ความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนเริ่มต้นนับจากสิบในขณะที่บางคนต้องเริ่มต้นจากศูนย์ อย่าง ผู้หญิงคนนี้ “เสาวลักษณ์ เขียวรอดไพร” เจ้าของแฟรนไชส์ปังเย็นจัมโบ้ เธอไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ แต่เธอเริ่มต้นแบบติดลบ ด้วยระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนเธอมีเงินหลักแสน และหลักล้านบาท เพียงเพราะการเลือกสินค้า เลือกตลาด ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา
“เสาวลักษณ์” เล่าว่า จุดเริ่มต้นของธุรกิจ ร้านปังเย็นจัมโบ้ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะก่อนจะมาเปิดร้านปังเย็น ทำมาหลายอย่าง และอาชีพสุดท้าย คือ การเปิดร้านขายผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศ ที่ตลาดสวนหลวง ร. 9 ตอนนั้นเรียกว่าหมดตัวเลยก็ว่าได้ เพราะผลไม้ที่ซื้อมาขายไม่ได้เลย เน่าหมด เงินทุนที่ลงไปเป็นแสนบาทหมดไปในพริบตา มีเงินเหลือติดตัวไม่กี่บาท แต่ชีวิตคนเราต้องเดินต่อ จนได้มากินอาหารร้านเพื่อน ทำขนมปังน้ำแข็งไสชามโต มาให้ ก็เกิดไอเดียเลยว่า จะขายน้ำแข็งไสนี่แหละ แต่ต้องเป็นขนาดจัมโบ้ แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
หลังจากคิดว่าจะทำ ตนเองและแฟนหนุ่ม ก็หยิบยืมเงินมา 6,000 บาท ไปหาซื้อของ และไปขอพื้นที่ขายที่ตลาดนัดเดอะวอล์ก ที่เกษตรนวมินทร์ ตอนนั้นไม่มีพื้นที่ แต่อ้อนวอนขอกับเจ้าของตลาด เห็นใจว่าเรากำลังลำบาก ก็เลยได้ขาย ปรากฏว่า ไม่ผิดหวัง เพราะของที่เตรียมมาขายหมด ได้เงินกลับบ้าน พร้อมกำไร หลักพันบาท หลังจากนั้น ขายดีขึ้น ตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง มีรายการโทรทัศน์มาถ่ายทำ พอรายการออกอากาศขายดีมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว วันหนึ่งขายได้เกือบ 20,000 บาท และเป็นที่มาของแฟรนไชส์ เพราะมีคนเห็นในรายการสนใจอยากขายแบบเราบ้าง ก็เลยตัดสินใจขายแฟรนไชส์
สำหรับราคาของปังเย็นจัมโบ้ เริ่มต้นที่ 40 บาท และ 80 บาท แต่ระยะหลังมีคนทำเลียนแบบเยอะมาก ก็เลยหันมาออกแบบถ้วยให้ใหญ่ขึ้นอีก เป็นถ้วยโคนคล้ายดอกไม้ ราคาเปลี่ยนไปตามขนาด เริ่มที่ 89 บาท ไปจนถึง 129 บาท ซึ่งรูปแบบถ้วยโคนนี้ ส่วนหนึ่งตั้งใจที่จะทำออกมาเพื่อ รองรับการเปิดร้านครั้งแรก
“เดิมเราไม่ได้มีร้าน แต่จะเป็นการตั้งโต๊ะขาย ไม่มีที่ให้ลูกค้านั่งกิน ลูกค้าซื้อและเดินกิน และจากการที่เราเริ่มต้นมาจากการเป็นแม่ค้าตลาดนัด ค่อนข้างเข้าใจลูกค้า ว่าต้องการอะไรที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป พอมาเปิดร้าน พยายามทำสินค้าให้คุ้มกับเงินที่ลูกค้าจ่าย แม้ว่า การขายแบบมีหน้าร้าน ราคาปรับเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่ปริมาณที่ให้ก็คุ้มกับเงินที่ลูกค้าจ่าย”
“เสาวลักษณ์” บอกว่า แม้ว่า เธอจะเปิดร้านใหญ่โต แต่ก็คงยังไม่ทิ้ง การตั้งโต๊ะขายในตลาดนัด เพราะเป็นสิ่งที่ถนัด และที่สำคัญลูกค้าบางกลุ่มก็ไม่ชอบการนั่งกินในร้านใหญ่ แต่ชอบที่จะซื้อและเดินกินมากกว่า จึงยังคงมีขายแบบเดิมควบคู่ไปด้วย ส่วนผลตอบแทนใกล้เคียงกัน บางครั้งการตั้งโต๊ะขาย ผลตอบแทนอาจจะมากกว่ามีร้าน เพราะไม่ต้องแบกรับต้นทุนค่าเช่าร้านที่สูงมาก
ทั้งนี้ ปัจจุบัน "เสาวลักษณ์" เลือกเปิดร้านที่ เจ เจ กรีน ใช้ชื่อว่า Flower Ice Café เปิดมาได้ประมาณ 4 เดือน ค่าเช่าเดือนละ 25,000 บาท ขายสัปดาห์ละ 3 วัน 1 สัปดาห์ มีรายได้ประมาณ 1 แสนถึง 2 แสนบาท ส่วนการตั้งโต๊ะค่าเช่า วันละ 400 บาท ขายได้วันละ 15,000 บาท ถึง 20,000 บาท เปิดทีตลาดนัด เจ เจ กรีน เช่นกัน (ผลตอบแทนกำไร 120%)
สำหรับเมนูของปังเย็นจัมโบ้ มีให้เลือกมากถึง 14 เมนู ได้แก่ โกโก้ ,ภูเขาไฟลาวา, ชาเขียวถั่วแดง, ชาไทยอัลมอน, นมสด, ฟรุตสลัด, น้ำแดงฟรุตสลัด, ภูเขาไฟบราวนี่ เป็นต้น ในอนาคตมีเมนูใหม่เพิ่มขึ้นมาเรื่อย เพราะต้องหนีการแข่งขันที่มีสูงขึ้น โดยเมนูใหม่ ส่วนหนึ่งมาจากคิดเอง และการได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อดูว่า มีเมนูอะไรน่าสนใจ ก็นำกลับมาปรับเพื่อให้เป็นเมนูใหม่ ของทางร้านต่อไป
“เสาวลักษณ์” เล่าถึงแฟรนไชส์ว่า เริ่มเปิดขายแฟรนไชส์มาได้ประมาณ 6 เดือน มีสาขา 50 สาขา ทั่วประเทศ ส่วนราคาแฟรนไชส์ เริ่มต้นที่ 12,000 บาท และ 39,000 บาท ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับรูปแบบของเครื่องปั่นน้ำแข็ง โดยลูกค้าแฟรนไชส์จะต้องรับถ้วยโคม และ ผงชงน้ำ จากทางเจ้าของแฟรนไชส์เท่านั้น ส่วนผสมอื่นๆ ให้ลูกค้าสามารถไปหาซื้อเองได้ แต่อยากให้ลูกค้าใช้สินค้าคุณภาพ เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพเช่นเดียวกันทุกสาขา
บทสรุป ของ "ปังเย็นจัมโบ้" ในครั้งนี้ ทำให้เรามองเห็นว่า การกล้าคิดที่จะนำเสนอสิ่งที่แตกต่าง และเลือกทำเลที่ดี เลือกเวลาที่ถูก อย่าง "เสาวลักษณ์" ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก ซึ่งเธอเลือกที่จะขายตลาดนัดกลางคืน เพราะเป็นตลาดที่คนเดินหาอะไรที่แปลกใหม่ และเมื่อใครเห็นก็ต้องถ่ายรูปอวดกันในโลกโซเชียล แค่นี้ ก็ไม่ต้องทำการตลาดอะไรมาก เพราะทุกอย่างเกิดจากการบอกต่อ และตราบถ้าสินค้าของเรามีความทันสมัยในแบบที่ใครไม่ได้ชิมแล้วเชย สุดท้ายจากชีวิตที่ล้มเหลว ต้องลาออกจากโรงเรียน เพราะแม่ติดการพนัน หมดเงินไปกว่า 30 ล้านบาท จากชีวิตคุณหนู ก็กลายมาเป็นคนยากจน และสุดท้ายความจนก็อยู่กับเธอไม่นาน
โทร. 082-096-5550 www.facebook.com/ปังเย็นจัมโบ้
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *