กสอ.จับมือจังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น หาแนวทางหนุนเอสเอ็มอีทั้งสองชาติ เล็งพัฒนาไหมไทยไปใช้เชิงอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเครื่องมือทางการแพทย์ พร้อมนำหน่วยงานไทยคัดออกงานแฟร์ใหญ่ แลกเปลี่ยนนวัตกรรมระหว่างกัน
นายประสงค์ นิลบรรจง รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ประชุมร่วมกับนายอะคิมาสะ ยามาชิตะ (Mr. Akimasa Yamashita) รองผู้ว่าราชการจังหวัดเกียวโต เพื่อหารือแนวทางสนับสนุนเอสเอ็มอีของสองประเทศ
ทั้งนี้ จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นในอุตสาหกรรมชั้นสูง เช่น เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ พลังงานทดแทน หุ่นยนต์ และอุตสาหกรรมสิ่งทอและเคมีภัณฑ์ ทว่า จังหวัดเกียวโตมีสภาพอากาศไม่เหมาะสมในการปลูกหม่อนเลี้ยง จึงมีนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมไหมร่วมกับประเทศไทย โดยตั้งเป้าพัฒนาอุตสาหกรรมไหมของทั้งสองประเทศให้สามารถขยายไปสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น การแพทย์ และอาหาร นอกเหนือจากแค่อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม โดยผู้ประกอบการจากจังหวัดเกียวโตเห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยเพราะไทยมีรากฐานการผลิตไหมที่เข้มแข็ง มีชื่อเสียงด้านการเลี้ยงไหม และผ้าไหมไทยมีคุณภาพดี มีความแวววาวที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษ และได้รับความนิยมสูงจากผู้บริโภคในต่างประเทศ โดยหวังว่าหากประเทศไทยโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและจังหวัดเกียวโตร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าวน่าจะก่อให้เกิดการขยายโอกาสทางเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5
นายประสงค์กล่าวด้วยว่า จังหวัดเกียวโตเตรียมจัดงาน Kyoto Smart City Expo 2016 ระหว่างวันที่ 1-3 มิถุนายน 2559 จึงขอให้กรมฯ เป็นตัวกลางประสานงานกับมหาวิทยาลัยต่างๆ และหน่วยงานรัฐที่มีงานวิจัย หรือนวัตกรรมใหม่ๆ สามารถนำมาจัดแสดงหรือเสนอในงานดังกล่าวได้เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางนวัตกรรมและงานวิจัยร่วมกัน
“จ.เกียวโต มีศักยภาพด้านอุตสาหกรรมเชิงนวัตกรรมซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่มีนโยบายปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจให้เน้นพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 กลุ่ม หรือ S-Curve ซึ่งเป็นโอกาสดีที่อุตสาหกรรมในประเทศไทยจะได้เรียนรู้นวัตกรรมชั้นสูงจากญี่ปุ่นเพื่อนำมาปรับใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศต่อไป” นายประสงค์กล่าว
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *