xs
xsm
sm
md
lg

อวท.โชว์งานวิจัยเวชสำอาง คว้า 2 รางวัลระดับโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

มาร์สหน้าสมุนไพรไทย
อวท.โชว์ผลงานวิจัยเวชสำอาง บริษัท เบร คอสเมติก แลบ ซิว 2 รางวัลระดับโลก จากสวิตเซอร์แลนด์ ชูนวัตกรรมงานวิจัยแผ่นมาส์คหน้าจากธรรมชาติ สร้างความต่าง เพิ่มมูลค่าสินค้ารับการแข่งขันตลาดทั้งใน-นอกประเทศ ตั้งเป้ายอดขายปีแรกเติบโต 30 ล้านบาท

ดร.เจนกฤษณ์ คณาธารณา ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (อวท.) เปิดเผยว่าถึงความสำเร็จของงานพัฒนาวิจัยภายในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ที่ล่าสุดทีมวิจัยของบริษัท เบร คอสเมติก แลบ และศูนย์วิจัยนวัตกรรมความงาม ของบารามีแลบบอราทอรีส์ หนึ่งในบริษัทที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สามารถคว้า 2 รางวัลชนะเลิศ สเปเชียลอะวอร์ดออนสเตจ (Special Award on Stage) และรางวัลเหรียญทอง (Gold Medal) จากงาน “2016 เจนีวา อินเตอร์เนชันแนล อินเวนชัน เอ็กซิบิชัน” (2016 Geneva International Invention Exhibition) ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ทั้งนี้ งานประกวดนวัตกรรมที่ใหญ่ระดับโลก มีงานวิจัยจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกกว่า 30 ประเทศ ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดกว่า 1,000 ผลงาน โดยความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของงานพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างและเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าด้วยธรรมชาติ 100% ของบริษัท เบร คอสเมติก แลบ และได้วางแผนจะออกขายสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศประมาณ ไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยคาดว่าจะได้รับความใจจากตลาดเนื่องจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้านความงามมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“จากความสำเร็จในครั้งนี้ต้องการให้บริษัทต่างๆ เห็นความสำคัญต่อการวิจัย พัฒนา นวัตกรรมใหม่ๆ มากขึ้น เพราะจะสามารถสร้างทั้งมูลค่าเพิ่ม และจุดเด่นที่แตกต่างให้กับสินค้าสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน โดยอุทยานวิทยาศาสตร์ “เป็นนิคมวิจัยสำหรับเอกชน” ที่ครบวงจรพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือและสนับสนุนโดยมีพื้นที่พร้อมสำหรับการวิจัยโดยเฉพาะ พร้อมเครื่องมือวิจัยที่ทันสมัย เป็นศูนย์รวมของบุคลากรด้านการวิจัยที่สามารถช่วยเหลือเรื่ององค์ความรู้ใหม่ๆ ทำให้สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการต่อยอดเชื่อมโยงงานวิจัยให้เกิดผลสำเร็จได้เร็วขึ้น ซึ่งผลงานของ บริษัท เบร คอสเมติก แลบ ดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่อยากให้เป็นแรงกระตุ้นให้บริษัทอื่นๆ ได้เห็นความสำคัญ” ดร.เจนกฤษณ์กล่าว

ด้าน นพ.บรรลือ กองไชย ประธาน บริษัท เบร คอสเมติก แลบ และบริษัทในเครือ เจ้าของผลงานวิจัย เปิดเผยว่า ผลงานที่ส่งเข้าประกวดเป็นผลิตภัณฑ์ แผ่นมาสก์หน้าจากธรรมชาติ 100% เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องสำอางตัวแรกของโลกที่ได้นำเอาธรรมชาติและเสียงดนตรีบรรเลงนำนั่งสมาธิมาผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวเพื่อช่วยในการฟื้นฟูผิว สำหรับผลิตภัณฑ์แผ่นมาสก์หน้ามีทั้งหมด 6 สูตร โดยทุกสูตรมีส่วนประกอบสำคัญที่ได้จากธรรมชาติ 100% ได้แก่ ถ่านไม้ไผ่ ฟักข้าว ฟ้าทะลายโจร มะขาม ทานาคาและขมิ้น แต่ละสูตรจะมีเสียงดนตรีนำนั่งสมาธิเฉพาะ รวม 6 เพลง เช่นกัน และจากการผสมผสานกันอย่างลงตัวนี้ ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ Special Award on Stage และรางวัล Gold Medal จากงาน 2016 Geneva International Invention Exhibition ที่จัดขึ้นเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา
รางวัลที่ได้รับ
“ผลิตภัณฑ์ของเรามีจุดเด่น คือ ได้จากธรรมชาติ 100% เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกของโลกที่ผสมผสานเสียงเพลงบรรเลงนำนั่งสมาธิในขณะที่กำลังใช้งานแผ่นมาสก์หน้านี้ โดยไม่มีสารกันบูด ไม่แต่งสี และมีรางวัล Gold Medal และ Special Award on Stage จากเจนีวา เป็นเครื่องประกันคุณภาพ โดยคาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ดำเนินการผลิตภายใต้มาตรฐาน GMP และ ISO: 9001 โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 30 ล้านบาทสำหรับปีแรก” นพ.บรรลือ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัท เบร คอสเมติก แลบ เป็นห้องวิจัยและพัฒนาเครื่องสำอาง มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้ามากกว่า 10 ปี โดยในปี 2556 ทางบริษัทฯ ได้ร่วมกับบริษัทบารามี แลบบอราทอรีส์ ก่อตั้งศูนย์วิจัยนวัตกรรมความงาม (Beauty Innovation Research Center : BIRC) ขึ้นในพื้นที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (Thailand Science Park) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่สามารถแก้ปัญหามลภาวะที่ส่งผลกระทบต่อเซลล์ผิวหน้าอย่างถาวร โดยเน้นการใช้ธรรมชาติในการบำบัด

“โครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากทีมนักวิจัยจากวิทยาลัยการแพทย์แผนไทยและทีมงานจากภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี่ราชมงคล ธัญบุรี และการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (National Science and Technology Development Agency) เป็นเวลาเกือบ 3 ปีในการทำวิจัย จนท้ายที่สุดทำให้ได้ผลิตภัณฑ์เป็นแผ่นมาส์คหน้าที่ได้จากธรรมชาติอย่างแท้จริง” นพ.บรรลือกล่าว

นอกจากนี้ ความสำเร็จดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (อวท.) ในฐานะที่เป็นนิคมวิจัยที่ครบวงจรที่สุดในประเทศเป็นศูนย์รวมนักวิจัยที่มีความสามารถหลากหลายในการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเชื่อมโยงงานวิจัยได้เร็วพร้อมมีเครื่องมือวิจัยที่ทันสมัยไว้บริการ รวมถึงมีนักวิจัยที่มีความรู้ความสามารถคอยให้ความช่วยเหลือเรื่องด้านองค์ความรู้ใหม่ๆ มาคอยช่วยเหลือเรื่องกระบวนการต่างๆ ให้มีความครบวงจรมากขึ้น
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น