กระทรวงพาณิชย์ ยึดฤกษ์ดีวันสถาปนา “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ครบรอบ 93 ปี เปิดตัวกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ เพื่อนำทาง SMEs ไทยพบ ‘โอเอซิสแหล่งเงินทุน’ แจงผลงานปี 58 เปลี่ยนผ่านระบบเอกสารไปสู่ยุคเทคโนโลยีไร้สาย ประสบความสำเร็จ 2 ระบบ ปรับปรุงข้อมูลใน Application DBD e-Service และนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ DBD e-Filing
นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานครบรอบ 93 ปี กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่า กรมฯ ได้เปิดตัวกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจอย่างเป็นทางการ เป็นกฎหมายฉบับที่ 10 ที่กรมฯ รับผิดชอบในการบริการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ก.ค. 2559 โดยจะเป็นการสร้างโอกาสครั้งสำคัญให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจได้นำทรัพย์สินประเภทต่างๆ ในธุรกิจมาใช้เป็นหลักประกัน ในการขอสินเชื่อซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สถาบันทางการเงินในการปล่อยสินเชื่อมากยิ่งขึ้น ส่งผลดีต่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบธุรกิจ นำไปสู่การเติบโตในระบบเศรษฐกิจของไทยตามมา
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมฯ ยังได้จัดงานเสวนาให้ความรู้ แก่ SMEs เกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าวไปแล้ว ภายใต้หัวข้อ “SMEs ได้อะไรจากกฎหมายหลักประกัน” และในปี 2559 กรมฯ ได้ปรับปรุงและพัฒนาเพื่อเปลี่ยนผ่านการให้บริการในรูปแบบเอกสารไปสู่ยุคเทคโนโลยีแบบไร้สายที่จะเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการที่ทันกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่จะสร้างนักรบทางเศรษฐกิจและผลักดันเข้าสู่เศรษฐกิจแบบ Digital Economy โดยดำเนินการแล้วใน 2 ด้านคือ 1) การปรับปรุงข้อมูลใน Application DBD e-Service 2) การพัฒนาระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ DBD e-Filing
นายวินิจฉัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าครบรอบ 93 ปี ในปีนี้ (2559) กรมฯ ยังได้จัดกิจกรรมสัปดาห์ Franchise Day 2016 โดยเริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 19 ถึง 22 ม.ค.59 มีผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ชั้นนำและหน่วยงานพันธมิตรเข้าร่วมกว่า 193 บูท ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูล กลยุทธ์การทำธุรกิจที่ทันสมัย เรียนรู้ประสบการณ์การทำธุรกิจแฟรนไชส์จากผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จตัวจริง และขอรับคำปรึกษาแบบรายบุคคลก่อนเลือกช็อปปิ้งธุรกิจแฟรนไชส์ได้อย่างมั่นใจ พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อต่อยอดธุรกิจของตนเองเข้าสู่ระบบมาตรฐานแฟรนไชส์ อันจะสร้างโอกาสและอาชีพที่มั่นคงให้ก้าวไปสู่ตลาดโลก
ด้านน.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และแฟรนไชส์ สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น ลดต้นทุนจากดอกเบี้ยที่ต่ำลง ขณะที่สถาบันการเงิน จะลดความเสี่ยงด้านสินเชื่อ ลดต้นทุนด้านการเงิน ซึ่งในระยะยาวจะช่วยแก้ปัญหาสินเชื่อนอกระบบได้ ทำให้ภาคการเงินโปร่งใสและมีเสถียรภาพมากขึ้น
สำหรับขั้นตอนการขอจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ มีดังนี้ ขั้นที่ 1 ผู้ประกอบการ SMEs ต้องตกลงทำสัญญาหลักประกันทางธุรกิจกับสถาบันการเงิน ขั้นที่ 2 สถาบันการเงิน จดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจออนไลน์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขั้นที่ 3 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รับจดทะเบียนและแจ้งข้อมูลต่อหน่วยงานทรัพย์สินที่มีทะเบียน / เจ้าหนี้อื่น และ ขั้นที่ 4 ผู้ประกอบการ SMEs, สถาบันการเงิน, ประชาชนทั่วไป ตรวจค้นข้อมูลทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ ผ่าน www.dbd.go.th
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการ SMEs สามารถนำทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจเป็นหลักประกันได้ เช่น กิจการ สิทธิเรียกร้อง (สัญญาเช่า, ลูกหนี้ทางการค้า) สังหาริมทรัพย์ (เครื่องจักร, สต็อกสินค้า) อสังหาริมทรัพย์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดินจัดสรร คอนโดมิเนียม) ทรัพย์สินทางปัญญา (ลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้า) โดยผู้ประกอบการไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินให้กับเจ้าหนี้ ยังคงสามารถใช้ทรัพย์สินนั้นในการประกอบธุรกิจได้
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
