยุคสมัย และสามารถปรับให้ตรงตามความคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบภายในได้ดีที่สุด เหล่านี้ ประกอบกันเป็นคุณสมบัติของโคมไฟ แบรนด์ ‘Kalalumin’
เจ้าของผลงานดังกล่าว คือ “กัลย์ พงษ์อัชฌา” หรือ “ตาล” ซึ่งจบด้านออกแบบตกแต่งภายใน จากประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนจะกลับมาทำงานประจำในสายงานที่เรียนมาโดยตรงอยู่หลายปี
หนึ่งในปัญหาที่ตัวเอง มักพบเมื่อตอนทำงานเป็นนักออกแบบภายใน คือ หาโคมไฟในท้องตลาดที่มีดีไซน์ตามต้องการไม่ได้ เพราะในวงการผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ในงานบ้านแนวดีไซน์ มักจะลอกเลียนแบบกันสูงมาก ทำให้สินค้าในตลาดคล้ายกันไปหมด ขาดเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ขณะเดียวกัน หากนำเข้าสินค้าจากประเทศ ต้นทุนก็สูงมาก
“จากที่เราทำงานเป็นนักออกแบบภายในมาก่อน และมีเพื่อนๆ วงการนักออกแบบภายในจำนวนมาก ทุกคนจะพบปัญหาคล้ายกัน คือ หาอุปกรณ์ที่เหมาะจะไปใช้ในงานตกแต่งภายในตามไอเดียของตัวเองจริงๆ ได้ยาก ทำให้อยากจะทำสินค้าที่มาแก้ปัญหาตรงนี้ ซึ่งส่วนตัว ตาลชอบงานโคมไฟ เลยคิดอยากจะทำโคมไฟที่มีดีไซน์ตามแบบฉบับของตัวเอง” สาวตาล ระบุ
สำหรับแนวคิดในการออกแบบโคมไฟแบรนด์ ‘Kalalumin’ เธอบอกว่า เน้นเป็นสไตล์เรียบเท่ ดูสุขุม มองนานๆ แล้วไม่เบื่อ อยู่ได้นานทุกยุคทุกสมัย และเข้ากันได้ดีกับทุกสถานที่ โดยดีไซน์เด่นจะเน้นวัสดุเป็น “เส้นเหล็ก” นำมาเชื่อมประกอบกันในคล้ายทรงเลขาคณิต ดูเรียบและแข็งแรง
กัลย์ เผยต่อว่า ใช้เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 1 แสนบาท โดยการผลิต ใช้วิธีไปว่าจ้างช่างผู้เชี่ยวชาญด้านการทำโคมไฟโดยเฉพาะ ผลิตให้ตามแบบที่ต้องการ ให้ความสำคัญต่อการเชื่อมเหล็กให้เรียบเนียนสนิท ไม่มตำหนิรอยเชื่อม อีกทั้ง ทำสีด้วยมาตรฐานและวิธีการเดียวกับทำสีของรถยนต์ เพื่อให้โคมไฟออกมาดูสวยเนี๊ยบที่สุด
ผลงานโคมไฟ ‘Kalalumin’ ชุดแรกทำออกมา 12 แบบ มีชื่อผลงานต่างๆ เช่น Vole Komeloy Town Sunflower เป็นต้น วางกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่วางไว้ ได้แก่ นักออกแบบ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ รีสอร์ต หรือโรงแรม ที่ต้องการโคมไฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปใช้ตกแต่งสถานที่ต่างๆ
และที่สำคัญ เนื่องจากเคยทำงานเป็นนักออกแบบภายในมาก่อน เมื่อมาเป็นผู้ผลิตสินค้าเสียเอง จึงรู้ใจนักออกแบบด้วยกันเป็นอย่างดี ดังนั้น โคมไฟ ‘Kalalumin’ จึงมีทางเลือกพิเศษ ให้ลูกค้านักออกแบบสามารถระบุความต้องการเฉพาะลงมาในโคมไฟได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาด สี ลูกเล่นพิเศษอื่นๆ ไปจนถึงลักษณะของแสงจากหลอดไฟที่ออกมา เพื่อให้เหมาะกับบรรยากาศของสถานที่มากที่สุด
“เนื่องจากตาลเคยทำงานออกแบบภายในมาก่อน จะรู้ดีว่า สินค้าบางตัวเราอาจจะชอบดีไซน์มาก แต่หากขนาดหรือสี ไม่เหมาะกับสถานที่ หรือพื้นที่ ก็ไม่สามารถนำไปใช้ได้ ดังนั้น การทำงานของ ‘Kalalumin’ จะทำเป็นรายชิ้น เฉพาะลูกค้าเป็นรายๆ (custom made) โดยเราจะมีโคมไฟแบบพื้นฐานอยู่แล้ว แต่ลูกค้าสามารถกำหนดเสริมได้ว่า ต้องการขนาดเท่าใด สีใด หรือให้ลักษณะใด เช่น ตั้ง หรือแขวน อีกทั้ง สั่งลักษณะแสงที่ออกมาจากหลอดไฟได้ว่า ต้องการให้แสงเป็นอย่างไร ไม่ว่าสว่างขาวแบบ LED แสงแบบนวล แสงระยิบระยับ ฯลฯ ซึ่งจุดนี้ เราปรับให้ตรงต่อการใช้งาน เป็นการตอบโจทย์การทำงานให้แก่ดีไซน์เนอร์ได้อย่างดี” กัลย์เผยจุดเด่นสินค้าที่ต้องการอำนวยความสะดวกแก่นักออกแบบอย่างแท้จริง
สำหรับช่องทางตลาดนั้น จะเน้นนำสินค้าไปเสนอยังกลุ่มนักออกแบบภายใน เพื่อนำไปใช้ตกแต่งสถานที่ต่างๆ เช่น บ้าน โรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เป็นต้น รวมถึง มีขายปลีกทั้งผ่านสื่อออนไลน์ ฝากขายตามหน้าร้าน และห้างสรรพสินค้า ที่เน้นสินค้าแนวดีไซน์ นอกจากนั้น ยังได้เข้าร่วมกลุ่ม “Design Plan” ซึ่งเป็นการรวมตัวของนักออกแบบไทยรุ่นใหม่ ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ พาไปออกงานแสดงสินค้าด้านดีไซน์ของผู้ประกอบการไทย ทั้งในและต่างประเทศ เช่น งาน BIG&BIH ที่ผ่านมา เป็นต้น
สำหรับโคมไฟแบรนด์ ‘Kalalumin’ ออกสู่ตลาดมาประมาณ 2 ปีแล้ว มีสินค้ารวมกันนับถึงปัจจุบัน มากกว่า 20 รายการ ราคาเฉลี่ยชิ้นละประมาณ 3,500 บาท กลุ่มผู้ซื้อกว่า 80% จะเป็นนักออกแบบ นอกจากนั้น ขายปลีกแก่ลูกค้าคนไทย และลูกค้าต่างชาติ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และจากประเทศแถบตะวันออกกลาง เป็นต้น
ไม่เพียงแค่โคมไฟเท่านั้น ขณะนี้ได้นำดีไซน์ของโคมไฟไปประยุกต์ทำเป็นเครื่องประดับ เช่น ต่างหู สร้อยคอ เป็นต้น โดยเปลี่ยนวัสดุที่ใช้จากเหล็กมาเป็น “เงิน” แทน เพื่อขยายหาลูกค้ากลุ่มใหม่
“เนื่องจากลูกค้าจำนวนมาก ที่เห็นโคมไฟ แล้วบอกว่า สวยเหมือนเครื่องประดับเลย ตาลเลยได้ไอเดียว่า ในเมื่อเรามีดีไซน์ของตัวเองแล้ว น่าจะต่อยอดให้เป็นสินค้าตัวอื่นๆดูบ้าง เลยทำมาเป็นเครื่องประดับ เปลี่ยนวัสดุมาใช้เป็นเครื่องเงินเพื่อเพิ่มมูลค่า” สาวตาลเผย
สำหรับแผนการพัฒนาสินค้าขั้นต่อไปนั้น นักออกแบบสาวระบุว่า จะเพิ่มเติมใช้เศษวัสดุธรรมชาติเหลือทิ้ง มาผสมผสานในงานโคมไฟเหล็ก เพื่อตอบรับเทรนด์สีเขียว ซึ่งตลาดโลกกำลังให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ตัวอย่างเช่น นำเศษไม้สักจากโรงงานเฟอร์นิเจอร์มาผสมผสานกับเหล็กเส้น กลายเป็นโคมไฟรักษ์โลก เป็นต้น
ควบคู่กับยังคงจุดเด่นเน้นสไตล์ที่เรียบเท่ ไม่อิงกระแสแฟชั่นแค่เวลาใดเวลาหนึ่ง และที่สำคัญ สามารถปรับรูปแบบให้เหมาะแก่การนำไปใช้งานของเหล่าดีไซน์เนอร์เช่นเดิม
ติดต่อ โทร.081-721-1780 , www.kalalumin.com/ IG: Kalalumin , FB: /kalalumin
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *